อังกฤษ ชนะการดวลเป้าตัดสิน ทั้งที่ตลอดเวลา 120 นาที สวิตเซอร์แลนด์ ดูเล่นดีกว่า รวมทั้งในแมตช์ก่อนที่พลิกกลับมาชนะ สโลวาเกีย หลังเกินเวลา 90 นาทีไปแล้วด้วย
ใช่ เราสามารถมองได้ว่าทีมสิงโตคำรามมาที่เยอรมนีเพื่อเป็นแชมป์ ทั้งในฐานะทีมเต็ง และ ทีมที่มีดวง
โดยเฉพาะวินาทีที่ บูกาโย ซากา รับหน้าที่ยิงจุดโทษ ซึ่งทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าเขาคือเหยื่ออารมณ์ของคนอังกฤษที่ผิดหวังมาจากยูโรที่เวมบลีย์ เมื่อ 3 ปีก่อนหน้า
รอยยิ้มโล่ง และ แววตาเปี่ยมปิติ คือหลักฐานชั้นดีว่าเด็กหนุ่มจากอาร์เซนอลคนนี้ปลดเปลื้องโซ่ตรวนที่ล่ามเขาเอาไว้ในฐานะผู้ปราชัยออกไปได้แล้ว
สื่อ แฟนบอล และ พลพรรคสิงโตคำรามล้วนลิงโลดใจในชัยชนะนัดนี้เป็นอันมาก
ในยุคของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้พลาดจากเวมบลีย์เมื่อคราวยูโร 1996 จึงพกความมุ่งมั่นที่จะชนะในทุกวิถีทาง รวมถึงด้วยการดวลจุดโทษที่เป็นเหมือนหนามตำใจเขาด้วย
ข่าวในมุ้งสิงโตที่ออกมาจึงมีทั้งการฝึกซ้อมปกติ การจัดตัวที่ขัดใจคนนอก และ การฝึกซ้อมยิงจุดโทษอันถูกบรรจุในโปรแกรมหลัก
แม้จะไม่มีมือหนึ่งอย่าง แฮร์รี เคน ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกใจจากสภาพร่างกายที่ดูย่ำแย่ อาจะทำให้คนดูใจเสียไปบ้าง
แต่เมื่อเทียบกับนัดที่พวกเขาดวงจุดโทษกับ อิตาลี เมื่อยูโร 2020 เมื่อคืนนี้นักเตะอังกฤษดูมีออร่าผิดกับนัดพ่ายแพ้อยู่หลายโยชน์
ทั้งภาษากาย ภาษาตา และ กิริยาในช่วงบีบหัวใจดูไร้ความกังวล โดยเฉพาะ จอร์แดน พิกฟอร์ด ที่มีประสบการณ์บีบหัวใจมาสามสมรภูมิแล้ว
สุดท้าย อังกฤษ ชนะจากการเรียงหน้ารับหน้าที่ของเหล่ายังบลัดอย่าง โคล พาลเมอร์ , จูด เบลลิงแฮม , ซากา , อิวาน โทนีย์ และ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศสองครั้งติดต่อกันเป็นครั้งแรก
แต่ถ้าเราวิเคราะห์จากทั้งอังกฤษ และ คู่แข่ง ด้วยหลักจิตวิทยาปกติธรรมดา
เราอาจมองอีกมุมหนึ่งได้ว่า นักเตะอังกฤษยิ่งมีความมั่นใจเพิ่มจากการฝึกซ้อม ด้วยเพราะว่าพวกเขาเคยเอาชนะทีมแดนนาฬิกามาแล้วครั้งหนึ่ง
รวมทั้งคู่แข่งไม่ใช่ เยอรมนี , อิตาลี หรือ โปรตุเกส ปีศาจแห่งการดวลเป้าซึ่งคอยตามหลอนพวกเขาอยู่ในจิตสำนึกมาตลอดหลายปี
การชนะจุดโทษเหนือ สเปน (1996) , โคลอมเบีย (2018) และ สวิตเซอร์แลนด์ (2019 , 2024) ล้วนเป็นการชนะทีมที่ศักดินาด้อยกว่าพวกเขาทั้งสิ้น
รวมทั้งความบีบหัวใจที่ยังไม่หนักหนาสาหัสเท่ากับรอบรองชนะเลิศจนถึงนัดชิง
เหตุผลเหล่านี้จึงถูกสรุปจากการวิเคราะห์ว่า อังกฤษ แค่เพียงชนะในยามลำบาก แต่พวกเขายังมิได้ถอนอาถรรพ์ หรือ ทำลายคำสาปลูกจุดโทษที่ถูกตรึงติดค้างเอาไว้ตั้งแต่ปี 1990
นอกเสียจากว่าจะคว้าชัยได้สำเร็จด้วยการดวลในรอบถัดไป ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้เมื่ออังกฤษลงเล่นในรอบน็อคเอาท์ด้วยการเน้นรัดกุม และ เพื่อยื้อเวลาไปตัดสินแบบหนึ่งต่อหนึ่งตามที่สื่อวิเคราะห์กัน
และ ถ้าพวกเขาคว้าแชมป์ได้บนแผ่นดินคู่อริเพื่อเย้ยหยัน เยอรมนี คืนกลับจากยูโร 1996 ที่เคยถูกอริตลอดกาลชูถ้วยแชมป์กลางประเทศตัวเองต่อหน้าควีนของประเทศก็จะสุดๆ ไปเลย
ในส่วนของผู้เขียนเองในฐานะเอฟซีทรีไลออนน์ ได้แค่รู้สึกว่าเสียดายที่น่าจะคว้าแชมป์ครั้งนี้ด้วยการชนะจุดโทษเยอรมนีที่เบอร์ลิน
ซึ่ง เนเธอร์แลนด์ จะให้คำตอบในรอบรองชนะเลิศว่า ฝันของอิงลิชชน และ แฟนๆ จะเป็นจริงได้หรือไม่?