ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับศึกดวลวงสวิงระดับโลก ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 22-25 กุมภาพันธ์ 2567 ณ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พัทยา จ.ชลบุรี
แฟนกอล์ฟจะได้ร่วมลุ้นร่วมเชียร์กันอย่างสนุกตื่นเต้นเร้าใจ โดยเฉพาะกับนักกอล์ฟสาวไทยที่ตลอดทั้งปี 2023 สามารถทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ
กระแสวงการกอล์ฟสาวไทยถือว่าแรงต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะปี 2022 ซึ่งเป็นปีที่ จีน-อาฒยา ฐิติกุล ประเดิมการเล่นแอลพีจีเอทัวร์อย่างสวยงาม ด้วยการคว้าแชมป์ 2 รายการ พร้อมกับการขึ้นเป็นมือ 1 ของโลก และปิดท้ายด้วยการคว้าตำแหน่งนักกอล์ฟดาวรุ่งยอดเยี่ยมหรือ Rookie of the year
ต่อเนื่องด้วยการแข่งขัน “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023” เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งตลอดระยะเวลาทั้ง 4 วัน มีแฟนกอล์ฟแห่เข้าชมในสนามสยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พัทยา เกือบ 5 หมื่นคน เพื่อให้กำลังใจนักกอล์ฟทั้งสาวไทยและต่างชาติ
แม้ในส่วนของสาวไทยจะไม่ได้แชมป์ แต่แฟนกอล์ฟเจ้าถิ่นก็มีความสุขและภูมิใจไม่น้อยที่เห็น ซิม-ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ และ จีน-อาฒยา เข้าป้ายเป็นอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ โดยเป็นรองให้แค่ ลิเลีย วู แชมป์ในรายการนี้
จากนั้นในต้นเดือนพฤษภาคม 2023 ทีมนักกอล์ฟสาวไทย ได้แก่ จีน-อาฒยา, เม-เอรียา, โม-โมรียา จุฑานุกาล และแพตตี้-ปภังกร ธวัชธนกิจ ซึ่งเป็นทีมวางอันดับ 6 จากทั้งหมด 8 ทีม สามารถประกาศศักดา คว้าแชมป์ประเภททีมในการแข่งขันรายการ อินเตอร์ เนชั่นแนล คราวน์ ซึ่งรายการนี้ใช้อันดับโลกเป็นเกณฑ์ในการเข้าร่วมแข่งขัน
โดยทีมสาวไทยสามารถทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมเอาชนะได้ถึง 11 จาก 12 แมตช์ ก้าวขึ้นไปอยู่ในทำเนียบแชมป์ เช่นเดียวกับสเปน (แชมป์ปี 2014) สหรัฐ (แชมป์ปี 2016) และเกาหลีใต้ (แชมป์ปี 2018)
ในรายการนี้ เม-เอรียา อดีตแชมป์ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021 ยังสามารถคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมไปครอง โดยเธอคว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ได้มากถึง 12 รายการ และยังเคยก้าวสู่ตำแหน่งมือหนึ่งของโลกมาแล้ว
หลังจากที่ทีมสาวไทยฉลองแชมป์ครั้งนี้ได้ไม่กี่สัปดาห์ แฟนกอล์ฟชาวไทยก็ได้เฮอย่างต่อเนื่อง จากผลงานของ เมียว-ปาจรีย์ อนันต์นฤการ ที่คว้าแชมป์รายการ แอลพีจีเอ แมตช์เพลย์ ซึ่งเป็นแชมป์ที่ 2 ในทัวร์ของเธอ
ต่อด้วยอีก 1 แชมป์ในเดือนสิงหาคมจากฝีมือของ พราว-ชเนตตี วรรณแสน ในรายการ พอร์ตแลนด์ คลาสสิก ซึ่งเธอได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันในรายการนี้ จากการเล่นรอบมันเดย์ควอลิฟาย และก็คว้าแชมป์แรกได้สำเร็จ โดยเป็น 1 ใน 5 รุกกี้ ที่คว้าแชมป์ได้ในฤดูกาลนี้ และยังเป็น 1 ใน 12 แชมป์หน้าใหม่ในแอลพีจีเอทัวร์ (First-Time Winners) อีกด้วย
ซึ่งนับเป็นฤดูกาลที่ 3 ติดต่อกันที่ประเทศไทยมีแชมป์หน้าใหม่เกิดขึ้นในทัวร์ต่อจาก เมียว-ปาจรีย์, แพตตี้-ปภังกร (สองแชมป์หน้าใหม่ปี 2021) และ จีน-อาฒยา (แชมป์หน้าใหม่ปี 2022)
นอกจากนี้ พราว-ชเนตตี ยังกลายเป็นคนที่ 7 ของสาวไทยที่ได้แชมป์ในทัวร์ ทำให้ขณะนี้ ประเทศไทย ได้แชมป์รวมแล้ว 22 รายการ
สำหรับ จีน-อาฒยา โปรสาวราชบุรีวัย 20 ปี ซึ่งจบท็อปเทนถึง 13 รายการจากทั้งหมด 21 รายการ แม้จะไม่สามารถคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้ได้ แต่เธอก็คว้าถ้วยรางวัล “Vare Trophy” ซึ่งมอบให้กับนักกอล์ฟที่ทำสกอร์เฉลี่ยต่ำสุด ซึ่งทำให้เธอสะสมได้อีก 1 แต้ม เพื่อการเข้าสู่หอเกียรติยศ โดย จีน-อาฒยา เป็นนักกอล์ฟสาวไทยคนที่ 2 ที่คว้าถ้วยรางวัลไปครอง ต่อจาก เม-เอรียา ที่ทำได้เมื่อปี 2018
ซึ่งในปีนั้น เอรียา ทำได้ 3 แชมป์ และกวาดเรียบ 5 รางวัล ได้แก่ สกอร์เฉลี่ยต่ำสุด, นักกอล์ฟยอดเยียมแห่งปี, นักกอล์ฟทำเงินสูงสุด, คะแนนเรซทูซีเอ็มอีโกลบ และนักกอล์ฟผลงานดีที่สุดในรายการเมเจอร์
จากผลงานในรอบปี 2023 ทำให้มีนักกอล์ฟสาวไทยยังได้สิทธิ์เล่นในแอลพีจีเอทัวร์ฤดูกาลหน้าถึง 10 คน
และล่าสุดแฟนกอล์ฟจะได้เชียร์เพิ่มอีก 1 คน กับ มายด์-ตรีฉัฏ จีนกลับ โปรวัย 28 ปี ซึ่งเพิ่งคว้าทัวร์การ์ดจากการแข่งขันคิวสคูล โดยเธอเพิ่งจะจบฤดูกาล 2023 ด้วยการคว้าตำแหน่งนักกอล์ฟมือหนึ่ง และนักกอล์ฟดาวรุ่งยอดเยี่ยมจาก เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยนทัวร์ ซึ่ง มายด์-ตรีฉัฎ ก็เคยได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการเป็นส่วนหนึ่งของ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ในฐานะ Young Ambassador ในปี 2016
ด้วยกระแสนักกอล์ฟสาวไทยที่แรงอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ เชื่อได้ว่า “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024” ครั้งที่ 17 ในวันที่ 22-25 กุมภาพันธ์ 2567 แฟนกอล์ฟจะล้นสนาม สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พัทยา จ.ชลบุรี อย่างแน่นอน
แต่ก่อนถึงเวลานั้น เรามาลุ้นกันก่อนว่าจะมีนักกอล์ฟสาวไทยคนไหนบ้างที่จะอยู่ในรายชื่อ 72 ผู้เล่นที่จะได้ร่วมลุ้นแชมป์ พร้อมเงินรางวัลรวม 1.7 ล้านดอลลาร์ฯ (ราว 62 ล้านบาท) ในครั้งนี้