เมื่อพูดถึงตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคม 2022 พรีเมียร์ลีกดูจะคึกคักมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทีมครึ่งล่างของตารางคะแนน แอสตัน วิลลา, เอฟเวอร์ตัน และนิวคาสเซิล ที่เสริมทีมอย่างหนักโดยหวังจะรอดตกชั้นและมีลุ้นไปอยู่ครึ่งบนของตารางคะแนน
เริ่มกันกับสิงห์ผยองของ สตีเวน เจอร์ราร์ด ที่เสริมทีมอย่างหนักด้วยการดึงตัว ฟิลิปเป คูตินโญ มาจากบาร์เซโลนา ตามมาด้วย ลูคัส ดีญ ของเอฟเวอร์ตัน คาลัม แชมเบอร์ส จากอาร์เซนอล เคอร์ สมิธ จากดันดี ยูไนเต็ด และ โรบิน โอลเซน จากโรมา เชื่อกันว่าการซื้อตัวของแอสตัน วิลลา นั้นเป็นการประกาศกลายๆ ว่า สโมสรหนุนหลังแผนการทำทีมของเจอร์ราร์ด และทีมดูแข็งแกร่งขึ้นจากการเสริมทีมในคราวนี้
ต่อด้วยเอฟเวอร์ตัน ที่เรื่องใหญ่กว่าการดึงผู้เล่นเข้าทีมคือ การแต่งตั้ง แฟรงก์ แลมพาร์ด เข้ามาเป็นผู้จัดการทีม ท่ามกลางเครื่องหมายคำถาม เพราะสถิติการคุมทีมของตำนานกองกลางเชลซีดูจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่ แต่ถ้ามองในแง่ดี เขาอาจจะทำได้ดีกับทอฟฟี่สีน้ำเงินก็ได้ เพราะแรงกดดันที่ต้องลุ้นแชมป์นั้นน้อยกว่าเชลซีแน่นอน การพาเอฟเวอร์ตันไปเล่นบอลยุโรปได้ก็ประสบความสำเร็จแล้ว อีกคนที่อาจจะได้กลับมาแจ้งเกิดกับเอฟเวอร์ตัน คือ ดอนนี ฟาน เดอ เบค กองกลางอาภัพของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เอฟเวอร์ตันยืมตัวมา นอกจากนี้ทอฟฟี่สีน้ำเงินยังได้ตัว อันวาร์ อัล กาซี, เนธาน แพทเทอร์สัน และ วิทาลีย์ มิโคเลนโก มาร่วมทีมอีกด้วย และล่าสุด แฟรงก์ แลมพาร์ด ยังได้ตัว เดเล อัลลี จากสเปอร์ส มาร่วมทีมด้วยอีกคน
เศรษฐีใหม่อย่างนิวคาสเซิลก็เสริมทีมอย่างหนัก ดึงผู้เล่นชื่อดังเข้าทีมได้หลายคน ไล่มาตั้งแต่ คีแรน ทริปเปียร์, คริส วู้ด จากเบิร์นลีย์ รายนี้เหมือนตัดกำลังคู่ต่อสู้ทางตรงที่หนีตกชั้นด้วยกันเอง ยังได้ตัว บรูโน กิมาเรส, แมตต์ ทาร์เกตต์ และ แดน เบิร์น เป้าหมายเดียวของเดอะแม็กพาย คือ การเอาตัวรอดจากการตกชั้น และเตรียมทีมไว้สำหรับฤดูกาลหน้า ซึ่งเชื่อว่าเจ้าของทีมคนใหม่คงพร้อมอัดฉีดเงินสนับสนุนทีมเข้ามาอีก
ด้านครึ่งบนของตารางคะแนน 2 ทีมลุ้นแชมป์อย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และลิเวอร์พูล ก็เสริมเกมรุก ฝ่ายเรือใบสีฟ้าได้ตัว จูเลียน อัลวาเรซ กองหน้าของริเวอร์ เพลท มาร่วมทีม โดยแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เซ็นสัญญากับกองหน้าดาวรุ่งด้วยสัญญา 5 ปีครึ่ง และปล่อยตัวกลับไปให้ริเวอร์ เพลท ยืมตัวไปจนจบฤดูกาลนี้ ซึ่งสถิติของอัลวาเรซก็น่าจับตา ลงเล่นให้ริเวอร์ เพลท ไป 96 นัด ทำไป 36 ประตูกับ 25 แอสซิสต์ เราต้องรอดูว่าฤดูกาลหน้า เป๊ป กวาร์ดิโอลา จะให้โอกาสศูนย์หน้าอาร์เจนตินาคนนี้ไหม และเขาจะก้าวขึ้นไปประสบความสำเร็จเหมือน กุน อาเกวโร รุ่นพี่ฟ้าขาวที่ทำไว้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้หรือเปล่า
