จบไปแล้วกับตลาดซื้อขายนักเตะในช่วงแรกของฤดูกาลนี้ และเป็นอีกครั้งที่แฟนบอล “ลิเวอร์พูล” ผิดหวังกับเจ้าของสโมสรอย่าง FSG ในแง่ธุรกิจ หงส์แดงได้กำไรจากตลาดนักฟุตบอลครั้งนี้ แต่ในแง่ของฟุตบอล “ลิเวอร์พูล” เหมือนหยุดนิ่งอยู่กับที่
อิบราฮิมา โคนาเต ค่าตัว 36 ล้านปอนด์ จากไลป์ซิก เป็นนักฟุตบอลคนเดียวที่ “ลิเวอร์พูล” ดึงมาร่วมทีมชุดใหญ่ โดยประกาศการคว้าตัวตั้งแต่ช่วงต้นของตลาดซื้อขายนักเตะ ท่ามกลางความไม่พอใจของแฟนบอลกับเจ้าของทีมในเรื่องยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก ราวกับพยายามกลบกระแสด้านลบของเดอะค็อป หลังจากนั้นหงส์แดงก็มีข่าวกับผู้เล่นมากหน้าหลายตา
เริ่มจาก ฟลอเรียน นอยเฮาส์ ของ โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค, เฌเรมี โดกู ปีกชาวเบลเยียม, โจนาธาน เดวิด กองหน้าจากลีลล์, จาร์ร็อด โบเวน ของเวสต์แฮม, ฮุสเซม อาอูอาร์ ดาวรุ่งของลียง, ซาอูล ญีเกซ ของแอตเลติโก มาดริด ที่ถูกเชลซียืมตัวไปแล้วเรียบร้อย รวมทั้ง คีเลียน เอ็มบัปเป กองหน้าของเปแอสเช แต่หงส์แดงไม่ได้ใครมาเสริมทีมเลย ซึ่งแฟนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ น่าจะหัวอกเดียวกัน เรือใบสีฟ้ามีข่าวกับทั้ง ลิโอเนส เมสซี, แฮร์รี เคน และ คริสเตียโน โรนัลโด สุดท้ายก็ไม่ได้สักคนเดียว
ขณะเดียวกันลิเวอร์พูลก็ปล่อยตัว แฮร์รี วิลสัน, มาร์โก กรูยิช, เซอร์ดาน ชากิรี, จินี ไวจ์นัลดุม, ไตโว อโวนิยี, เบน เดวิส (ยืมตัว), รีส วิลเลียมส์ (ยืมตัว), เชยี โอโจ (ยืมตัว), เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก (ยืมตัว), และ เบน วู้ดเบิร์น (ยืมตัว) จากรายงานของ Liverpool.com หงส์แดงได้กำไรจากตลาดซื้อขายผู้เล่นครั้งนี้เกือบๆ 10 ล้านปอนด์
เมื่อหันไปมองคู่ต่อสู้โดยตรงในการแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้ตัวทั้ง คริสเตียโน โรนัลโด หนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดตลอดกาล, ราฟาเอล วาราน กองหลังดีกรีแชมป์โลก และ จาดอน ซานโช ตัวรุกฝีเท้าจัดจ้าน ด้านเชลซี ได้ โรมาลู ลูกากู มาเสริมเกมรุก ตามมาด้วย ซาอูล ญีเกซ อดีตเป้าหมายของลิเวอร์พูลที่สิงโตน้ำเงินครามยืมตัวมาด้วยค่าตัว5 ล้านยูโร ส่วนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ลงทุน 100 ล้านปอนด์ คว้า แจ็ค กรีลิช อาร์เซนอล และสเปอร์สก็ดึงผู้เล่นเข้าทีมเป็นว่าเล่น แล้วแบบนี้จะไม่ให้เดอะค็อปตั้งคำถามกับนโยบายการซื้อผู้เล่นของทีมก็คงแปลก
ข่าวที่พอจะทำให้แฟนหงส์แดงใจชื้นอยู่บ้างก็คือ การต่อสัญญาของผู้เล่นตัวหลักของทีมหลายคน อย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, อลิสซง เบคเกอร์, ฟาบินโญ, แนท ฟิลิปส์ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ว่ากันว่าในรายของกัปตันทีมหงส์แดงนั่น เจ้าตัวจรดปากกาต่อสัญญาออกไปตั้งแต่ 2 สัปดาห์ที่แล้ว แต่ลิเวอร์พูลเลือกที่จะประกาศการต่อสัญญาในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะ ราวกับว่าจะกลบกระแสการไม่มีผู้เล่นเข้ามาเสริมทีม
คำถามคือ ลิเวอร์พูลจำเป็นต้องคว้าตัวผู้เล่นใหม่เข้าสู่ทีมจริงๆ หรือ เริ่มจากกองหลัง ลิเวอร์พูลไม่ทำผิดพลาดแบบซีซั่นที่แล้ว ทีมคว้าตัว อิบราฮิม โคนาเต มาร่วมทีม ในกรณีที่เกิดดวงซวยแบบฤดูกาลที่แล้ว นั่นเท่ากับว่า เจอร์เกน คล็อปป์ จะมีกองหลังคู่กลางให้เลือกใช้ 5 คน ทั้ง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์, โจเอล มาติป, โจ โกเมซ, อิบราฮิมา โคนาเต และ แนท ฟิลลิปส์ ส่วนแบ็กซ้ายขวา หลังจากที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน บาดเจ็บ คอสตาส ซิมิคาส พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าสามารถก้าวขึ้นมาแทนที่แบ็กซ้ายสกอตติชได้แบบไม่มีปัญหา ส่วนฝั่งขวา ถ้าจำเป็นจริงๆ เจมส์ มิลเนอร์ ก็ลงไปเล่นได้แบบไม่มีขัดเขิน
