รีโว่ ไทยลีก เดินทางมาถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาล 2022/23 แล้ววันนี้ (12 พ.ค.) โดยจะลงสนามพร้อมกัน 8 คู่ เริ่มคิกออฟ 18.00 น.
โฟกัสนัดสั่งลา ฟุตบอลลีกสูงสุดของเมืองไทย มีอะไรน่าสนใจที่ต้องติดตาม
–งานเลี้ยงที่ช้างอารีน่า
“ปราสาทสายฟ้า” ของ “ลุงเนวิน” อดสร้างสถิติไร้พ่าย หลังถูก บียู หยุดยั้งที่ ทรู สเตเดียม ก่อนจะโดน การท่าเรือ ของ “มาดามแป้ง” บุกมาลบอาถรรพ์ และยังเป็นการปราชัยในบ้านนัดแรกของซีซั่น ทำให้การได้เล่นเกมส่งท้ายที่ ช้าง อารีน่า ต้อนรับ นครราชสีมา พร้อมจะมีพิธีมอบถ้วยอย่างเป็นทางการ แน่นอนว่า บุรีรัมย์ ต้องการฉลองแชมป์อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
–งานฉลองดาวซัลโว
นอกจาก บุรีรัมย์ ต้องการชัยชนะเพื่อฉลองงานมอบถ้วยแชมป์แล้ว อีกหนึ่งที่พวกเขาคาดหวังคือตำแหน่ง “ดาวซัลโว” จาก ศุภชัย ใจเด็ด ที่ยืนหนึ่งคู่กับ ซามูเอล โรซ่า ของ พีที ประจวบ ด้วยจำนวน 17 ประตูเท่ากัน ซึ่งถ้า “เจ้าอาร์ม” ทำสำเร็จ จะเป็นนักเตะไทยในรอบ 10 ฤดูกาล นับตั้งแต่ ธีรศิลป์ แดงดา เคยทำได้เมื่อปี 2012
–งานอำลาสวาทแคท
ในงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา แม้ว่า “โค้ชโจ” ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น จะปลุกใจลูกทีม “สวาทแคท” ให้สู้จนวินาทีสุดท้าย แม้โอกาสรอดจะเหลือ 0.001% แต่ก็ยังมีความหวัง แต่ในทางปฏิบัติ ต้องบอกว่ายากยิ่งกว่าปาฏิหาริย์ เพราะนอกจากต้องบุกมาทำให้งานฉลองที่ ช้าง อารีน่า พังแล้ว ยังต้องแช่งให้ 2 คู่แข่งอย่าง ขอนแก่น ยูฯ และ พีที ประจวบ มอดม้วยทั้งคู่
–งานเปิดตัวโค้ชใหม่
ใน 8 แมตช์สุดท้าย จะมีงานเปิดตัว “กุนซือใหม่” ของ 2 สโมสร นั่นคือ “เดอะ แรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่แต่งตั้ง “โค้ชธง” ธงชัย สุขโกกี ผู้เพิ่งพา นครปฐม ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ ไทยลีก 2 พร้อมขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุด เข้ามาคุมทัพแบบสายฟ้าแลบ โดยมี “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี เป็นบทพิสูจน์แรก ต่อหน้าแฟน ๆ ที่ บีจี สเตเดียม
อีกรายคือ ดั๊กลาส คาร์โดโซ ที่จะโชว์ผลงานในฐานะกุนซือเต็มตัวครั้งแรกให้สาวก “ราชันมังกร” ราชบุรี เอฟซี ได้เห็นในเกมเยือนถ้ำ “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด หลังอยู่ที่นี่ในฐานะผู้เล่น 3 ปี และผู้ช่วยผู้ฝึกสอน 7 ปี ก่อนได้รับการแต่งตั้งแทน ชาบี โมโร ที่ไม่ได้ต่อสัญญา นั่นเท่ากับว่า รีโว่ ไทยลีก ฤดูกาลนี้ มีการเปลี่ยนแปลงโค้ชทั้งสิ้น 17 ครั้ง จาก 12 ทีม