ใกล้เปิดฉากเข้ามาทุกทีครับสำหรับฟุตบอลไทยลีกฤดูกาลใหม่ แม้จะยังไม่เริ่มแข่งขัน แต่ถ้ามองจากการเตรียมพร้อมของทีม หรือการซื้อขายนักเตะในช่วงที่ผ่านมาก็พอจะเดากันได้ว่าทีมไหนคือทีมเต็งแชมป์ แน่นอนว่ามันเป็นเพียงความคิดของผม ซึ่งอาจจะมีคนเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยแตกต่างกันไปครับ
ไทยลีก 2021/22 นั้นผมว่าจะเป็นปีที่น่าสนใจ เพราะมีเรื่องราวมากมายหลายอย่างเกี่ยวกับฟุตบอลไทย หลายทีมต่างเสริมทัพกันอย่างเต็มที่ แถมยังมีเซอร์ไพรส์ให้แฟนบอลต้องลุ้นอยู่เรื่อยๆ ข่าวลือก็มีได้เกือบทุกวัน ทำให้บรรดาแฟนคลับทีมนั้นๆ หายใจไม่ทั่วท้องกันทีเดียว เชื่อว่าหลายๆ คนก็มีการวิเคราะห์หรือเชียร์ไว้อยู่แล้วว่าทีมไหนเป็นเต็งแชมป์กันบ้าง และของผมก็มีในใจบ้างแล้ว ส่วนเหตุผลอะไรที่ทำให้ผมมองว่าทีมเหล่านั้นเป็นเต็งแชมป์ ลองมาดูกันครับ
อันดับ 1 จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแชมป์เก่าอย่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ยังเป็นทีมที่น่าเกรงขามเหมือนเดิม เพราะขุมกำลังที่เต็มเปี่ยมด้วยนักเตะฝีเท้าเยี่ยม โดยเฉพาะในเรื่องของเกมรับที่มีสองนักเตะร่างยักษ์อย่าง วิคเตอร์ คาร์โดโซ และ อันเดรส ตูเญซ ยืนเป็นกำแพงเหล็กให้กับทีม แถมยังได้ จักพัน ไพรสุวรรณ เข้ามาเสริมทัพ แน่นอนว่าจักพันเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์เรื่องเกมรับเลยก็ว่าได้ เล่นได้ทั้งแบ็กขวา แบ็กซ้าย เซ็นเตอร์ และกองกลางตัวรับ แน่นอนว่าฟุตบอลลีกที่มีความถี่ในการแข่งขัน ดีลของ จักพัน ไพรสุวรรณ จึงถือว่าเป็นการซื้อตัวที่ฉลาด
ขณะที่กองกลางยังคงมี สารัช อยู่เย็น คุมจังหวะของทีมและค่อนข้างไว้ใจได้ แม้จะไม่มี ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเท่าไร ด้วยยังมี เชาว์วัฒน์ วีระชาติ ที่น่าจะได้ลงสนามมากกว่าปีที่แล้ว เพราะได้ยินมาว่า ออเรลิโอ วิดมาร์ ชอบสไตล์กองกลางรายนี้ ส่วนในเรื่องของแดนหน้านั้นบอกเลยไม่ต้องห่วง และคิดว่านี่คือกองหน้าไทยลีกที่ดีที่สุดในตอนนี้ อย่าง ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ที่โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก นอกจากนั้นยังมีกองหน้าทีมชาติไทยอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา อยู่อีกคน และสภาพร่างกายของเขาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เปิดลีกมาเราอาจเห็นเขาท็อปฟอร์มก็เป็นได้
