เรียบร้อยโรงเรียน “ช้างศึก” กับภารกิจทวงบัลลังก์เจ้าอาเซียน พร้อมเรียกศรัทธาแฟนบอลไทยกลับคืนมาอีกครั้ง ซึ่งนอกจากจะต้องชื่นชมนักเตะทุกคนแล้ว คงต้องยกเครดิตให้ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม ที่เข้ามาสร้างขวัญกำลังใจและความฮึกเหิม แต่ที่ลืมไม่ได้คือ กุนซือ 3 ประสาน เบื้องหลังความสำเร็จที่ทำให้ทีมชาติไทยคว้าแชมป์แบบมีสไตล์
“มาโน” ผู้นำทัพหน้าลบคำสบประมาท
แม้แฟนบอลหลายคนจะรู้ดีถึงชื่อเสียงเรียงนามของ “มาโน โพลกิง” แต่กับการที่ไม่เคยคุมทีมลิ้มรสความสำเร็จของถ้วยรางวัลเลยสักใบในชีวิต จึงมีเครื่องหมายคำถาม? ในการถูกเลือกเข้ามาทำหน้าที่แม่ทัพคนใหม่ “ช้างศึก”
แม้ว่ามาโนจะได้เปรียบหากเทียบกับโค้ชต่างชาติคนก่อนๆ ที่ผ่านมาและผ่านไป ก็คือ การรู้จักนักฟุตบอลไทยเป็นอย่างดี แต่การมีเวลาเตรียมตัวน้อย บวกกับดีกรีแชมป์ที่ว่างเปล่า ทำให้แฟนบอลหลายคนไม่เชื่อน้ำยา
แต่ในที่สุดกุนซือชาวบราซิลก็สามารถลบคำสบประมาทพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” หลังห่างหายจากถ้วยใบนี้มานาน 5 ปี ด้วยฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจทั้งเกมรุกและเกมรับ โดยเฉพาะการเลือกใช้นักเตะได้อย่างลงตัว มีประสิทธิภาพ และสามารถทดแทนกันได้ทุกตำแหน่ง
รวมถึงการสร้างทีมสปิริตที่ยอดเยี่ยม ทุกคนทำเพื่อส่วนรวม โดยเฉพาะโมเมนต์ที่แม้แต่กองเชียร์ยังน้ำตาซึม คือการเปลี่ยน กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่เพิ่งสูญเสียคุณพ่อ ลงมาแทน ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เพื่อให้ได้สัมผัสบรรยากาศเป็นครั้งแรกในทัวร์นาเมนต์
แน่นอนว่างานเบื้องหน้า คนที่ควรได้รับคำชมคือ “มาโน โพลกิง” อย่างไรก็ตามภารกิจที่ประเทศสิงคโปร์คงจะสำเร็จไม่ได้หากมาโน่ไม่มีทีมที่รู้ใจคอยสนับสนุนและช่วยกันวางแผนทำงานเป็นหนึ่งเดียว
“เซอร์เด็จ” หนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลัง
จเด็จ มีลาภ คือหนึ่งในกุนซือที่ถูกเลือกเข้ามาเป็นผู้ช่วยมาโน เพราะมีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีหลังจากเรียนหลักสูตรโปรไลเซนส์มาด้วยกัน
หน้าที่หลักของ “เซอร์เด็จ” คือช่วยควบคุมการฝึกซ้อม สื่อสารแทคติกให้นักเตะ จนถึงซัพพอร์ตข้อมูลนักเตะไทยให้กับมาโน เนื่องจากมีประสบการณ์คุมทีมในประเทศมากว่า 14 ปี ตั้งแต่พาชลบุรี เอฟซี คว้าแชมป์ลีกฤดูกาล 2550 พ่วงด้วยแชมป์ถ้วย ก 2 สมัย และแชมป์เอฟเอ คัพ ปี 2553
นอกจากนั้นยังทำงานกับอีกหลายทีมทั้งพัทยา, สงขลา, ชัยนาท, ปตท., ท่าเรือ และงานล่าสุดคือพาเมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด เลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2 ก่อนจะถูกมาดามแป้งดึงมาช่วยงานมาโน เพราะมองตารู้ใจหลังจากเคยเป็นกุนซือคู่บารมีที่ท่าเรือ
หากใครเกาะติดการฝึกซ้อมของทัพช้างศึก จะเห็นเซอร์เด็จทำหน้าที่ทั้งแบกอุปกรณ์ซ้อม, ยกเสาโกล, ลากถังน้ำ เรียกได้ว่าเป็นแทบทุกอย่างให้กับทีมชาติไทยชุดนี้
“โค้ชหนึ่ง” อีกจิ๊กซอว์ความสำเร็จ
แม้จะเป็นผู้หญิง แต่ “โค้ชหนึ่ง” หนึ่งฤทัย สระทองเวียน สร้างประวัติศาสตร์พาทัพ “ชบาแก้ว” ไปลุยฟุตบอลโลกถึง 2 สมัยติดต่อกันมาแล้ว อีกทั้งยังเรียนหลักสูตรโปรไลเซนส์รุ่นเดียวกับมาโนและเซอร์เด็จ
ด้วยความเป็นครูบาอาจารย์ที่สั่งสมองค์ความรู้ฟุตบอลไทยมามากมาย โค้ชหนึ่งจัดว่าเป็นผู้หญิงที่คลุกคลีตีโมงกับวงการฟุตบอลมานานนับสิบปี และได้รับการยกย่องว่ามีฝีมือมากคนหนึ่งของวงการ
หน้าที่หลักของโค้ชหนึ่งคือเข้ามาช่วยในเรื่องการบริหารจัดการงานหลังบ้านของทีมที่ต้องใช้ความละเอียด รวมทั้งประสานงานด้านต่างๆ และช่วยแบ่งเบาภาระมาดามแป้งที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ส่วนในสนามก็ร่วมด้วยช่วยออกแบบการฝึกซ้อม และคุมเซกชั่นตามที่ได้รับมอบหมายจากมาโน โดยนำประสบการณ์ทั้งหมดมาช่วยเติมเต็ม
ความสำเร็จของทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทยชุดนี้ จึงขาดใครไปไม่ได้เลยแม้แต่คนเดียว
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม