ฟีฟาเวิลด์คัพ ทัวร์นาเมนต์ที่หลอมรวมแฟนบอลทั่วโลกเป็นหนึ่งเดียว ไม่สำคัญว่าจะมาจากประเทศไหนหรือเชียร์ทีมใด ทุกคนสามารถมีความสุขร่วมกันกับความมหัศจรรย์แห่งฟุตบอลโลก
วันนี้เราจะพาทุกท่านย้อนอดีตแห่งความทรงจำไปพบกับช่วงเวลาอันน่าเหลือเชื่อกันครับ
มาราโดนา vs อังกฤษ (1986)
มาราโดนา บุรุษที่มีแสงสปอร์ตไลท์สาดส่องเสมอมา ผู้คนทั่วโลกมักจะพูดถึงชายคนนี้ ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์บนพื้นหญ้า หรือเรื่องฉาวนอกสนาม กัปตันอาร์เจนตินาชุดแชมป์โลก 1986 ทำสิ่งที่ทั้งโลกต้องตกตะลึงกับการใช้มือทำประตูในรอบ 8 ทีมสุดท้ายกับ อังกฤษ ที่เจ้าตัวขนานนามว่า “หัตถ์พระเจ้า“ และในเกมเดียวกันนั้น มาราโดนา กระชากลากหลบจากครึ่งสนามเข้าไปยิงหนึ่งในประตูที่สวยงามที่สุดของฟุตบอลโลก
จุดโทษของ กรอสโซ (2006)
รอบชิงชนะเลิศระหว่าง อิตาลี กับ ฝรั่งเศส เป็นเกมที่สูสีและดุเดือด วันนั้นแฟนบอลจดจำช็อตเฮดบัตของ ซีดาน ที่โขกใส่ มาเตรัสซี เกมจบลงด้วยผลเสมอต้องดวลจุดโทษตัดสิน ฟาบิโอ
กรอสโซ กองหลังอิตาลีรับหน้าที่สำคัญสังหารคนสุดท้ายเสียบมุมบนอย่างสมบูรณ์แบบนำ อัซซูรี ผงาดแชมป์สมัยที่ 4
สเปน ประเดิมแชมป์โลกหนแรก (2010)
“ติกิ ตากา“ ฟุตบอลได้ชัยชนะจากผลสกอร์และรูปเกมสวยงามสร้างความเพลิดเพลินให้กับแฟนบอล เริ่มต้นด้วยความพ่ายแพ้ให้กับ สวิตเซอร์แลนด์ แต่จากนั้นเดินหน้าเก็บชัยชนะตลอดเส้นทางสู่แชมป์ ด้วยแทคติกเน้นการครอบครองบอลของ บิเซนเต เดลบอสเก แม้ทำประตูได้ไม่มากนัก โดยรอบน็อคเอาท์ชนะด้วยสกอร์ 1-0 จนถึงรอบชิงที่เฉือนชนะ ฮอลแลนด์ จากประตูชัยในช่วงต่อเวลาของ อันเดรส อิเนียสตา
เกิทเซ นำ เยอรมนี สู่บัลลังค์แชมป์ (2014)
ฟุตบอลโลกที่บราซิล เมสซี ฟอร์มเฉิดฉายยิง 4 ประตูและซิวรางวัลโกลเดนบอลในการนำทีมชาติอาร์เจนตินา ทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศไปเผชิญหน้ากับ เยอรมนี เกมดุเดือดจนมาถึงช่วงต่อเวลานาที 114 มาริโอ เกิทเซ สวมบทฮีโร่ยิงประตูดับฝัน เมสซี นำ เยอรมนี ครองแชมป์สมัยที่ 4
โรนัลโด ไทม์ (2002)
R9 กระหน่ำไปถึง 8 ประตูคว้ารางวัลรองเท้าทองคำ รวมถึงประตูสำคัญในรอบตัดเชือกและชิงชนะเลิศ แม้ว่าในรอบไฟนอลส์จะเผชิญหน้าดวลกับ โอลิเวอร์ คาห์น ยอดผู้รักษาประตูที่กำลังท็อปฟอร์ม แต่สุดท้ายแล้ว โรนัลโด กับทรงผมไดโกโระ ซัดผ่านมือจอมหนึบ อินทรีเหล็ก 2 ครั้งนำ บราซิล ฉลองแชมป์สมัยที่ 5