ฟุตบอลโลก 1994 นัดชิงชนะเลิศ
โรแบร์โต บาจโจ วัย 27 ปี แบกทีมชาติอิตาลีผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้ด้วยฟอร์มอันมหัศจรรย์
ดิโน บาจโจ วัย 23 ปี เป็นมิดฟิลด์ลูกหาบชั้นดีที่กำลังพุ่งแรงในสมัยนั้น แต่ถูกเปลี่ยนออกไปในช่วง 5 นาทีแรกของการต่อเวลาพิเศษ จึงไม่ได้มีบทบาทในการดวลจุดโทษตัดสินกับทีมชาติบราซิล
ซึ่งทุกคนรู้ดีว่า หลังจากลูกฟุตบอลถูก “เทพบุตรเปียทองคำ” ส่งลอยข้ามคานออกไปสู่ท้องฟ้าของลอสแองเจลิส ฝันร้ายครั้งใหญ่ที่กินเวลานานกว่า 15 ปีจึงได้เกิดขึ้น
ฟุตบอลโลก 1998 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
ดิโน บาจโจ วัย 27 ปี กับบทบาทมิดฟิลด์ตัวหลักของทีมชาติ จนมีส่วนสำคัญทำให้ทัพอัซซูรีผ่านเข้ามาถึงรอบควอเตอร์ไฟนอล
ซึ่งหลายคนคงจำได้ว่า อิตาลี ลากเจ้าภาพฝรั่งเศสไปเล่น 120 นาที จนต้องตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษ
แต่ที่หลายคนอาจจำไม่ได้ก็คือ ดิโน บาจโจ เป็นคนยิงพลาดในการยิงเป็นคนที่ 5 ของทีม ซึ่งทำให้ อิตาลี ตกรอบทันที
และในแมตช์นั้น โรแบร์โต บาจโจ ที่มาในฐานะตัวสำรองของ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร ทั้งทัวร์นาเมนต์ เป็นผู้รับบทมือปืนคนแรกของทีม หลังลงมาเป็นตัวสำรองแทนที่ เดล ปิเอโร ซึ่งเขาแก้ตัวได้อย่างเยือกเย็น
ทั้งคู่ นามสกุลเดียวกัน และคงเป็นญาติที่ห่างไกลกันจนไม่สามารถสืบสาแหรกกันได้
แต่ในฐานะนักฟุตบอล เขาทั้งคู่ต้องเข้าอกเข้าใจกันดีโดยไม่ต้องพูดกัน
ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่ปรากฏว่ามีคนในสกุล บาจโจ ผ่านการคัดเลือกเพื่อมารับใช้ทีมชาตินี้อีกเลย