อันดับ 2 เป็นทีมยักษ์ใหญ่ตลอดกาลและได้แชมป์มาแล้วนักต่อนัก นั่นก็คือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ถึงแม้ปีที่แล้วบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอาจคว้าแชมป์อะไรไม่ได้เลย แต่ปีนี้พวกเขาถือเป็นทีมที่น่ากลัวอยู่พอสมควร ปราสาทสายฟ้ามีการเสริมทัพได้น่าสนใน โดยดึงตัว พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี กองกลางกัปตันทีมของสมุทรปราการ ซิตี้ และ เรบิน การิบ สุลากา ปราการหลังดีกรีทีมชาติอิรัก แถมนักเตะต่างชาติยังอยู่กันครบทั้ง ไมคอน มาร์เกซ ปีกชาวบราซิล และ ซามูเอล โรซา กอนซาลเวส อดีตกองหน้าชุดแชมป์เคลีกของชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส รวมไปถึงนักเตะหลักก็ยังคงปักหลักอยู่กับทีมเหมือนเดิม แต่อาจจะเพิ่มเติมคือความกระหายที่จะได้แชมป์ แน่นอนว่ายังมีโค้ช อเล็กซานเดร กามา ที่รู้ว่าทีมบุรีรัมย์ต้องการอะไร ปีที่แล้วเขามาช้าไปหน่อย ไล่ทีมบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ไม่ทัน แต่ปีนี้บอกเลยว่า 2 ทีมนี้น่าจะไล่บี้กันอย่างสูสีเลยทีเดียว
อันดับ 3 นั้นผมมองเป็นการท่าเรือ เอฟซี
แม้ฟอร์มในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก จะยังหาทรงบอลไม่ได้ จับจุดนักเตะที่เพิ่งซื้อมายังไม่ถูก แต่การเข้ามาของโค้ชโอ่ง ดุสิต เฉลิมแสน นั้นผมว่าเขาน่าจะแก้ปัญหาได้เร็ววัน และด้วยมันสมองระดับโค้ชแชมป์ไทยลีกแน่นอนว่าเมื่อเปิดลีกสิงห์เจ้าท่าจะสามารถยกระดับขึ้นไปได้และดูน่ากลัวกว่าที่เคยเป็นมา นอกจากนั้นการท่าเรือยังมีขุมกำลังที่พร้อมบวกกับทุกทีม แม้จะเป็นสองทีมข้างต้นก็ตาม
ถึงแม้หลายครั้งเรายังคงเห็นปัญหาของทีมการท่าเรือว่าไม่สามารถเล่นได้อย่างที่ควรจะเป็น การเข้ามาของโค้ชโอ่งอาจจะช่วยผสานทีมให้เป็นหนึ่งเดียว เพราะด้วยประสบการณ์ที่มีอยู่มากอาจจะซื้อใจนักเตะสิงห์เจ้าท่าได้ นอกจากนั้นการได้นักเตะอย่าง ฟิลิป โรลเลอร์,จอห์น บาจโจ และ ฮาเวียร์ ปาตินโญ ศูนย์หน้าป้ายแดงโควตาอาเซียน จะช่วยให้ทีมมีเกมรุกที่น่ากลัวขึ้น แถมยังมีนักเตะหลายคนที่มีความมั่นใจในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ทั้ง ปกรณ์ เปรมภักดิ์ และ ทิตาธร อักษรศรี แถมยังมี เควิน ดีรมรัมย์ ที่ใกล้หายเจ็บเข้ามาช่วยทีมอีกด้วย
นั่นคือสามทีมในสายตาของผมนะครับ อาจจะถูกใจหรือไม่ถูกใจก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ แน่นอนว่ายังคงมีหลายทีมที่มีสิทธิ์ลุ้นแชมป์เหมือนกัน ทั้งสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แม้ขุมกำลังดูจะเป็นรองทีมข้างต้น แต่พวกเขามีดีที่ทีมเวิร์กและเป็นทีมที่ประมาทเลยไม่ได้ รวมถึงเมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ขุมกำลังก็เริ่มจะเข้าที่ภายใต้การคุมทีมของ มาริโอ ยูรอฟสกี ซึ่งขัดเกลาให้กิเลนผยองดูมีราศีขึ้นเรื่อยๆ และอย่าลืมว่าพวกเขาเป็นทีมที่เบรก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ไม่ให้เป็นแชมป์ไร้พ่ายได้ ขณะนี้ฟุตบอลไทยลีกใกล้จะเปิดฉากแล้ว หลายคนคงตั้งตารอดู ปีนี้ผมว่าคงจะเป็นปีที่หลายทีมลุ้นแชมป์กันสนุกอย่างแน่นอน
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม
