“ความกล้าหาญที่จะไปพบหน้า ดิดิเยร์ เหรอ แม่คุณเอ้ย ฝันดีละกัน”
ว่ากันว่านี่คือคำพูดของ คาริม เบนเซมา ที่ตอบคำถามเรื่องการจะไปร่วมงานอำลาทีมชาติฝรั่งเศส แบบที่ ราฟาเอล วาราน กับ ฮูโก โยริส ไปร่วมงานเมื่อคืนนี้หรือไม่
ถ้าหากคำกล่าวนี้เป็นเรื่องจริง นี่จึงเป็นเรื่องของคำว่าศักดิ์ศรีส่วนตัวของ เบนเซมา ล้วนๆ
ไม่มีใครในโลกนี้ปฏิเสธว่าในช่วงหลายปีล่าสุดนี้ คาริม เบนเซมา คือกองหน้าระดับท็อปห้าของวงการลูกหนัง โดยเฉพาะกับ เรอัล มาดริด
เคยมีคำแซวว่าหลังจากหมดยุคของ ฌอง ปีแอร์ ปาแปง หัวหอกบัลลงดอร์ในต้นยุค 90s ฝรั่งเศสมีกองหน้าระดับโลกอีกแค่ 2 คน นั่นก็คือ เธียร์รี อองรี กับ เบนเซมา
แต่กลายเป็นว่า เจ้าของตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของทีมชาติตราไก่มีชื่อว่า โอลิวิเยร์ ชิรูด์ สากกะเบือเคลื่อนที่ได้ ที่ทำประตูในระดับสโมสรได้น้อยกว่าเยอะ แต่กลับเป็นสากที่ตำตาข่ายเพื่อชาติได้มากถึง 53 ประตู
รวมทั้งความสำเร็จของทีมชาติฝรั่งเศสที่สามารถคว้าแชมป์โลก 2018 กับ รองแชมป์ครั้งล่าสุด และ รองแชมป์ยูโร 2016 ได้นั้น
การที่ ดิดิเยร์ เดสชองส์ ไม่ได้เรียกใช้บริการ เบนเซมา แต่เลือกใช้ ชิรูด์, กรีซมันน์ และ คิเลียน เอ็มบัปเป ความสำเร็จเช่นนี้ จึงยิ่งทำให้ชื่อของ เบนเซมา ในความคิดของ เดสชองส์ ไม่ส่งเสียงรบกวนใจได้มากพอ
แล้วยิ่งเมื่อ เอ็มบัปเป ยังคงมาตรฐานที่ร้อนแรงหลังคว้าดาวซัลโวฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ด้วยการเหมาสองในการรับบทบาทกัปตันทีมชาติคนใหม่ จนแซง เบนเซมา ขึ้นมาสู่อันดับห้าของมือปืนทีมชาติได้นั้น
จึงยิ่งทำให้การไม่มาร่วมงานอำลาทีมชาติของ เบนเซมา ช่วยตอกย้ำในเรื่องทัศนคติ และ พฤติกรรมที่ตกเป็นข่าวมาตลอดหลายปีหลังว่าเป็นเรื่องจริง
ซึ่งตราบใดที่ เดสชองส์ ยังพาทีมชาติไปได้ดี เบนเซมา จึงหวังได้แค่ว่า ในสักวันหนึ่งข้างหน้า กุนซือทีมชาติคนนี้จะมีวันที่รู้สึกผิดที่ไม่โหยหาเขาสักที
ซึ่งอาจจะไม่มีวันนั้นอีกแล้วก็ได้