พูดถึง “ลาลีกา” สเปน คุณนึกถึงอะไร เราเชื่อว่าแทบทุกคนจะนึกถึง เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา และเกมเดอะคลาสสิกอย่าง เอล กลาซิโก การต่อสู้ของสองทีมใหญ่ที่สุดของแดนกระทิงดุที่ความบาดหมางเกิดจากชนชั้น การเมือง และการแบ่งแยกประเทศ เสน่ห์ของเอล กลาซิโก คือ เกมฟุตบอลที่มีความหมายมากกว่าแค่ 90 นาทีในสนาม เป็นภาพสะท้อนการต่อสู้ระหว่างสองขั้วความเชื่อ ยืนคนละฝั่งของหน้าประวัติศาสตร์การเรียกร้องความยุติธรรม และเสรีภาพ
การปะทะกันระหว่างราชันชุดขาวกับเจ้าบุญทุ่มจากคาตาลันเป็นเหมือนเกมดาร์บี้ แมตช์ แห่งสเปน แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดของลูกหนังสเปน ฟุตบอลจากแดนกระทิงดุมีเกมดาร์บี้ แมตช์ ที่ยิ่งใหญ่มากมายหลายคู่ ซึ่งความหมายของเกมเหล่านั้นมากกว่าแค่ 3 คะแนน ความบาดหมางไปไกลกว่าสนามฟุตบอล
มาดริด ดาร์บี้
เริ่มต้นจากเมืองหลวงของสเปน กุรงมาดริด ที่เป็นบ้านของ 2 ทีมใหญ่อย่างเรอัล มาดริด และแอตเลติโก มาดริด เรื่องราวต้องย้อนไปไกลถึงวันที่ 2 ธันวาคม 1906 ซึ่งเป็นเกมแรกที่ทั้งสองทีมพบกัน และราชันชุดขาวคว้าชัยชนะได้สำเร็จไป 1-2 ประตู อย่างที่เรารู้กันว่า ฉายาราชันชุดขาวไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งทีมเป็นต้นมา เรอัล มาดริด พยายามทำทุกอย่างเพื่อก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่ง พวกเขาทำการเข้ารวมทีม คว้าตัวผู้เล่นฝีเท้าดีจากทีมอื่นๆ ในกรุงมาดริด ทำให้หลายทีมต้องล้มหายไปจากวงการฟุตบอล จะมีก็แค่แอตเลติโก มาดริด ที่มีกำลังเงินและแรงหนุนมากพอที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้กับมหาอำนาจชุดขาวแห่งเมืองหลวง
แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามเรอัล มาดริด ก็เหนือกว่าแอตเลติโก มาดริด มากมายหลายขุม จนกระทั่งหลังสงครามกลางเมืองสเปน ทีมแดงขาวแห่งเมืองหลวงได้รับการหนุนหลังจากกองทัพอากาศ และก้าวขึ้นมาเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในสเปน แต่การเมืองเข้าแทรก สเปนถูกโดดเดี่ยวจากชาติต่างๆ เรอัล มาดริด ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างชื่อและเป็นเหมือนทูตของประเทศเพราะความสำเร็จในฟุตบอลยุโรป สร้างความไม่พอใจให้แฟนตราหมี จนร้องเพลงใส่ราชันชุดขาวว่า “ทีมของรัฐบาล ความน่าอับอายของประเทศ”
มาดริด ดาร์บี้ กลายเป็นเกมใหญ่อันดับที่ 2 ของสเปน ต่อจากเอล กลาซิโก จริงที่ว่าเรอัล มาดริด จะเหนือกว่าแอตเลติโก มาดริด มาเกือบตลอด ตราหมีเคยไม่ชนะในเกมนี้นานถึง 14 ปี แต่การกระชากแชมป์ลีกสูงสุดจากมือของอริร่วมเมืองมาได้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ก็บอกกลายๆ ว่า ทีมแดงขาวของมาดริดไม่ใช่ลูกไล่ของเรอัล มาดริด อีกแล้ว
บาร์เซโลนา ดาร์บี้
