Link Copied!

“เจ เดอะ ซีรีส์” ซีซั่น 6 กล้า ท้า ฝัน

เรือเล็กของ “ชนาธิป สรงกระสินธ์” จากคอนซาโดเล ซัปโปโร ออกจากฝั่งไปหาความท้าทายกับมหาอำนาจลูกหนังเจลีกในปัจจุบันอย่างคาวาซากิ ฟรอนตาเล นับเป็นซีรีส์ใหม่ที่น่าติดตามอย่างยิ่งในทุกฉากทุกตอนนับจากนี้???

ก้าวที่ กล้า

เมื่อกลางปี 2017 นักฟุตบอลตัวเล็กๆ ได้ก้าวย่างสู่เวทีใหญ่อย่างเจ ลีก กับสโมสรฮอกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโร ด้วยสัญญายืมตัวจากเมืองทอง ยูไนเต็ด ก่อนที่ “คอนซะ” จะตัดสินใจซื้อขาดในเวลาต่อมา

ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่คนญี่ปุ่นตั้งคำถามถึงความสามารถ จากที่ถูกสบประมาทว่าตัวเล็ก แต่สามารถใช้ความคล่องแคล่วว่องไวสู้กับนักฟุตบอลตัวใหญ่ได้ไม่เป็นรอง จนได้รับการคัดเลือกให้ติดทีม 11 นักเตะยอดเยี่ยม เจลีก ประจำฤดูกาล 2018 นอกจากนั้นยังได้รับการโหวตจากแฟนบอลซามูไรให้เป็น “มิดฟิลด์” ที่พวกเขาชื่นชอบมากที่สุดประจำฤดูกาล 2021

ตลอดระยะเวลา 4 ปีครึ่ง “ชนาคุง” ของแฟนบอลชาวญี่ปุ่น ลงสนามให้กับฮอกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโร ทุกรายการไปทั้งสิ้น 123 นัด ยิงได้ 15 ประตู พร้อมทำไป 22 แอสซิสต์ แต่สิ่งหนึ่งที่ “เจ” ของแฟนบอลชาวไทยไม่เคยได้สัมผัสคือ “ถ้วยแชมป์” หลังจากเคยเฉียดใกล้มากที่สุดในรายการ “เลอแวง คัพ 2019” แต่ก็ต้องอกหักเพราะแพ้ให้กับคาวาซากิ ฟรอนตาเล ในนัดชิงชนะเลิศ  

5 ซีซั่นที่ผ่านมาอาจจะเป็นความจริงที่โหดร้าย แต่ชนาธิปรู้ดีว่าหากยังอยู่กับซัปโปโร เขาอาจจะไม่มีโอกาสนั้นด้วยศักยภาพและขนาดของทีม เขามาได้ไกลที่สุดเท่าที่จะไปได้แล้ว

ก้าวที่ ท้าทาย

คาวาซากิ ฟรอนตาเล คือมหาอำนาจลูกหนังของญี่ปุ่นในปัจจุบันอย่างแท้จริง จากผลงาน 5 ปีหลังสุด กวาดไปถึง 8 แชมป์ โดยเฉพาะเจลีก 4 จาก 5 ฤดูกาลหลังสุด (2017, 2018, 2020, 2021) โดยซีซั่นที่ผ่านมาทำสถิติ ชนะ 28 นัด เสมอ 8 นัด และแพ้แค่ 2 นัด คว้าไป 92 คะแนน ทิ้งห่างทีมอันดับ 2 อย่างโยโกฮามา เอฟ มารินอส ถึง 13 แต้ม นอกจากนี้หากรวมสถิติ 2 ฤดูกาลล่าสุด (2020-2021) ฟรอนตาเลลงเล่นในลีกไปรวม 72 นัด ชนะ 54 นัด แพ้แค่ 5 นัด และยิงได้รวมกันมากถึง 169 ประตู!

เทียบกับต้นสังกัดเก่า คอนซาโดเล ซัปโปโร ฤดูกาล 2021 จบอันดับที่ 10 ของเจลีก ทำสถิติ ชนะ 14 นัด เสมอ 9 นัด แพ้ 15 นัด คว้าไป 51 แต้ม ยิงคู่แข่ง 48 ประตู เสีย 50 ประตู ทั้งหมดนี้คือตัวเลขความแตกต่างชนิดสุดขั้วที่ชนาธิปของเราต้องปีนป่ายข้ามไปให้ได้ หลังถูกซื้อไปร่วมทีมด้วยค่าตัวมหาศาลอย่างที่เราได้รับทราบกัน

โดยเฉพาะเป้าหมายของคาวาซากิ ฟรอนตาเล ในซีซั่นนี้ นอกจากโทรฟี่ในประเทศแล้ว พวกเขาต้องการคว้าแชมป์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชียให้ได้ หลังจากที่ผ่านมายังดูห่างไกล ปี 2017 ตกรอบก่อนรองชนะเลิศ, ปี 2018 ตกรอบแบ่งกลุ่มแถมไม่ชนะใครแม้แต่นัดเดียว, ปี 2019 ตกรอบแบ่งกลุ่ม (อีกแล้ว) และล่าสุดปี 2021 ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย

ด้วยเหตุนี้การมาของ “ชนาคุง” พร้อมค่าตัวมหาศาล มันคงยากจะปฏิเสธได้ว่า สิ่งที่ฟรอนตาเลต้องการเรียกร้องจากชนาธิปคือ “แชมป์” เท่านั้น!!!

ก้าวสู่ ฝัน

ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในวัย 28 ปี กำลังเดินทางเข้าสู่ช่วงท็อปพีกที่สุดของชีวิตการเล่น และมีความฝันอยากชูถ้วยแชมป์บนแดนซามูไรสักครั้ง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาตอบตกลงกับคาวาซากิ ฟรอนตาเล ที่มีทุกอย่างพร้อม และมีโทรฟี่ให้ได้ลุ้นถึง 5 รายการในซีซั่นนี้ ไล่ตั้งแต่ ซูเปอร์ คัพ, เจลีก, เอ็มเพอเรอร์ คัพ, เลอแวง คัพ และ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก

แต่ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ หลังจากเกมประเดิมลุ้นแชมป์แรกในศึก “ซูเปอร์ คัพ 2022” ชนาธิปได้ออกสตาร์ตตัวจริงและอยู่ในสนาม 77 นาที ไม่สามารถช่วยอะไรทีมได้มากนัก ก่อนจะพ่ายให้กับอูราวะ เรด ไป 0-2

เกมแรกในสีเสื้อใหม่ ดูเหมือนว่าชนาธิปเล่นด้วยความกดดันตัวเองมากเกินไป จนทำให้ขาดการสร้างสรรค์เกมอย่างที่เคยเป็น โดยเฉพาะครึ่งแรกที่ถูก โทรุ โอนิกิ กุนซือวัย 47 ปี จับไปยืนริมเส้น เพื่อใช้ความเร็วและความสามารถเฉพาะตัวที่มี แต่ครึ่งหลัง “เจ” ถูกเปลี่ยนมายืนตัวรุกกลางสนาม หรือ “เพลย์เมกเกอร์” ตำแหน่งสุดโปรดที่ “ชนาคุง” เล่นได้ดีมาโดยตลอดทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ ทำให้ดูดีขึ้น และมีโอกาสสร้างสรรค์เกมให้กับเพื่อนร่วมทีมมากขึ้น

อย่างไรก็ตามในแผงมิดฟิลด์ต้องยอมรับว่า การแก่งแย่งลงตัวจริงสำหรับ “เจ” น่าจะสูงกว่าตำแหน่งริมเส้นอย่างเห็นได้ชัด หากทีมยังยึดมั่นในระบบ 4-3-3 นั่นเป็นเพราะมีนักเตะที่ “ยึดตัวจริง” เกือบจะแน่นอนแล้วคือ เรียวตะ โอชิมา กัปตันวัย 28 ปี ผู้อยู่กับทีมมาแล้วรวม 8 ฤดูกาล ที่ฝีเท้าสามารถไปเล่นยุโรปได้สบายๆ แต่เนื่องจากฤดูกาลที่ผ่านมาประสบปัญหาอาการบาดเจ็บหนัก จึงได้ลงเล่นในลีกไปเพียง 7 นัด (255 นาที) ยิง 1 ประตู รวมทั้ง ยาสึโตะ วากิซากะ อายุ 25 ปี มีสถิติลงเล่นในลีก 35 นัด (2,241 นาที) ยิง 3 ประตู 4 แอสซิสต์ ยังไม่รวม ชูเอา ชมิดท์ มิดฟิลด์จอมแกร่งผู้รับผิดชอบเกมรับ อายุ 27 ปี ที่ต้องยอมรับว่า หาก “เจ” จะเบียดทั้ง 3 คนนี้สำหรับการสอดแทรกเป็นตัวจริง น่าจะค่อนข้างยากพอสมควร

ในขณะที่ตำแหน่งริมเส้น โดยเฉพาะการขาดหายไปของ คาโอรุ มิโตมะ ปีกซ้ายเจ้าของสถิติลงเล่นในลีก 20 นัด (1,227 นาที) ยิง 8 ประตู 3 แอสซิสต์ ก่อนถูกไบร์ทตัน ทีมในพรีเมียร์ลีกอังกฤษซื้อตัวไปร่วมทีม กอปรกับ “เจ” มี “จุดเด่น” คือ การกระชากลากเลื้อยและควบไปกับลูกบอลที่รวดเร็ว น่าจะมีโอกาสเบียดแย่งตัวจริงได้มากกว่า

ซีซั่น 6 จึงเป็นความท้าทายครั้งใหม่ที่ยากที่สุดในชีวิตสำหรับ “เจ ชนาธิป” เพราะนี่คือสโมสรที่เขาจะไม่ได้อยู่ในสถานะของคนที่เก่งที่สุดหรือดีที่สุดอีกต่อไป แต่ “ชนาคุง” จะต้องเรียนรู้และปรับตัวสำหรับบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่ขึ้น และเต็มไปด้วยความกดดันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมแน่นอน

อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊คทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม

Total
0
Shares