สิ้นสุดการรอคอยสำหรับ รีโว่ ไทยลีก การแข่งขันฟุตบอลลีกในระดับสูงสุดของประเทศไทย โดยคู่เปิดหัวไทยลีกอย่าง หนองบัว พิชญ เอฟซี พบ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่พิชญ สเตเดียม ในวันที่ 3 กันยายนที่จะถึงนี้ มีสิ่งที่น่าสนใจก็คือเป็นคู่อีสานดาร์บี้แมตช์
หากย้อนไปปีก่อนๆ จะเห็นได้ว่าเมื่อมีอีสานดาร์บี้แมตช์ทีไรคนดูแทบสนามแตกทุกครั้ง ซึ่งในหลายปีที่ผ่านมาจะมีเพียงสองทีมที่เข้าข่าย ก็คือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี
สำหรับปีนี้ดูน่าตื่นเต้นเป็นพิเศษเพราะมีหลายทีมที่อยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้ง หนองบัว พิชญ เอฟซี และ ขอนแก่นยูไนเต็ด รวมถึง 2 ทีมที่กล่าวมาข้างต้น แต่ก็น่าเสียดายด้วยวิกฤติอย่างนี้ ทำให้แฟนบอลเข้าชมได้จำกัด เราจะยังไม่ได้เห็นแฟนบอลเต็มสนามอีกสักพัก ทั้งที่รู้ดีว่าทีมพญาไก่ชนและสวาทแคทมีแฟนบอลที่เยอะมาก เรียกได้ว่ารักและบ้าฟุตบอลสุดๆ
มากันที่ความพร้อมของ หนองบัว พิชญ เอฟซี พวกเขามีการเปลี่ยนแปลงทีมอยู่พอสมควร ทั้งโควตาต่างชาติที่โละออกไปแบบยกแผง และเปลี่ยนสไตล์การเล่นโดยการดึงกุนซือมากความสามารถอย่าง “โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล เข้ามาคุมทัพในฤดูกาลนี้ แน่นอนเรายังไม่รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของทัพพญาไก่ชน จะสามารถสู้บรรดาทีมรุ่นพี่ไทยลีกได้หรือไม่ แต่พวกเขาก็พิสูจน์ตัวเองมาแล้วหลายอย่างทั้งการเป็นแชมป์ไทยลีก 2 หรือการทำผลงานดีขึ้นทุกๆ ปี จนคว้าตั๋วขึ้นลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์สโมสรได้อย่างใจหวัง แฟนบอลจะเห็นพัฒนาการของทีมอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น หนองบัว พิชญ เอฟซี คือทีมที่มีความพร้อมอย่างมากทั้งการวางรากฐานเอาไว้ตั้งแต่ทีมเยาวชน เมื่อถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวก็สามารถดันนักเตะเยาวชนเหล่านั้นขึ้นมาใช้งานได้สบายๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในทีมก็ถือว่าครบคัน รวมถึงสนามเหย้าที่มีการต่อเติมใหม่
การเข้ามาของ “โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล นั้นส่งผลให้ทีมมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของขุมกำลังแน่นอน อย่างที่รู้กันดีว่าไทยลีก 1 และไทยลีก 2 ต่างกันอยู่พอสมควร จึงไม่แปลกที่โค้ชวังจะต้องวางขุมกำลังให้พร้อมที่จะสู้ศึกครั้งนี้ แม้นักเตะชุดเดิมหลายคนยังได้ไปต่อกับทีม แต่มีหลายคนที่ไม่อยู่ในแผนของโค้ชวัง รวมทั้งเสริมผู้เล่นใหม่อย่าง สถาพร แดงศรี, อภิวัฒน์ เพ็งประโคน, อธิบดี เอติรัตน์, ทัศนพงษ์ หมวดดารักษ์, ณัฐพงษ์ ขจรมาลี, อมานี อกีนัลโด (โควตาอาเซียน) และ เอียน แรมซีย์ (โควตาอาเซียน) ส่วนตัวต่างชาตินั้นก็ถือได้ว่าโละของเก่าอิมพอร์ตของใหม่เข้ามาแทนเลย โดยเสริมทั้ง แอร์ตอน ติราบาสซี, ลิดอร์ โคเฮน, มาฮาน ราห์มานี และ แฮมิลตัน โซอาเรส ผมบอกได้เลยว่าเป็นทีมที่น่าจับตาสุดๆ สำหรับการขึ้นมาบนลีกสูงสุดครั้งแรกของพวกเขา