ส่วนลิเวอร์พูล ที่ตอนแรกทำท่าว่าจะไม่ได้ตัวใครมาเสริมทีม แต่สุดท้ายก็ปาดหน้าสเปอร์ส คว้าตัว หลุยส์ ดิอาซ ปีกตัวรุกของปอร์โต้มาจนได้ เชื่อกันว่าหงส์แดงมีแผนดึงตัวดาวเตะโคลอมเบียในช่วงปิดฤดูกาลนี้ แต่ไก่เดือยทองรุกหนักและอยากได้ตัวดิอาซมาร่วมทีมทันที ทำให้ลิเวอร์พูลต้องเข้าไปแทรกกลางและก็คว้าตัวดิอาซมาได้สมใจ
หงส์แดงยอมทำถึงขนาดจ่ายเงินให้ปอร์โต้ ต้นสังกัดของดิอาซราวๆ 6.6 ล้านปอนด์ก่อนหน้าการตรวจร่างกาย เพื่อให้ทีมดังจากโปรตุเกสนำเงินไปเคลียร์เรื่องหนี้สินกับทางยูฟ่าได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นปอร์โต้จะถูกแบนจากการลงเล่นบอลยุโรป 3 ปี ส่วนการปาดหน้าไก่เดือยทองทำให้ แดเนียล เลวี ประธานสโมสรสเปอร์ส เอาเรื่องไปฟ้อง FSG เจ้าของสโมสรลิเวอร์พูลถึงการแย่งซื้อตัวของทีมงานหงส์แดง
อีกคนที่มีข่าวว่าหงส์แดงหมายมั่นปั้นมือว่าจะคว้าตัวมาร่วมทีมคือ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ ตัวรุกดาวรุ่งของฟูแลม ซึ่งจากรายงานของ ฟาบริซิโอ โรมาโน ระบุว่า ตรวจร่างกายผ่านแล้วเรียบร้อย มีการตกลงเรื่องข้อกำหนดในสัญญาแล้ว แต่สุดท้ายยื่นเอกสารไม่ทันเวลา โดยคาดว่าจะมีการย้ายทีมในช่วงปิดฤดูกาลแทน
เซอร์ไพรส์สุดของตลาดซื้อขายนักเตะหนนี้คงจะเป็นการกลับมาลงสนามอีกครั้งของ คริสเตียน อีริคเซน นอกจากจะเป็นการกลับมาลงเล่นฟุตบอลอย่างเป็นทางการหลังจากที่หมดสติในฟุตบอลยูโรเมื่อปีที่แล้ว เจ้าตัวยังกลับมาพรีเมียร์ลีกอีกรอบ โดยเซ็นสัญญากับเบรนท์ฟอร์ดไปจนจบฤดูกาลนี้
ส่วนกรณีวุ่นวายสุดประจำตลาดซื้อขายนักเตะหนนี้คงจะเป็น ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง อดีตกัปตันทีมจอมป่วนของอาร์เซนอล โดยโอบาเมยองเดินทางไปบาร์เซโลนาแบบไม่บอกต้นสังกัด เพื่อความพยายามสุดท้ายในการย้ายไปเล่นที่คัมป์นูซึ่งก็สมใจ โอบาเมยองย้ายไปร่วมทีมบาร์เซโลนา ส่วนอาร์เซนอลก็คงเหมือนยกภูเขาออกจากอก
ด้านตัวเลข จากรายงานของ The Times ตลาดนักเตะเดือนมกราคม 2022 ในพรีเมียร์ลีกมียอดใช้จ่ายราวๆ 271.4 ล้านปอนด์ เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ 87.1 ล้านปอนด์ ถือว่ามากกว่าพอสมควร และมากเป็นอันดับที่ 2 เมื่อกลับไปดูสถิติย้อนหลังตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา โดยทีมที่ใช้เงินมาที่สุดคราวนี้คือ นิวคาสเซิล ที่ 83.5 ล้านปอนด์ ตำแหน่งที่มีการย้ายตัวผู้เล่นมากที่สุดคือ กองหน้า ตามมาด้วยกองหลัง ส่วนช่วงอายุที่มีการย้ายทีมมากที่สุดคือ 22-25 ปี และ 26-29 ปี ตามลำดับ
ส่วนทีมที่ทำแฟนบอลผิดหวัง อาจจะเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่นอกจากจะไม่ได้ใครเข้ามาเสริมทัพแล้ว ยังมีเรื่องยุ่งๆ ของ เมสัน กรีนวู้ด เข้ามาแทรกอีกด้วย
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม