Link Copied!

ชัยชนะเหนือชุดขาว อาจเป็นจุดเปลี่ยนของหงส์

นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก 2018 ลิเวอร์พูล มีสิทธิ์ที่จะชนะ เรอัล มาดริด แม้จะเป็นราชันชุดขาวในวันที่ยังมี BBC “โมดริช-โครส-คาเซมิโร” และ แบ็คโฟร์ที่ดีที่สุดชุดหนึ่งของโลกในเวลานั้น ซึ่งรวมถึง เซร์คิโอ รามอส

แต่หงส์แดงที่แกร่งมากๆ ชุดนั้นก็มีดีพอที่จะชนะ โดยเฉพาะฟอร์มของ โม ซาลาห์ และ สหาย

สุดท้ายจังหวะเกี่ยวแขนกันในตอนที่ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงของเกมระหว่าง รามอส กับ ซาลาห์ ก็เปลี่ยนโฉมของเกมไปเลย

ลิเวอร์พูล เสียนักเตะที่ดีที่สุดจากอาการเจ็บไหล่ และ เจ็บใจ

มาดริด ทำลายตัวสำคัญของคู่แข่งได้ทั้งรูปเกม และ ได้ทั้งความรู้สึก

แม้ว่า รามอส จะเข้าไปดูอาการ แถมกอดปลอบใจก่อน ซาลาห์ จะออกจากสนาม

แต่น้ำตาของ ซาลาห์ และ ความพ่ายแพ้ในวันนั้น เป็นสิ่งที่คนเมืองลิเวอร์พูลฝั่งสีแดง และ ทั้งโลก ไม่สามารถให้อภัย รามอส ไปตลอดกาล

แม้ว่าจะมีการอธิบายว่าไม่ได้ตั้งใจ หรือ ไม่มีเจตนาทำร้ายร่างกายจากกัปตันมาดริดออกมาสักกี่ครั้งก็ตาม

เพราะนั่นคือนัดชิงชนะเลิศที่สำคัญสุดๆ ของฟุตบอลระดับสโมสรของยุโรป

หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล กับ มาดริด ก็กลายเป็นคู่ปรับร่วมทวีปไปโดยปริยาย แม้จะไม่เดือดเท่า เอล กลาซิโก้ หรือ แดงเดือด แต่มีความไม่ชอบกันมากกว่าทึมต่างลีกปกติ

จากนั้น ลิเวอร์พูล กับ ซาลาห์ และ แฟนๆ ก็จองผ้าป่า จองกฐิน มาดริด กับ รามอส เรื่อยมา

ซึ่งดูเหมือนว่ายิ่งจองจะยิ่งเจ็บ แม้ว่า ซาลาห์ จะยิงได้ เพราะสุดท้ายยังคงพ่ายแพ้ต่อไป รวมถึงในนัดชิงถ้วยเดิมในอีก 4 ปีต่อมาที่ไม่มี รามอส อยู่ในทีมมาดริดแล้ว

ส่วนชัยชนะ 1-0 ที่แอนฟิลด์ในรอบลีกเฟสของฤดูกาลที่แล้วก็เป็นแค่การชนะครั้งแรกในรอบ 6 ปี

ความดีใจนั้นมี แต่ไม่ใกล้เคียงกับการชำระแค้น เพราะ รามอส ไม่อยู่ และ ซาลาห์ ไม่ได้ยิง

แต่ถ้าหากในคืนนี้ ลิเวอร์พูล เอาชนะได้อีกครั้ง คราวนี้ความดีใจจะมากกว่าเดิม โดยเฉพาะถ้าหาก ซาลาห์ ยิงพาทีมชนะแบบเด็ดขาด

เพราะจะช่วยสร้างความฮึกเหิมใจให้ทีม และ สาวกทั่วโลก หลังจมอยู่กับความซึมเซามานานนับเดือนในช่วงที่ทีมแพ้แล้วแพ้อีก

ซึ่งการชนะอริที่เป็นจ่าฝูงลาลีกาในขณะนี้ อาจเป็นจุดเปลี่ยนของฤดูกาลนี้ได้เลย

Total
0
Shares