มาที่ทีมนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ถือว่าเป็นทีมที่มีการลงทุนน้อยแต่ประสบผลสำเร็จ เรียกได้ว่า “โค้ชโจ” ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น ใช้ทรัพยากรภายในทีมได้อย่างคุ้มค่า สำหรับฤดูกาลนี้แม้จะเสียต่างชาติชั้นดีอย่าง เดนนิส มูริลโล พวกเขาก็หาตัวแทนทันทีเพื่อให้ทีมไม่เสียหายมากนัก และเก็บตัวฝึกซ้อมทันทีเพื่อจะหาวิธีการเล่นได้ลงตัวที่สุด การทำงานของโค้ชโจนั้นทำให้แนวทางของสวาทแคทมีความชัดเจนมากขึ้น โค้ชโจได้นำสปิริตเข้ามาสู่ทีม ทุกคนล้วนทำเพื่อทีม
แน่นอนว่าโค้ชโจและทีมนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ผ่านปัญหามาแล้วหลายอย่าง แต่พวกเขาก็กลับมาได้ ซีซั่นที่แล้วทีมผ่าน 8 นัดในไทยลีกด้วยการชนะเพียง 1 นัด แต่พวกเขาก็สร้างขวัญกำลังใจได้อีกครั้งโดยการบุกไปชนะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-1 ในเกมนัดที่ 9 ต่อด้วยเปิดบ้านแบ่งแต้มกับทีมทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 1-1 เก็บ 4 แต้มสำคัญได้กับทีมใหญ่ แม้หลังจากนั้นจะมีผลงานดีบ้างไม่ดีบ้างก็ตาม
แต่จุดเปลี่ยนสำคัญก็คงจะเป็นช่วงคาบเกี่ยวท้ายเลกแรกและเริ่มต้นเลกสอง พวกเขาได้ตัวสร้างสรรค์เกมอย่าง จีดี คานยุค เข้ามาประสานงานกับ เดนนิส มูริลโล ได้อย่างลงตัว ร่วมกันทำประตูได้หลายต่อหลายลูก พวกเขาชนะถึง 6 นัดติด โดยไม่เสียประตู 5 นัดติด และพาทีมจบด้วยเลขตัวเดียวที่อันดับ 9 ทั้งที่ก่อนเริ่มฤดูกาล สวาทแคทถูกหลายคนมองว่าจะเป็นทีมที่ตกชั้น
แน่นอนว่าฤดูกาลนี้พวกเขาเจอปัญหาใหญ่เมื่อไม่สามารถดึงแข้งคนสำคัญอย่าง จีดี คานยุค และ เดนนิส มูริลโล อยู่กับทีมต่อได้ และอีกหลายคนที่ต้องเสียไป อย่างไรก็ตามพวกเขายังคงเดินหน้าแก้ปัญหา สวาทแคทได้เสริมทัพอย่าง ธิติ ทุมพร, ณัฐชัย ศรีสุวรรณ, มาร์โค ซาฮาเน็ค, ควาเบนา อัปเปียห์-คูบี, พิศาล ดอกไม้แก้ว และ ควาเม คาริคารี จากขุมกำลังที่มีผมว่าทีมคงไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากเดิมมาก และก็ต้องมาดูกันว่าการเสริมทัพครั้งนี้ของโค้ชโจจะแก้ปัญหาได้มากน้อยแค่ไหน แต่อย่าลืมว่าสวาทแคทคือแมว 9 ชีวิต ฆ่าอย่างไรก็ไม่ตาย พวกเขาสามารถกลับมาได้เสมอ ต้องรอติดตามกันครับ
อย่างไรก็ตามเราต้องรอชมกันครับ สำหรับรีโว่ ไทยลีก นัดแรกเกม หนองบัว พิชญ เอฟซี พบ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่พิชญ สเตเดียม ในวันที่ 3 กันยายน พวกเขาจะเล่นได้สนุกและมันส์แค่ไหน แม้จะไม่มีภาพคนเต็มสนามเหมือนในเกมอีสานดาร์บี้แมตช์นัดก่อนๆ ไม่ช้าก็เร็วเราจะต้องได้เห็นมันอีกครั้งเพราะแฟนบอลรอวันนั้นอยู่ ผมว่าทุกคนรอวันที่จะปลดปล่อย รอวันที่จะเข้าไปเชียร์ทีมที่ตัวเองรัก หากวันนั้นมาถึงผมเชื่อว่ามันคงเป็นเกมที่น่าจดจำแน่นอน สถิติคนเข้าชมในสนามอาจจะถูกทำลายก็เป็นไปได้
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม