Link Copied!

ผลงานย่ำแย่ของ ‘ผีแดง’ ผิดที่ ‘กุนซือ’ หรือผิดที่ ‘ระบบ’ ?

ว่าด้วยเรื่องของระบบ กับ สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เข้าขวบปีที่สองของ เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ แห่ง INEOS ในการเป็นผู้บริหารสโมสรในส่วนของฟุตบอล

เขานำเข้าบุคลากรที่เกี่ยวกับฟุตบอลโดยตรงหลายตำแหน่ง โดยเน้นไปที่บุคคลที่มีดีกับสโมสรเดิม

การตัดสินใจให้โอกาส เอริก เทน ฮาก ที่มีถ้วยแชมป์เอฟเอคัพคอยประคับประคองเก้าอี้ จนได้ไปต่อในฤดูกาลนี้

แต่เมื่อ ETH ทำผลงานได้ย่ำแย่ไม่เปลี่ยน เขาจึงถูกปลดออกจากตำแหน่งท่ามกลางเสียงวิจารณ์ต่างๆ นาๆ ว่า

ซื้อตัวผิดพลาดมากมาย

ขายผิดพลาดในตำแหน่งผู้รักษาประตู

ปฏิบัติต่อ คริสเตียโน โรนัลโด เกินเหตุ

เลือกนักเตะลงสนามพลาดบ่อยครั้ง

และ โดยเฉพาะเรื่องการไม่กล้าใช้ทีมในระบบที่ตัวเองถนัดภายหลังทีมประสบปัญหาเรื่องผลการแข่งขัน จนต้องกลับมาใช้ระบบที่นักเตะถนัดท่ามกลางความไม่ถนัดของตนเอง

ผลก็คือตัวกุนซือจึงทำงานโค้ชได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุคของเขาไม่มีแพทเทิร์นที่ลงตัวเสียที

นี่คือระบบที่ ETH เลือกเอง และ รับผลเอง

การแยกทางกับ แดน แอชเวิร์ธ ที่อุตส่าห์ยื้อแย่งมาจาก นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แบบดุเดือด

เหตุผลหลักก็คือระบบบริหารของอดีตบุคลากรของสาลิกาดงไม่เข้าตามมาตรฐานของ INEOS จนเกิดการแยกทางกัน

การมาของ รูเบน อโมริม ถูกลือกันว่าไม่ใช่การเลือกของ แอชเวิร์ธ ที่มองว่าไม่เข้ากับทรัพยากรนักเตะที่มี จนอาจมีปัญหาด้านระบบ

เพราะกุนซือดาวรุ่งถูกเลือกเข้ามาโดย INEOS โดยที่ไม่มีคนนอกทราบว่าภายใต้ดีลนั้นมีข้อตกลงระหว่างทั้งสองฝ่ายอย่างไรบ้าง

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในสนามแข่งเป็นคำตอบได้ดีตั้งแต่เกมแรกว่า อโมริม เลือกระบบ 3-4-3 ของเขา แม้จะขัดกับธรรมชาติของทรัพยากรที่มี

ในตลาดนักเตะรอบล่าสุดเมื่อก่อนเปิดฤดูกาล นักเตะทั้งหมดถูกเลือกเข้ามาจากทีมบริหาร นั่นจึงหมายความว่าทั้งหมดถูกวางเอาไว้เพื่อรองรับกับระบบที่เริ่มทำกันขึ้นมาใหม่สดๆ

จึงพออนุมานได้ว่าระบบของอโมริม เป็นระบบที่ผู้บริหารพึงพอใจ

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในยุคของอโมริมก็คือผลการแข่งขันสุดแย่ แม้จะมีผลที่ดีกับพวกทีมใหญ่จนอันดับหลุดมาอยู่ที่ต่ำสิบ และ ไม่เป็นที่น่าพอใจในสายตานักวิจารณ์

90% ของเหล่านักวิจารณ์มองว่าเป็นความผิดของกุนซือที่เลือกใช้ระบบที่ตนเองถนัด แต่นักเตะส่วนมากไม่ถนัด จนทีมดูมีปุญหาในหลายส่วนอันสามารถแพ้ให้แก่ทุกทีมได้

แต่ยังคงมีนักวิจารณ์บางส่วนสนับสนุนในสิ่งที่ อโมริม กำลังทำ เพราะพวกเขามองว่าถ้าเปลี่ยนกุนซือใหม่เพื่อทำในสิ่งเดิมๆ นั่นก็หมายความว่าย่ำอยู่กับที่ ไร้การเปลี่ยนแปลง และ เท่ากับว่าเป็นการบริหารงานที่ผิดพลาดของฝ่ายบริหาร

แม้ผลการแข่งขันจะไม่สู้ดีจนเสี่ยงจบอันดับที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรในยุคพรีเมียร์ลีก แต่ทิศทางดีๆ ภายใต้วิธีการเล่นดีขึ้น มีทรงขึ้น และ ดูมีอนาคตก็พอมีให้เห็น

เพียงแต่ว่าถ้าจบฤดูกาลนี้ ปีศาจแดงไร้ความสำเร็จในฟุตบอลถ้วย และ จบอันดับที่เกินจะรับไหวในอีก 16 นัดที่เหลือ

อาทิ ชนะไม่ถึง 12 นัด (ตอนนี้ 7 , สถิติที่แย่สุด ชนะ 16 นัด ฤดูกาล 2021/22)

แพ้เกิน 17 นัด (ตอนนี้ 10 , สถิติแพ้มากสุด 14 นัด ฤดูกาล 2023/24)

ยิงได้ไม่ถึง 47 ลูก (ตอนนี้ 27 , สถิติยิงน้อยสุด 49 ฤดูกาล 2915/16)

เสียประตูถึง 60 ลูก (ตอนนี้ 32 , สถิติเสียมากที่สุด 58 ฤดูกาล 2023/24)

บางทีระบบของอโมริมอาจถูกคาดโทษจากระบบบริหารของทางบอร์ด จนโดนหมายหัวเอาไว้ด้วยมาตรฐานที่ห้ามเซตั้งแต่ในช่วงต้นฤดูกาลหน้า

Total
0
Shares