บาร์เซโลนาเป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 2 ของสเปน และเป็นเมืองหลวงของแคว้นคาตาลัน ผู้คนเดินทางไปบาร์เซโลนาเพื่อชมมหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย ผลงานอาร์ตนูโว ที่ใช้เวลาในการสร้างหลายร้อยปี จากการออกแบบของ แอนโทนี เกาดี และอีกหนึ่งแลนมาร์กสำคัญคือ การไปดูสโมสรบาร์เซโลนาลงเล่นที่คัมป์นู ด้วยความยิ่งใหญ่และความสำเร็จของเจ้าบุญทุ่มทำให้หลายคนลืมไปเลยว่า แอสปันญอลคือทีมร่วมเมืองของบาร์เซโลนา และความเป็นอริของทั้งสองทีมก็มีมายาวนาน
ว่ากันว่าทั้งสองทีมยืนกันอยู่คนละข้างทางการเมือง บาร์เซโลนาเรียกร้องเอกราชให้แคว้นคาตาลัน ส่วนแอสปันญอลอยู่ข้างเดียวกับรัฐบาลสเปน นี่เป็นเกมดาร์บี้ แมตช์ ที่เจอกันบ่อยที่สุดของสเปน และแน่นอนว่าเจ้าบุญทุ่มเก็บชัยชนะได้แทบทุกครั้ง มีแค่ 3 ครั้งเท่านั้นที่แอสปันญอลทำได้ดีกว่าบาร์เซโลนาในตารางคะแนนฟุตบอลลีก
บาเลนเซีย ดาร์บี้
บาเลนเซียเป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 3 ของสเปน โดยมีบาเลนเซียกับเลบันเต เป็นสองสโมสรใหญ่ของเมือง และมีค้างคาวเป็นสัญลักษณ์ สถานการณ์ไม่ต่างไปจากบาร์เซโลนา ดาร์บี้ ที่มีทีมหนึ่งอยู่เหนืออีกทีมแบบชัดเจน ในที่นี้คือบาเลนเซียที่ประสบความสำเร็จมากกว่าเลบันเต แม้ว่าเลบันเตจะก่อตั้งสโมสรมาก่อนบาเลนเซียถึง 10 ปี และเชื่อหรือไม่ว่า เลบันเตไม่สามารถเอาชนะบาเลนเซียในเกมการแข่งขันอย่างเป็นทางการในสนามเมสตาลญา ถิ่นของบาเลนเซียมาตั้งแต่ปี 1937
บาสก์ ดาร์บี้
ซาน เซบาสเตียน เมืองหลวงของแคว้นบาสก์ และมีสองทีมสโมสรที่ดีที่สุดของแคว้นอย่างเรอัล โซเซียดัด และแอธเลติก บิลเบา ทั้งสองทีมพบกันครั้งแรกในปี 1909 ซึ่งดึงดูดความสนใจของแฟนบอลมาตั้งแต่ตอนนั้น แฟนบอลทั้งสองทีมมักจะอยู่รวมกลุ่มกันก่อนเกมการแข่งขัน ซึ่งดูจะแปลกตาไปหน่อยสำหรับเกมดาร์บี้ บางครั้งมีการเดินขบวนพาเหรดจากกลางเมืองไปยังสนามแข่งขัน มีการร้องเพลงและแต่งกลอนประชันกันระหว่างแฟนบอลทั้งสองทีม ช่วงยุค 1980 ทั้งสองทีมประสบความสำเร็จ ต่างได้แชมป์ลาลีกาทีมละ 2 สมัย และที่สำคัญพวกเขาเลือกใช้ผู้เล่นท้องถิ่นที่มีสายเลือดบาสก์เท่านั้น
เซบิลล์ ดาร์บี้
หรือรู้จักในชื่อ เดอะ เกรท ดาร์บี้ (The Great Derby) การพบกันระหว่างเซบียา และเรอัล เบติส ที่เมืองเซบิลล์ เมืองใหญ่อันดับ 4 ของสเปน เมืองหลวงของแคว้นอันดาลูเซีย โดยเซบียาตั้งอยู่ในย่านคนรวยของเมือง ส่วนเรอัล เบติส นั้นได้รับการสนับสนุนจากชนชั้นแรงงาน ความแตกต่างทางชนชั้น และความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์ ทำให้เซบิลล์ ดาร์บี้ มีความเข้มข้น และว่ากันว่าเป็นเมืองที่หลงใหลในฟุตบอลมากกว่าเมืองอื่นๆ ของสเปน ทั้งสองสโมสรผลัดกันขึ้นมาเหนือกว่า แต่ในระยะหลังเซบียาประสบความสำเร็จมากกว่าแบบชัดเจน โดยเฉพาะบนเวทียุโรปที่พวกเขาได้แชมป์ยูฟ่า คัพ หรือยูโรปา ลีก มากถึง 6 ครั้งในรอบ 15 ปี แต่กระนั้นเรอัล เบติส ดูจะมีแฟนบอลในเมืองที่มากกว่า คาดกันว่าต่อเกม มีแฟนบอลเข้าชมเรอัล เบติส ลงสนามมากกว่าเซบียาถึงราวๆ 10,000 คน
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม
