ลิโอเนล เมสซี ยอดนักเตะแห่งยุค ตัดสินใจปิดฉากอาชีพค้าแข้งในยุโรปกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และไปผจญภัยใน เมเจอร์ ลีก ซอคเกอร์ สหรัฐอเมริกา กับทีม อินเตอร์ ไมอามี ของ เดวิด เบ็คแฮม
ซูเปอร์บิ๊กดีลของ เมสซี กับ เอ็มแอลเอส (เมเจอร์ ลีก ซอคเกอร์) เกิดขึ้นได้อย่างไร?
ย้อนไปดูแบ็คกราวด์และความเติบโตของ เมเจอร์ ลีก ซอคเกอร์ นับตั้งแต่ เบ็คแฮม เข้ามาค้าแข้งเกือบ 10 ปีก่อน กับ ลอสแอนเจลิส แกแล็กซี
ในปี 2007 อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ ถือเป็นดาวเตะซูเปอร์สตาร์ระดับโลกคนแรกที่ย้ายมาเล่นในลีกอเมริกา
อดีตตำนาน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับเอ็มแอลเอส โดยในช่วงเวลา 5 ปีครึ่ง แอลเอ แกแล็กซี ขายเสื้อ เบ็คแฮม ได้ถึง 3 แสนตัว และในสัญญาระบุว่าเจ้าตัวสามารถซื้อแฟรนไชส์ทีมก่อตั้งใหม่ของเอ็มแอลเอสได้อีกด้วย
ณ ปัจจุบัน เมเจอร์ ลีก ซอคเกอร์ ขยายตัวด้วยการเพิ่มทีมจาก 13 เป็น 29 แฟรนไชส์ โดยมี เบ็คแฮม เป็นเจ้าของร่วม อินเตอร์ ไมอามี
เบ็คแฮม ได้โปรโมทกีฬาผ่านโฆษณาของแบรนด์ดังอย่าง อาดิอาส และ เอ็นแอนด์เอ็ม โดยผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า เบ็คแฮม รับทรัพย์มหาศาล 225 ล้านดอลลาร์ในเวลา 5 ปี ก่อนจะเจียดเงิน 25 ล้านดอลลาร์มาลงทุนก่อตั้งแฟรนไชส์ ไมอามี ร่วมกับหุ้นส่วน
ซึ่งในเวลานี้มูลค่าทีม อินเตอร์ ไมอามี พุ่งสูงถึง 600 ล้านดอลลาร์ สูงขึ้นกว่าวันที่ซื้อมาถึง 2,300 เปอร์เซนต์
ดังนั้น หากมองไปที่ ดาวเตะอาร์เจนไตน์ ที่เตรียมย้ายเข้ารัง อินเตอร์ ไมอามี จะยิ่งเพิ่มมูลค่าสูงลิบลิ่วเพียงใด?
ไม่ว่าจะเป็น ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด, ยอดแฟนบอลเข้าสนาม และรายได้ด้านอื่นๆ
โดยรายได้ของ เมสซี จะมาจากส่วนแบ่งการถ่ายทอดสด, อาดิดาส ผู้สนับสนุนที่เข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ของลีก จะแบ่งปันผลกำไรให้ เมสซี ตลอดจนเข้ามา
เป็นหุ้นส่วนในทีม อินเตอร์
ดีลนี้คล้ายกับ เบ็คแฮม แต่คาดว่า เมสซี จะกอบโกยรายได้มหาศาลมากกว่า
หลายเท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่ สหรัฐอเมริกา กำลังจะเป็นเจ้าภาพร่วมฟุตบอลโลก 2026
เชื่อว่า เม็ดเงินจำนวนมากจะหลั่งไหลเข้ากระเป๋ากัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา อย่างแน่นอน