อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษไม่ปฏิเสธรับงานคุมทีม ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่กำลังหนีตกชั้น เพราะเป็นหนึ่งในผู้ช่ำชองงานบีบหัวใจแบบนี้
และนี่คือเกียรติประวัติอันยาวเหยียดของ “บิ๊กแซม”
2001-02 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
หนึ่งปีให้หลังเลื่อนชั้นขึ้นพรีเมียร์ลีก โบลตัน พ่าย 12 นัดติดในช่วงกลางฤดูกาล แต่ “บิ๊กแซม” พลิกวิกฤติพาทีมเอาชนะทีมครึ่งบนของตารางและการถล่มทีมหนีตายด้วยกันอย่าง อิปสวิช ขาดลอย 4-1 ทำให้ โบลตัน การันตีรอดตกชั้น
2002-03 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
ฤดูกาลถัดมา โบลตัน ยังหนีไม่พ้นชะตากรรมเดิม รั้งอันดับ 19 ในช่วงคริสต์มาสและส่อแววตกชั้น แต่พอเข้าสู่เดือนธันวาคมต่อด้วยขึ้นปี 2003 โบลตัน ระเบิดฟอร์มล้มทีมใหญ่หรืออย่างน้อยก็สามารถแบ่งแต้ม รอดตกชั้นหวุดหวิด
2008-09 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
อัลลาไดซ์ เข้ามาคุม แบล็คเบิร์น ในเดือนธันวาคมขณะจมอยู่อันดับรองสุดท้ายของตาราง ชัยชนะ 6 เกมรวดพิสูจน์แล้วว่า แบล็คเบิร์น เลือกคนไม่ผิด และสามารถจบอันดับ 15 เหนือโซนตกชั้น 7 คะแนน
2015-16 ซันเดอร์แลนด์
หนึ่งในการหนีตายครั้งยิ่งใหญ่ โดยรับงานหลังผ่าน 8 เกมแรกเก็บได้แค่ 3 แต้ม จากนั้น บิ๊กแซม พลิกฟอร์มกระเตื้องขึ้นแต่เข้าเดือนเมษายนยังอยู่ครึ่งล่างของตาราง ก่อนจะคว้าชัยนัดสำคัญหลายแมทช์รวมถึงคว่ำ นอริช ทีมหนีตายด้วยกัน 3-0 รอดตกชั้นในที่สุด
2016-17 คริสตัล พาเลซ
ปลายปี 2016 หลังตกเก้าอี้ทีมชาติอังกฤษ คริสตัล พาเลซ แต่งตั้ง อัลลาไดซ์ ในเดือนธันวาคม แตาผลงานดำดิ่งร่วงไปอยู่ในโซนแดงเมื่อเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ จากนั้นคืนฟอร์มกำชัย 4 จาก 5 เกม หนึ่งในนั้นคือการเฉือนจ่าฝูง เชลซี 1-0 ตามด้วยสยบ อาร์เซน่อล และ ลิเวอร์พูล ก่อนจะตะปบ ฮัลล์ ซิตี้ 4-0 รอดตกชั้นในเกมรองสุดท้าย
2017-18 เอฟเวอร์ตัน
กลับมารับงานกับ เอฟเวอร์ตัน ในปี 2017 หลังจากพักเบรกช่วงสั้นๆ ออกสตาร์ทเยี่ยมไร้พ่าย 6 เกมติด และไม่ต้องดิ้นรนหนีตกชั้นจบที่อันดับ 9 แต่สไตล์บอลน่าเบื่อโอกาสจบสกอร์น้อยจนทำให้แฟนบอลต่อต้าน
2020-21 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
อัลลาไดซ์ ก้าวเข้ามาแทน สลาเวน บิลิช ในเดือนธันวาคมปี 2020 ขณะที่ทีมรั้งอันดับ 19 โดย 12 เเกมแรกผลงานไม่กระเตื้องคว้าชัยได้เกมเดียว แต่พอเข้าเดือนกุมภาพันธ์ระเบิดฟอร์มล้มยักษ์อย่าง เชลซี และ เซาธ์แฮมป์ตัน แต่สุดท้ายพ่ายเรียบ 7 นัดตกชั้นในที่สุด