ท่ามกลางการปลด 3 ผู้จัดการทีมในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายน ทั้ง นูโน เอสปิริโต ซานโต ของสเปอร์ส, ดาเนียล ฟาร์เค ของนอร์ริช ซิตี้ และ ดีน สมิธ ของแอสตัน วิลลา แต่ก็มีนายใหญ่ 2 คนที่พาทีมพุ่งขึ้นมาจากสถานการณ์ที่ย่ำแย่จนขึ้นมาติด Top 5 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกทั้ง เดวิด มอยส์ ของเวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ มิเกล อาร์เตตา ของอาร์เซนอล
หลังพาทีมชนะลิเวอร์พูลแบบสุดมัน 3-2 ประตู เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ของ เดวิด มอยส์ ลงเล่น 11 นัด มีคะแนนเท่ากับแชมป์เก่าอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และมากกว่ายักษ์ใหญ่อย่างลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นชัยชนะนัดแรกของ เดวิด มอยส์ เหนือ เจอร์เกน คล็อปป์ ทั้งเป็นชัยชนะเหนือหงส์แดงครั้งแรกในรอบ 15 นัด ที่กุนซือเวสต์แฮมทำได้ แถมยังหยุดสถิติไม่แพ้ใคร 25 นัดในทุกรายการของลิเวอร์พูลอีกด้วย ไม่พอแค่นั้น 6 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก ขุนค้อนแห่งกรุงลอนดอนเป็นทีมที่ทำแต้มมากที่สุดที่ 15 คะแนน
เดวิด มอยส์ เพิ่งผ่านหลักไมล์สำคัญในอาชีพการคุมทีม โดยอดีตกุนซือที่สร้างชื่อกับเอฟเวอร์ตันคุมทีมครบ 1,000 นัดไปเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาในเกมยูโรปา ลีก ที่พบกับเกงค์ การปราบหงส์แดงเลยเป็นเหมือนการฉลองไปในตัว ตอนที่อดีตกุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รับงานคุมทีมเวสต์แฮมในเดือนธันวาคม ปี 2019 ขุนค้อนอยู่เหนือโซนตกชั้น 1 แต้ม ชนะแค่ 2 นัดจาก 14 เกมในพรีเมียร์ลีก ถึงตรงนี้บวกลบคูณหาร มอยส์มี Net spend ที่เวสต์แฮมทั้งหมด 69 ล้านปอนด์เท่านั้น หลังพาทีมดิ้นรนรอดพ้นการตกชั้นในฤดูกาล 2019/20 และเจ้าตัวมีข่าวว่าอาจจะถูกปลด แต่เวสต์แฮมเลือกที่จะไว้ใจมอยส์ต่อ ซีซั่นถัดมา 2020/21 มอยส์พาเวสต์แฮมทำแต้มสูงสุดของสโมสรในพรีเมียร์ลีกที่ 65 คะแนน จบที่ 6 ของตารางคะแนน และได้ไปเล่นบอลยุโรป
เปิดหัวฤดูกาลนี้ดูเหมือนว่า เดวิด มอยส์ จะหาสูตรสำเร็จลงตัวในการคุมทีม ขุนค้อนทุบทั้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, สเปอร์ส และเลสเตอร์ ซิตี้ ไปแล้วในฤดูกาลนี้ ผู้เล่นหลายคนอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดในอาชีพค้าแข้ง เริ่มจาก มิเกล อันโตนิโอ ที่ทำไปแล้ว 6 ประตูในลีก เป็นรองแค่ โม ซาลาห์ และ เจมี วาร์ดี และยังมี 3 ผู้เล่นติดอันดับนักเตะที่แอสซิสต์มากที่สุดในลีก 10 คนแรก ทั้ง จาร์รอด โบเวน, มิเกล อันโตนิโอ และ ซาอิด เบนราห์มา ทีมทำประตูได้มากที่สุดที่ 23 ประตู เป็นรองแค่ลิเวอร์พูลและเชลซี เวสต์แฮมยังสร้างโอกาสยิงประตูได้เป็นอันดับ 3 ที่ 172 ครั้ง ตามหลังแค่ลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ ซิตี้
ตลอด 1,001 นัดในการคุมทีม เดวิด มอยส์ ดูจะเผชิญหน้ากับจุดต่ำสุดในการคุมทีมหลังออกจากเอฟเวอร์ตัน มารับงานคุมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในฤดูกาล 2013/14 เป็นกุนซือคนแรกหลังเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เขาแบกความหวังในฐานะ The Chosen One ผู้ที่ถูกเลือกของแฟนบอลปีศาจแดง เมื่อความหวังกับผลงานในสนามไปด้วยกันไม่ได้ สุดท้ายมอยส์ถูกปลดหลังคุมทีมได้เพียง 10 เดือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อดไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ 1995 คำถามที่ตามมาคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดปลดมอยส์เร็วไปไหม
หลังจากถูกปลดออกจากรังผี เดวิด มอยส์ ย้ายประเทศไปคุมเรอัล โซเซียดาด ในลาลีกา สเปน แต่ก็ถูกปลดหลังทำทีมได้ปีเดียว ต่อด้วยการเข้ามาคุมซันเดอร์แลนด์ในฤดูกาล2016/17 สุดท้ายพาทีมตกชั้น และ เดวิด มอยส์ ลาออกจากตำแหน่ง กับ 3 ทีม 3 ปี 3 ความชอกช้ำ สุดท้าย เดวิด มอยส์ ก็กลับมา ขุนค้อนแข็งแกร่งขึ้นกว่าที่เคยเป็น หลังพักเบรกทีมชาติกลับมา สิ่งที่เวสต์แฮมต้องทำคือ รักษามาตรฐานแบบนี้ไปเรื่อยๆ และพวกเขาจะเป็นม้ามืดตัวใหญ่ประจำฤดูกาลนี้
หันมามองที่ มิเกล อาร์เตตา นายใหญ่ผู้เปลี่ยนทิศทางของอาร์เซนอลแบบหลังมือเป็นหน้ามือ หลังจาก 3 เกมแรกในฤดูกาลนี้ พลาดท่าให้กับน้องใหม่อย่างเบรนท์ฟอร์ด เปิดบ้านแพ้เกมลอนดอนดาร์บี้ต่อเชลซี และถูกแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สอนบอลไป 5-0 ประตู อยู่ในโซนตกชั้น แข่ง 3 นัด มี 0 คะแนน ยิงประตูไม่ได้ แถมโดนยิงซะพรุน 9 ประตู เก้าอี้ของ มิเกล อาร์เตตา สั่นคลอนกว่าทุกครั้ง เสียงเรียกร้องให้ปลดอดีตตำนานของทีมออกจากตำแหน่งดังขึ้นเรื่อยๆ แฟนบอลตั้งคำถามเกี่ยวกับทุกเรื่องของสโมสร จากเจ้าของทีมไปยังผู้เล่น
แต่หลังจาก 3 นัดแห่งฝันร้าย อาร์เซนอลไม่แพ้ใครมา 10 นัดติดต่อกันในทุกรายการ จากก้นตารางคะแนน ถึงตรงนี้พวกเขาอยู่อันดับที่ 5 แซงหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบไม่เกรงใจ โอเล กุนนาร์ โซลชา ใน 10 เกมที่ไม่แพ้ ปืนใหญ่เกมคลีนชีทได้มากถึง 7 นัด จากที่ต้องลุ้นหนีตกชั้น กลายเป็นต่อสู้เพื่อตำแหน่ง Top 4 ไปเล่นบอลยุโรปถ้วยใหญ่ ความได้เปรียบเหนือคู่แข่งทีมอื่นๆ คือ การไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังกับบอลยุโรปกลางสัปดาห์
หลังชัยชนะ 1-0 ประตูเหนือวัตฟอร์ด ซึ่งเป็นการคุมทีมอาร์เซนอลนัดที่ 100 ของอาร์เตตา สถิติมันฟ้องว่าเขาอยู่เหนือ อาร์แซน เวงเกอร์ ตำนานกุนซืออาร์เซนอล โดยเปรียบเทียบ 100 นัดแรกในการคุมทีมปืนใหญ่ของสองผู้จัดการทีม กุนซือชาวสเปนพาปืนใหญ่ชนะ 54 นัด ทีมยิงได้ 163 ประตู มากกว่าเวงเกอร์ที่ทำไว้ 51 เกม และยิงได้ 157 ลูก
เบื้องหลังผลงานน่าชื่นชมของอาร์เซนอล เริ่มต้นที่สนามซ้อม อาร์เตตามองเห็นความสำคัญในเรื่องความผูกพันกันระหว่างสโมสร ทีมงาน และผู้เล่น สิ่งหนึ่งที่เขาเรียกร้องจากบอร์ดบริหารคือ การปรับปรุงหน้าตาของอาคารและสนามซ้อม ด้วยการนำประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของทีมไปแสดงทั่วทั้งบริเวณ ภาพความสำเร็จในอดีต ภาพผู้เล่นที่เป็นไอคอนของทีม ผลงานความสำเร็จมากมายของสโมสร รวมทั้งวลี Victory Through Harmony ที่ถูกนำมาโชว์อย่างสง่างาม ประโยคปลุกใจมากมายถูกแสดงทั่วทั้งสนามซ้อม ทำให้ทุกคนรู้สึกถึงความเป็นหนึ่งเดียว รู้สึกถึงความเป็นอาร์เซนอล
ถึงตอนนี้ไม่มีใครตั้งคำถามถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในตอนต้นฤดูกาลอีกแล้ว หลังจากความเชื่อใจที่บอร์ดบริหารมีให้ อาร์เตตาตอบแทนด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของลูกทีม “ถ้าไม่มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน คุณไม่สามารถที่จะประสบความสำเร็จได้” อาร์เตตาเอ่ย “ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันหมายถึงทุกคนที่ทำงานในองค์กร มันเป็นวิถีทางที่เราเล่นฟุตบอล มันเป็นหนทางในการถ่ายทอดคุณค่าของเรา วิถีทางในการสร้างสัมพันธ์กับแฟนบอล กับเจ้าของทีม ทุกคนคิดไปในทางเดียวกัน ด้วยเป้าหมายเดียวกัน ไม่มีเป้าหมายส่วนตัวมาเจือปน ไม่มีอีโก้ นั่นคือสิ่งที่เราต้องการ และผมจะผลักดันเรือลำนี้ไปข้างหน้าได้เร็วมากๆ”
จากเกือบถูกปลด อาร์เตตาเปลี่ยนทิศทางอนาคตของตัวเอง และสโมสรกลับมาเล่นได้สมเป็นอาร์เซนอลอีกครั้ง หนทางในการกลับมาของอาร์เซนอลยังอาจจะยาวไกล สิ่งที่แฟนบอลทำได้คือ ต้องเชื่อในกระบวนการ Trust in process เท่านั้นเอง
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม
