ตอนที่ เจดอน ซานโช ถูกซื้อเข้ามาในราคาแพงมากๆ เขาถูกคาดหมายว่าจะได้ลงประจำการทางฝั่งขวาของเกมรุก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แต่ปรากฏว่าทั้งในยุคของ โอเล กุนนาร์ โซลชา, ไมเคิล คาร์ริก, ราล์ฟ รังนิก และ เอริก เทน ฮาก ส่วนใหญ่เขาถูกจับให้เล่นทางฝั่งซ้ายของสนามเป็นหลัก
ซึ่งนี่อาจไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจนักถ้าเราจะพบว่า ซานโช ทำผลงานได้ดีจากทั้ง 3 ตำแหน่งในงานสนับสนุนกองหน้าตัวเป้า
แม้ว่าหลักๆ แล้ว ผลงานยามที่เขาได้ลงไปทำลายเกมรับด้านซ้ายของคู่แข่งจะมีประสิทธิภาพมากกว่าก็ตาม
แล้วยิ่งถ้าเรารู้ว่าปัญหาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนที่เขาจะย้ายมาร่วมทีมนั้นอยู่ที่ฝั่งขวา เราก็น่าจะตั้งคำถามเช่นกันว่าการซื้อตัวเขามาคือการซื้อแบบผิดฝาผิดตัว
เพราะเมื่อเจาะลึกลงไปในรายละเอียด ทางกราบซ้ายของทีมมี มาร์คัส แรชฟอร์ด จองตำแหน่ง ส่วนหน้าเป้าต้องเป็นของ คริสเตียโน โรนัลโด ทางฝั่งขวาก็มี เมสัน กรีนวูด ดาวรุ่งของทีม โดยมี อองโตนี มาร์กซิยาล เป็นทางเลือกฝั่งซ้ายและหน้าเป้า แถมด้วย แดเนียล เจมส์ ตัวจี๊ดชาวเวลส์
ผลก็คือ ซานโช ลงเล่นทางฝั่งซ้าย 27 นัด ขวา 8 นัด ตัวกลาง 2 นัด แต่สถิติยิงและจ่ายลดลงมากกว่าเดิม 80%
ยิ่งเข้าสู่ยุคของ เอริก เทน ฮาก ที่หนีบ แอนโทนี มาเป็นตัวเลือกแรกทางฝั่งซ้าย นั่นก็ยิ่งทำให้อนาคตของ ซานโช ลำบากหนักขึ้น เพราะ เทน ฮาก เลือกใช้ แรชฟอร์ด ยืนสลับซ้ายและหน้าเป้าหลังการจากไปของ โรนัลโด เขาจึงพอมีที่ลงทางฝั่งเดิม
ภาพของการลงเล่นด้วยอาการของคนไร้ความสุขถูกตอกย้ำด้วยข่าวการมีปัญหาด้านจิตใจ จนถูกส่งไปรักษาตัว พร้อมกับให้แยกซ้อมเดี่ยวแบบปิดโลกโซเชียลเพื่อรักษาสภาพความฟิตเพื่อกลับมาพิสูจน์ตัวเอง
แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไม่ค่อยดีขึ้นนัก แม้ว่าใน 2 นัดปิดท้ายฤดูกาลจะทำผลงานได้ดี ส่วนในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยภายในประเทศทั้งสองรายการของเขานั้นเงียบกริบ
ยิ่งมีการเกิดของดาวรุ่งอนาคตไกลชาวอาร์เจนไตน์ที่ดูเหมือนว่า เทน ฮาก จะโปรดปราน ซานโชจึงยิ่งตกที่นั่งลำบากมสดขึ้นจนเกิดข่าวว่าอาจจะอำลาทีมในช่วงจบฤดูกาลที่แล้ว
สำหรับคนนอก ทุกคนรู้ดีว่าปัญหาของ ซานโช อยู่ที่เรื่องของแพสชั่น และสไตล์การเล่นของทีมที่ไม่ค่อยเอื้อกับเจ้าตัว ซึ่งน่าจะรวมถึงในทีมชาติด้วย
แต่หลายคนก็เพ่งเล็งไปที่เจ้าตัวว่าปรับตัวไม่ได้เอง และ เล่นไม่ได้เรื่องในยามลงตำแหน่งเก่ง
การเริ่มต้นฤดูกาลปัจจุบันของเขาจึงเห็นกันทั้งโลกว่ายิ่งลำบากกว่าเดิม เมื่อโควต้าหลักในเกมรุกนั้นเต็มไปด้วยตัวเลือกที่ฟอร์มดีกว่าเขา แม้จะเคยมีความพยายามด้วยการดันให้ ซานโช ไปลองเล่นเป็น F9 แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลอะไรในทางบวก
4 นัดผ่านไป ซานโช ไม่มีตำแหน่งตัวจริง และ ไม่มีแม้กระทั่งที่นั่งสำรองในแมตช์ล่าสุด จนทำให้เกิดข่าวความบาดหมางระหว่างเขากับกุนซืออย่างชัดเจนผ่านการตอบโต้ในหน้าสื่อ
ซึ่งด้วยฟอร์มในตอนนี้ คำอธิบายของ ซานโช ย่อมไร้น้ำหนัก แม้จะมีแฟนบอลบางส่วนยังสนับสนุนให้เขาลงไปเล่นทางฝั่งขวาแทน แอนโทนี ที่ก็ฟอร์มไม่ค่อยไฉไลเช่นกันดูบ้าง
แต่เมื่อสิทธิ์ขาดอยู่ที่ เอริก เทน ฮาก และ ยิ่งเขาทำตัวปีนเกลียวด้วย ชะตากรรมต่อจากนี้จึงยิ่งลำบาก จนทำให้ เพียร์ส มอร์แกน คู่ปรับของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชิญชวนให้ ซานโช ไปเผาทีมออกรายการเหมือนตอนที่ โรนัลโด เคยทำ
แล้วถ้า เทน ฮาก เลือกความเด็ดขาดด้วยการตัดเขาจากทีม หรือ ขายทิ้ง ตัวของกุนซือเองก็ต้องระวังแรงสะท้อนกลับด้วย เพราะด้วยสภาพฟอร์มที่ขึ้นๆ ลงๆ ในตอนนี้ พร้อมกับการเล่นของ แอนโทนี ที่แฟนบอลเริ่มส่งเสียงยี้ว่าเป็นเด็กเส้น ก็จะกลายเป็นคมดาบที่อาจหมุนมาตวัดคอเขาได้เช่นกัน
นอกเสียจากว่า เทน ฮาก จะพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่าเขาตัดสินใจถูกแล้ว เหมือนกับที่อัปเปหิ โรนัลโด ด้วยคำที่ว่าเขานอนหลับสบายดีกับทีมที่ไม่มีซูเปอร์สตาร์รายนั้นอีกแล้ว
การที่ทีมประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพึงพอใจ ทุกคนจึงให้เครดิตนั้นกับเขาเต็มตัวจน โรนัลโด ตกเป็นแพะบูชายัญในความน่าพอใจของมีมไปเลย
ซึ่งบทพิสูจน์หลังจากนี้ของทุกฝ่ายจะเริ่มขึ้นด้วยแรงกดดันอันมหาศาล โดยเฉพาะฝั่งกุนซือที่แรงกดดันน่าจะมีมูลค่าเท่าๆ กับเงินที่เขาใช้ไปจนมีนักเตะใหม่เกือบจะครบ 11 คนแล้ว