มาถึงกองกลาง น่าจะเป็นพื้นที่ซึ่งหงส์แดงมีตัวเลือกให้ใช้เต็มไปหมด การก้าวขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ และโชว์ฟอร์มถูกใจเดอะค็อปของ ฮาร์วีย์ เอลเลียต ทำให้ดาวรุ่งวัย 18 ปี ได้ลงสนามเป็นตัวจริง 2 นัดต่อต่อกันในลีก แซงหน้าทั้ง นาบี เกอิตา, อเล็กซ์ ออกซ์เลด แชมเบอร์เลน และ ติอาโก อัลคันทารา ในแผงหน้า ลิเวอร์พูลมีสามประสานที่ใช้งานมาตลอดอย่าง โม ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน และ โรแบร์โต เฟอร์มิโน โดยมี ดิโอโก โชตา เป็นตัวเลือกแรกถ้าหากสามประสานไม่พร้อมลงสนาม โดยมี ทาคุมิ มินามิโนะ และ ดิว็อค โอริกี เป็นอะไหล่เสริม
ดูๆ แล้ว ลิเวอร์พูลก็พอมีผู้เล่นที่ทดแทนกันได้ในกรณีที่ 11 คนแรกลงสนามไม่ได้ แต่ตัวสำรองที่มีนั่นดีพอที่จะขึ้นมาแทนตัวจริงหรือเปล่า โดยเฉพาะในแนวรุก ซึ่งล่าสุด โรแบร์โต เฟอร์มิโน อาจจะต้องพักยาวถึง 4 เดือน จริงอยู่ที่ ดิโอโก โชตา พร้อมขึ้นมาแทนที่ แต่ในเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2022 จะมีการแข่งขันฟุตบอล Africa Cup of Nations หรือฟุตบอลชิงแชมป์ทวีปแอฟริกา สองกองหน้าของลิเวอร์พูลทั้ง ซาดิโอ มาเน และ โม ซาลาห์ น่าจะต้องไปช่วยชาติลงสนาม เท่ากับว่าหงส์แดงต้องฝากการทำประตูไว้ที่เฟอร์มิโน, โชตา, มินามิโนะ และโอริกี แล้วต้องหวังว่าทั้งซาลาห์และมาเนไม่ได้รับบาดเจ็บกลับมา
เท่านั้นไม่พอลิเวอร์พูลกำลังจะเสีย ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้อำนวยการด้านกีฬาของสโมสร คนที่ดูแลการซื้อขายตัวผู้เล่นของลิเวอร์พูล ซึ่งเจ้าตัวจะหมดสัญญากับทีมหลังจบฤดกาล 2021/22 และทำท่าว่าจะไม่ต่อสัญญาออกไป โดยมีข่าวว่า เรอัล มาดริด เป็นเป้าหมายต่อไปของ “เอ็ดดี้”
แฟนหงส์แดงคงรู้จัก ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ เป็นอย่างดี เจอร์เกน คล็อปป์ พาทีมคว้าแชมป์ยุโรป และแชมป์พรีเมียร์ลีกก็จริง แต่ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ คือคนที่หาสิ่งที่ทีมต้องการ ก่อนที่ทีมจะคว้าตัว โม ซาลาห์ มาร่วมทีม นายใหญ่ชาวเยอรมันต้องการตัว ยูเลียน บรันด์ท จาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน แต่เป็นเอ็ดเวิร์ดส์ที่บอกกับคล็อปป์ว่าต้องซื้อ โม ซาลาห์
เช่นกันกับเคสของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กองหลังโนเนมจากฮัลล์ ซิตี้ ที่เอ็ดเวิร์ดส์มองเห็นศักยภาพ รวมทั้งการต่อรองกับโรมา จนคว้าตัว อลิสซง เบคเกอร์ มาด้วยค่าตัว 65 ล้านปอนด์ จากที่หมาป่ากรุงโรมต้องการ 90 ล้านปอนด์ รวมทั้งการดีลฟ้าผ่ากับ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค รวมทั้ง ฟาบินโญ และ ดิโอโก โชตา
เชื่อกันว่าในช่วงปิดฤดูกาล 2021/22 จะเป็นเวลาที่สำคัญที่สุดของลิเวอร์พูลในตลาดซื้อขาย ถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องทำการใหญ่ในการดึงตัวผู้เล่นเข้าสู่ทีม เป็นการยกเครื่องใหม่เพื่ออนาคตของทีม แต่ดูเหมือนว่า ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ คงจะไม่ได้ทำหน้าที่ดังกล่าว
ลิเวอร์พูลยังไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ลีก ฟอร์มโดยรวมน่าพอใจ แต่ทำไมเดอะค็อปอย่างเราหวั่นใจยังไงพิกล
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม