แอลพีจีเอ ทัวร์ ฤดูกาล 2024 ปิดฉากลงไปเรียบร้อย โดย นักกอล์ฟสาวไทย สร้างผลงานยอดเยี่ยมคว้า 6 แชมป์ นับเป็นสถิติมากสุดที่นักกอล์ฟไทยคว้ามาได้ในหนึ่งฤดูกาลตั้งแต่ร่วมแข่งขันรายการแอลพีจีเอมา นอกจากนั้น “แพตตี้” ปภังกร ธวัชธนกิจ ยังคว้าแชมป์ทีมผสมรายการร่วมกับพีจีเอ ทัวร์ ปิดท้ายปีอีกด้วย
กอล์ฟแอลพีจีเอ ทัวร์ 2024 เริ่มต้นในปลายเดือนมกราคม สิ้นสุดโปรแกรมรายการทางการของทัวร์เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ซึ่งนักกอล์ฟไทยสร้างผลงานคว้ามาได้ 6 แชมป์ ตั้งแต่ “แพตตี้” ปภังกร ธวัชธนกิจ คว้าแชมป์ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ในปลายเดือนกุมภาพันธ์ นับเป็นแชมป์ที่สองในการเล่นอาชีพแอลพีจีเอ ทัวร์ ต่อจากรายการ เอเอ็นเอ อินสปิเรชันแนล (เชฟรอน แชมเปียนชิพ) รายการเมเจอร์เมื่อปี 2021
โดยสถิติในแอลพีจีเอ ทัวร์ เล่น 18 รายการจบลงใน 10 อันดับแรก 4 รายการ ทำเงินรางวัลรวม 1,231,694 ดอลลาร์ ก่อนจะมาคว้าแชมป์กอล์ฟทีมผสม แอลพีจีเอ-พีจีเอ ทัวร์ แกรนท์ ธอนตัน อินวิเเทชันแนล คู่กับ เจค แน็ปป รับเงินรางวัลไปคนละ 500,000 ดอลลาร์ รวม 1,731,694 ดอลลาร์
“จีโน่” อาฒยา ฐิติกุล วัย 22 ปี อดีตมือ 1 ของโลกคว้าแชมป์ 2 รายการจากทีมดาว แชมเปียนชิพ คู่กับ หยิน ยัวหนิง เพื่อนสนิทจากจีน เมื่อเดือนมิถุนายน และปิดท้ายฤดูกาล คว้าแชมป์ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน พร้อมกับคว้ารางวัล 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นเงินรางวัลมากที่สุดในประวัติศาสตร์กอล์ฟหญิง และทำเงินรางวัลรวมสูงสุด 6,059,309 ดอลลาร์ และเมื่อรวมกับเงินรางวัล The Aon Risk Reward Challenge อีก 1 ล้านดอลลาร์
ทำให้ปีนี้เธอทำเงินรางวัลรวมเป็น 7,059,309 ดอลลาร์ จากการเล่น 17 รายการ สถิติจบลงใน 10 อันดับแรกมากถึง 12 รายการ และรวมกับเงินรางวัล 280,000 ดอลลาร์ จบอันดับ 2 กอล์ฟทีมผสมแอลพีจีเอ-พีจีเอ ทัวร์ แกรนท์ ธอนตัน อินวิเเทชันแนล ทำให้ปีนี้ อาฒยา มีรายได้รวมทั้งหมด 7,339,309 ดอลลาร์
“พราว” ชเนตตี วรรณแสน เล่นทัวร์ปีที่สอง แต่ก็คว้าแชมป์ได้ในรายการเดนา โอเพ่น เมื่อเดือนกรกฎาคมเป็นการคว้าแชมป์รายการที่สองในการเล่นอาชีพแอลพีจีเอ ทัวร์ โดยเธอเล่นทั้งหมด 29 รายการในปี 2024 จบลงใน 10 อันดับแรก 4 รายการ ทำเงินรางวัลรวม 1,002,989 ดอลลาร์
ตามมาด้วย “โม” โมรียา จุฑานุกทาล คว้าแชมป์ พอร์ทแลนด์ คลาสสิก เมื่อเดือนสิงหาคม นับเป็นแชมป์ที่สามในการเล่นอาชีพแอลพีจีเอ ทัวร์ โดยสถิติเล่นในทัวร์ปีนี้ 27 รายการจบลงใน 10 อันดับแรก 2 รายการทำเงินรางวัลรวม 612,518 ดอลลาร์
จัสมิน สุวัณณะปุระ คว้าแชมป์ วอลมาร์ท เอ็นดับเบิลยู อาร์คันซอ แชมเปียนชิพ นับเป็นแชมป์ที่สามในการเล่นอาชีพแอลพีจีเอ ทัวร์ และสถิติการเล่นในทัวร์มากที่สุดในปีนี้รวม 30 รายการ จบลงใน 10 อันดับแรก 4 รายการทำเงินรางวัลรวม 816,593 ดอลลาร์
สรุปผลงานของนักกอล์ฟสาวไทยในแอลพีจีเอ ทัวร์ ปี 2024 คว้าแชมป์รวม 6 รายการมากที่สุดของนักกอล์ฟไทยที่เคยทำได้ก่อนหน้านี้ 5 รายการในปี 2016 ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์จากนักกอล์ฟคนเดียวคือ “เม” เอรียา จุฑานุกาล เป็นรองแค่นักกอล์ฟจากสหรัฐอเมริกาที่คว้าแชมป์มากที่สุดรวม 12 รายการ และหากรวมกับรายการพิเศษที่ไม่ใช่ รายการทางการของทัวร์ที่ ปภังกร คว้าแชมป์ทีมผสมมาได้นั้น รวมเป็น 7 รายการนับความสำเร็จมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาของนักกอล์ฟไทยในเวทีกอล์ฟอาชีพสตรีระดับโลก พร้อมกับทำเงินรางวัลทะลุ 1 ล้านดอลลาร์ได้มากถึง 5 คนด้วยกัน
หากจะย้อนกลับไปตั้งแต่ เอรียา จุฑานุกาล สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ในแอลพีจีเอ ทัวร์ เมื่อปี 2016 เป็นต้นมา นักกอล์ฟไทยคว้าแชมป์ทุก ๆ ปียกเว้นในปี 2020 ซึ่งแอลพีจีเอ ไม่ได้แข่งขันแบบเต็มฤดูกาลเนื่องจากปัญหาการระบาดของโควิด-19
สำหรับนักกอล์ฟสาวไทยที่คว้าแชมป์ในแอลพีจีเอ ทัวร์มี เอรียา จุฑานุกาล 12 รายการ, อาฒยา ฐิติกุล 4 รายการ, โมรียา จุฑานุกาล 3 รายการ, จัสมิน สุวัณณะปุระ 3 รายการ, ปภังกร ธวัชธนกิจ 2 รายการ, ชเนตตี วรรณแสน 2 รายการ และ ปาจรีย์ อนันต์นฤการ 2 รายการ รวมทั้งสิ้น 28 แชมป์
หลังจากแอลพีจีเอ ทัวร์ ปิดฤดูกาลนักกอล์ฟมีเวลาพักก่อนจะกลับไปฝึกซ้อมในเดือนมกราคมปีหน้า โดยโปรแกรมจะเริ่มต้นรายการแรกเปิดฤดูกาลในรายการ ทัวร์นาเมนท์ ออฟ แชมเปียนส์ ที่รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกาในปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์
เครดิตภาพ: LPGA/Getty Images