ในฟุตบอลยูโร 2020 รู้ไหมว่าสิ่งหนึ่งที่ อังกฤษ, เดนมาร์ก, อิตาลี, สาธารณรัฐเชก และสโลวาเกีย มีเหมือนกัน คือ ทั้งหมดใช้นักฟุตบอลที่ถนัดเท้าขวา ลงมาเล่น “แบ็กซ้าย” ทั้ง คีแรน ทริปเปียร์ จากอังกฤษ ยาน โบริล ของสาธารณรัฐเชก โยอาคิม มาเอห์เล จากเดนมาร์ก เลโอนาร์โด สปินาซโซลา ของอิตาลี และ โทมัส ฮูโบคาน จากสโลวาเกีย ทุกคนเป็นนักเตะถนัดเท้าขวา บางคนใช้เท้าซ้ายได้ดี บางคนมีตำแหน่งโดยธรรมชาติเป็นแบ็กขวา แต่ถูกโยกมาเล่นทางซ้ายในยูโรหนนี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ แล้วทำไมเราต้องพูดถึง
ในปี 1987 อาร์ริโก ซาคคี ทำหน้าที่ผู้จัดการทีมเอซี มิลาน ซึ่งต้องเจอกับเรื่องน่าปวดหัวในตำแหน่งแบ็กขวา ชายผู้ให้กำเนิดโซนเพรสซิ่ง ต้องเลือกระหว่างผู้เล่นมากประสบการณ์ลงเล่นฟูลแบ็กฝั่งขวาอย่าง เมาโร ทัสซอตติ หรือดาวรุ่งหน้าใหม่มากพรสวรรค์อย่าง เปาโล มัลดินี ซึ่งเป็นเด็กปั้นของสโมสร ค่อยๆ โชว์ผลงานจนกลายเป็นที่น่าจับตามอง และน่าจะเป็นซูเปอร์สตาร์ในอนาคตของทีม เขาแสดงศักยภาพมากมายในทีมเยาวชนที่เขาลงเล่นในตำแหน่งแบ็กขวา ซึ่งแม้จะถนัดเท้าขวา แต่เล่นบอลเท้าซ้ายได้โดยไม่ขี้เหร่ ซาคคีจึงตัดสินใจจับมัลดินีไปเล่นทางด้านซ้าย และนั่นกลายเป็นช่วงเวลาที่นิยามชีวิตค้าแข้งของ เปาโล มัลดินี
การใช้ผู้เล่นที่ถนัดเท้าขวาไปเล่น “แบ็กซ้าย” นั้นเป็นสิ่งที่ผู้จัดการทีมส่วนใหญ่เลือกทำในยามจำเป็นเท่านั้น ย้อนกลับไปในยุค 80 ปีกส่วนใหญ่มีความเร็วสูง พวกเขาพาบอลไปยังเส้นหลังเพื่อหาจังหวะเปิดบอลให้กองหน้าทำประตู ปีกส่วนใหญ่รู้ดีว่ามัลดินีถนัดเท้าขวา จึงพยายามพาบอลเพื่อให้กองหลังเอซี มิลานป้องกันด้วยเท้าซ้าย แต่ด้วยความที่เจ้าตัวก็เล่นบอลเท้าซ้ายได้ด้วย เลยทำให้เขาป้องกันลูกเปิดได้ เวลาผ่านไปผู้เล่นในตำแหน่งปีกเริ่มเปลี่ยนวิธีการเข้าทำ พวกเขาเริ่มเลี้ยงตัดเข้าตรงกลางมากขึ้นในทุกๆ จังหวะที่มีโอกาส ซึ่งนั่นทำให้งานของแบ็กซ้ายที่ถนัดเท้าขวาง่ายขึ้น เพราะจังหวะเลี้ยงบอลตัดเข้ากลางของปีกขวา จะเข้าทางเท้าขวาของแบ็กซ้ายพอดี การป้องกันประตูดีขึ้น ทำฟาลว์น้อยลง
