👉 อีกไม่นานเกินรอ ฟุตบอลลีกสูงสุดเมืองไทย “รีโว่ ไทยลีก” ฤดูกาลใหม่ 2022/23 จะกลับมาเปิดม่านโม่แข้งกันแล้ว หลังศึก ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ 2022 ได้ส่งสัญญาณความมันส์กันไปเรียบร้อย และวันนี้จะพามาโหมกันด้วย “6 บิ๊กดีลแข้งไทย” ในตลาดรอบนี้ มีใครน่าจับตากันบ้าง?
.
⚽️ จักรพันธ์ แก้วพรม (ย้ายจาก บุรีรัมย์ มา ราชบุรี)
.
👉 เริ่มที่รุ่นเก๋าย้ายแบบฟรีเอเย่นต์ หลังจาก “เจ้าโน้ต” หมดสัญญากับ “ปราสาทสายฟ้า” ที่รับใช้ทีมบ้านเกิดมายาวนานถึง 11 ปี นับตั้งแต่ย้ายมาจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาล 2011 ก่อนร่วมสร้างตำนานกับยอดทีมแดนอีสาน คว้าแชมป์ไปทั้งสิ้น 28 รายการ พร้อมอยู่ในชุดผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2013 และคว้า 5 แชมป์ในรอบ 1 ปีเป็นทีมแรกของเอเชีย ฤดูกาล 2015 แม้ปัจจุบันจะอายุ 34 ปี แต่หลายคนยกให้ดีลนี้เป็นดีลที่ “ราชันมังกร” ได้ของดีโดยไม่ต้องจ่ายเงินแม้แต่บาทเดียว
.
⚽️สุมัญญา ปุริสาย (ย้ายจาก บีจี มา ชลบุรี)
.
👉 อีกหนึ่งแข้งเก๋าที่ยังไม่เก่าเก็บ วัย 35 ปี เจ้าของรางวัลผู้เล่น MVP ไทยลีก ถึง 2 สมัย คนแรกในประวัติศาสตร์ (2018 กับ ทรู แบงค็อก และ 2020 กับ บีจี ปทุม) ก่อนหมดสัญญากับ “เดอะ แรบบิท” ปิดฉาก 2 ฤดูกาลในถิ่น ลีโอ สเตเดี้ยม หลังพาทีมคว้าแชมป์ ไทยลีก 2020-21 และแชมป์ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ 2021 รวมทั้งเป็นหนึ่งในผู้เล่นชุด เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021 และ 2022 ที่สามารถเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ซึ่งดีลนี้หลายคนมั่นใจว่า “ตั๊ก ช้างน้อย” จะช่วยเกมของ “ฉลามชล” ให้เปรี้ยงปร้างกว่าเดิมอย่างแน่นอน
.
⚽️ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ (ย้ายจาก สมุทรปราการ มา บีจี)
.
👉 นับเป็นบิ๊กดีลรายแรก ๆ ที่เกิดขึ้นในฤดูกาลนี้ หลังจากที่ “เขี้ยวสมุทร” ต้องตกชั้นลงไปเล่น M-150 แชมเปี้ยนชิพ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ทำให้ “เดอะ แรบบิท” ปฏิบัติการคว้าตัว “เจ้าเท่” มาร่วมทัพทันทีหลัง ไทยลีก 2021/22 จบลง หลังแข้งวัยเบญจเพสโชว์ผลงานโดดเด่นในตำแหน่งตัวรุกฝั่งขวาจนก้าวไปมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ ซึ่งว่ากันว่าดีลนี้มีมูลค่า 26 ล้านบาทที่ “กระต่ายแก้ว” ยอมจ่ายเพื่อกระชากปีกตัวจี๊ดเจ้าของส่วนสูง 168 เซนติเมตรมาเติมเต็มแนวรุก
.
👉 เอกนิษฐ์ ปัญญา (ย้ายจาก เชียงราย มา เมืองทอง)
.
ดีลนี้เกิดขึ้นแบบสายฟ้าแล่บ หลังจาก ดาวเตะวัย 22 ปี อยู่กับ “กว่างโซ้งมหาภัย” มาตั้งแต่เยาวชนจนถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ เมื่อฤดูกาล 2015 ก่อนที่ “กิเลนผยอง” จะกระชากมาสวมเสื้อเบอร์ 7 ในถิ่นธันเดอร์โดม ด้วยสัญญา 4 ปี บวกออปชั่นเพิ่ม ซึ่งว่ากันว่าดีลนี้ใช้เงินร่วม 30 ล้านบาท และเงินเดือนตกประมาณ 4 แสนบาท แต่หลายคนมั่นใจว่า การเข้ามาอยู่ในแผนของ “มาริโอเวย์” จะช่วยพัฒนาฝีเท้าให้ “เจ้าบุ๊ค” แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมมีโอกาสสานฝันไปเล่นเจลีกในอนาคตอันใกล้
.
⚽️ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล (ย้ายจาก เชียงราย มา บีจี)
.
👉 นับเป็นดีลที่สร้างความฮือฮาที่สุดดีลหนึ่งในตลาดรอบนี้ เนื่องจากไม่มีใครคาดคิดว่า “กว่างโซ้งมหาภัย” จะกล้าปล่อยกัปตันทีมตัวฉกาจออกจากรัง หลังย้ายมาอยู่กับ เชียงราย ตั้งแต่ฤดูกาล 2017 ก่อนพัฒนาตัวเองจากดาวรุ่งโนเนมจนได้สวมปลอกแขน พร้อมช่วยทีมประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ คว้าแชมป์ไทยลีก 1 สมัย, ช้าง เอฟเอ คัพ 3 สมัย, รีโว่ ลีกคัพ 1 สมัย และ ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ 2 สมัย แต่ด้วยเม็ดเงินที่ “บีจี” ทุ่มร่วม 50 ล้านบาทเพื่อแลกกับ “กัปตันเต้” จึงยากที่กว่างโซ้งจะปฏิเสธได้
.
⚽️ เบนจามิน เดวิส (ย้ายจาก อ็อกซ์ฟอร์ด มา การท่าเรือ)
.
👉 นับเป็นดีลสุดเซอร์ไพรส์ส่งท้ายตลาดรอบนี้ แม้หลายคนจะมองว่า ดาวรุ่งวัย 21 ปี ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ น่าจะมีอนาคตสดใสกว่าถ้าอยู่ค้าแข้งในยุโรป มากกว่ามาเล่นในไทย ทว่าเจ้าตัวตัดสินใจลา อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด ต้นสังกัดในลีกวัน อังกฤษ เนื่องจากไม่สามารถสอดแทรกขึ้นชุดใหญ่ได้เลยนับตั้งแต่ย้ายจาก ฟูแล่ม เมื่อปีที่ผ่านมา ก่อนตัดสินใจย้ายมาค้าแข้งกับ “สิงห์เจ้าท่า” ด้วยสัญญายืมตัว 1 ซีซั่น เพื่อโอกาสลงเล่นมากขึ้น ซึ่งคงต้องจับตาว่าเส้นทางใหม่ของจอมทัพทีมชาติไทย U23 จะทำได้ดีแค่ไหน?
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม
.