หลังจากมัลดินี มีผู้เล่นแบ็กซ้ายถนัดขวาหลายคนเดินตามทางที่ตำนานทีมชาติอิตาลีวางเอาไว้ เช่น จิอันลูกา ซามบร็อตตา, เดนนิส เออร์วิน, ฟิลิปป์ ลาห์ม และ เซซาร์ อัซปิลิกวยตา ในช่วงที่ โฮเซ มูรินโญ คุมเชลซี เป็นต้น แล้วอย่างที่เรารู้กันว่าแบ็กทุกวันนี้ไม่ใช่แค่ป้องกันประตูเท่านั้น แต่ต้องเล่นเกมบุกได้ดีด้วย เมื่อเติมเกมบุก จังหวะเปิดบอลจากเส้นหลังอาจจะมีหลุดๆ กันบ้าง เพราะเท้าซ้ายไม่ถนัด หรืออาจจะต้องมีหยุดเพื่อหาจังหวะแต่งบอลให้เข้าเท้าขวาเปิดบอล แต่เมื่อเลี้ยงตัดเข้าด้านในแบ็กซ้ายถนัดขวาจะได้เปรียบแบ็กขวาของอีกฝั่งทันที เพราะคู่ต่อสู้ซึ่งเป็นแบ็กขวาต้องป้องกันด้วยเท้าซ้ายซึ่งไม่ถนัด
74 เปอร์เซ็นต์ของผู้เล่นใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรปในฤดูกาล 2020/21 เปิดบอลด้วยเท้าขวามากกว่าเท้าซ้าย ก่อนที่เราจะไปดูการยืนตำแหน่งแบบเฉพาะเจาะจง แค่ตัวเลขก็พอจะบอกเราได้แล้วว่า จะมีแบ็กซ้ายที่ถนัดเท้าขวา มากกว่าแบ็กขวาที่ถนัดเท้าซ้าย เมื่อเจาะลึกลงไปอีก มีการใช้ผู้เล่นถนัดเท้าขวาลงเล่นแบ็กซ้ายในตำแหน่งตัวจริง 11 คนแรก ทั้งหมด 266 ครั้งในฤดูกาล 2020/21 ใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป คิดเป็น 12 เปอร์เซ็นต์ของการออกสตาร์ตในตำแหน่งนั้น เมื่อเทียบการการใช้ผู้เล่นที่ถนัดซ้ายไปเล่นแบ็กขวา ที่มีแค่ 10 ครั้งเท่านั้น หรือคิดเป็นแค่ 0.5 เปอร์เซ็นต์
เพราะฉะนั้นการที่ แกเร็ธ เซาท์เกต เลือก คีแรน ทริปเปียร์ ลงเป็น 11 คนแรกในตำแหน่งแบ็กซ้าย ทั้งที่ในทีมมีแบ็กซ้ายอย่าง ลุค ชอว์, เบน ชิลเวลล์ และ บูกาโย ซากา อยู่ในทีมเลยไม่ใช่เรื่องเหนือธรรมชาติใดๆ ทั้งนั้น ในทีมชาติอิตาลีชุดปัจจุบัน เลโอนาร์โด สปินาซโซลา แบ็กซ้ายเจ้าของตำแหน่งสตาร์ ออฟ เดอะ แมตช์ ในนัดที่อิตาลีเอาชนะตุรกี 3-0 ประตูในฟุตบอลยูโร 2020 เป็นอีกคนที่ถนัดเท้าขวา ซึ่งแบ็กซ้ายเป็นตำแหน่งที่ โรแบร์โต มันชินี หนักใจก่อนมาเล่นยูโร แต่การใช้งานสปินาซโซลาก็ช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว ด้วยความสามารถในการเปิดบอล และการตัดเข้าด้านใน
ท่ามกลางแบ็กซ้ายถนัดเท้าซ้ายชั้นยอดมากมายในยุคนี้ ทั้ง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, คีแรน เทียร์นีย์, อัลฟอนโซ เดวีส์, ธีโอ เอร์นานเดซ และ เฟอร์แลนด์ เมนดี เป็นต้น แต่ยังมีพื้นที่ยืนให้กับแบ็กซ้ายที่ถนัดเท้าขวาอยู่ นักฟุตบอลยุคนี้ต้องปรับตัว เล่นให้ได้ในหลายตำแหน่ง ผู้จัดการทีมเรียกร้องจากผู้เล่นมากขึ้น เมื่อฟุตบอลพัฒนาต่อเนื่องตลอดเวลา นักฟุตบอลก็ต้องทำให้ได้ด้วย
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม