Link Copied!

‘เจ้าชายขี้อาย’ ยังหวังครองบัลลังก์กอล์ฟ

ย้อนกลับไปเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะในสหรัฐอเมริกา หรือ ญี่ปุ่น ทุกช็อตการเล่นของ เรียว อิชิกาว่า จะมีทีวีทุกช่องตามเก็บภาพ และหลังจบรอบในแต่ละวันจะมีสื่อมวลชนสายกอล์ฟแห่สัมภาษณ์ทุกสำนัก

ทำให้เอเย่นต์ของ อิชิกาว่า ต้องเตรียมเก้าอี้ไว้เพื่อให้เขานั่งตอบทุกคำถามจากสื่อ ซึ่งจะนำไปเป็นประเด็นพาดหัวข่าวนำเสนอความเคลื่อนไหวของเขาทุกอย่างก้าว

อิชิกาว่า เป็นฮีโร่ขวัญใจแฟนกีฬากอล์ฟและสื่อญี่ปุ่น ผู้สร้างแรงบันดาลใจความคลั่งไคล้เกมกีฬากอล์ฟของคนในประเทศ ก่อนที่จะมี ฮิเดกิ มัตซึยาม่า ก้าวขึ้นมาประกาศศักดาสร้างชื่อในเวทีกอล์ฟโลกคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์ 8 รายการ

ในวัย 15 ปี อิชิกาว่า สร้างประวัติศาสตร์ในวงการกอล์ฟด้วยการเป็นแชมป์เจแปนกอล์ฟทัวร์ ที่อายุน้อยที่สุดในปี 2007 และในปี 2009 รวมทั้งเป็นนักอล์ฟที่ทำเงินรางวัลสูงสุดในเจแปนกอล์ฟทัวร์ ด้วยผลงานคว้าแชมป์ 4 รายการ เมื่อเข้าสู่วัย 20 ปีเขากลายเป็นที่รู้จักในนาม “เจ้าชายขี้อาย” จากความเป็นหนุ่มหน้าใส หน้าตาดี และมีชีวิตชีวา

หลังจากสร้างชื่อเป็นนักกอล์ฟที่โด่งดังที่สุดในญี่ปุ่น อิชิกาว่าเดินทางไปสหรัฐอเมริกาสู่เป้าหมายใหญ่อย่างเวทีพีจีเอทัวร์ และลงเล่นในพีจีเอทัวร์ 5 ฤดูกาล ระหว่างปี 2013 ถึง 2017 ซึ่งได้ลงแข่งขันกับนักกอล์ฟอย่างระดับตำนานอย่าง ไทเกอร์ วูดส์, เออร์นี่ เอลส์ และวีเจย์ ซิงห์ โดยผลงานดีที่สุดคว้ารองแชมป์สองรายการก่อนประสบปัญหาบาดเจ็บที่หลังเล่นงาน ทำให้การเล่นกอล์ฟอาชีพในสหรัฐอเมริกามีระยะเวลาสั้นลงกว่าที่คาดไว้

มาถึงปัจจุบันแม้ดูเหมือนว่า อิชิกาว่าโลดแล่นอยู่ในวงการกอล์ฟมายาวนาน แต่เขามีอายุเพียง 32 ปีเท่านั้น แก่กว่ามัตสึยาม่า 5 เดือน และแม้ว่าความเร็ววงสวิงอาจช้าลง แต่ล่าสุดโปรหนุ่มคนดังจากญี่ปุ่นเรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้และคว้าแชมป์ในบ้านเกิด 4 รายการในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา เตรียมพร้อมจะกลับไปไล่ล่าหาความสำเร็จในพีจีเอทัวร์ อีกครั้ง

เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา อิชิกาว่าทำผลงานได้น่าประทับใจในการแข่งขันรายการ โซโซ แชมเปี้ยนชิพ ในญี่ปุ่น จบอันดับ 4 ร่วม เป็นนักกอล์ฟเจ้าถิ่นที่ทำผลงานดีที่สุด และหนังสือพิมพ์แดนปลาดิบบางฉบับก็ให้พื้นการนำเสนอข่าวของอิชิกาว่า มากกว่าชัยชนะ 6 ช็อตของคอลลิน โมริกาว่า เสียอีก ขณะเดียวกันผลงานดังกล่าวยังจุดประกายไฟในตัวอิชิกาว่า ให้อยากกลับไปเล่นในพีจีเอทัวร์ มากยิ่งขึ้นไปอีก

การจบอันดับ 4 ร่วม ทำให้อิชิกาว่าได้รับสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันรายการของ FedExCup Fall ในศึกเวิลด์ไวด์ เทคโนโลยี แชมเปี้ยนชิพ ที่เม็กซิโก โดยอัตโนมัติในสัปดาห์หน้า

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะตอบรับร่วมแข่งขันรายการนี้หรือไม่ เจ้าตัวตอบแบบไม่ลังเล

“แน่นอน ผมจะเข้าร่วมแข่งขันที่เม็กซิโก ผมหวังเสมอว่าจะได้กลับมาเล่นในพีจีเอทัวร์อีกครั้ง”

อิชิกาว่า เผยกับกองทัพสื่อญี่ปุ่นอีกว่า “เป็นเวลาห้าปีแล้วนับตั้งแต่ที่ผมกลับมา แต่ผมยังพยายามพัฒนาเกมการเล่นเรียกฟอร์มเก่งของตัวเองคืนมาเพื่อจะได้กลับไปเล่นในพีจีเอทัวร์ ผมรู้สึกว่ามันยังไม่สายเกินไปที่ไปให้ถึงเป้าหมายที่ผมวางไว้ และผมกําลังทํางานอย่างหนักเพื่อไปถึงเป้าหมายดังกล่าว ผมมีความสุขที่จบใน 10 อันดับแรกสำเร็จ เป็นเรื่องน่ายินดีมาก” ทั้งนี้ อิชิกาว่า เคยทำผลงานจบใน 10 อันดับแรกครั้งสุดท้ายในพีจีเอทัวร์เมื่อปี 2016

ปัจจุบัน อิชิกาว่า ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกในทัวร์ มีคะแนนสะสมรั้งอันดับ 127 ของตาราง FedExCup และต้องจบอันดับ 2 ในการแข่งขันที่เม็กซิโกสัปดาห์หน้าเพื่อแซงขึ้นมาติดใน 125 อันดับแรก สำหรับคว้าพีจีเอทัวร์ การ์ด ลงเล่นในศึกพีจีเอทัวร์ปี 2024 โดยหากจบใน 10 อันดับแรกที่เม็กซิโกในสัปดาห์หน้า จะได้สิทธิเข้าแข่งขันรายการ FedExCup Fall สนามสุดท้ายในบาฮามาส และเพิ่มโอกาสกลับสู่เวทีพีจีเอทัวร์อีกครั้ง

แต่หากทำไม่สำเร็จ เจ้าตัวจะเข้าร่วมแข่งขันคิวสกูลหรือรอบคัดเลือก ซึ่งจะมอบตั๋วให้กับผู้เล่นที่ผลงานงานใน 5 อันดับแรกและเสมอ เข้าสู่การแข่งขันคิวสคูลสเตจสุดท้ายในเดือนธันวาคม

ในการแข่งขันรายการโซโซ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังมีนักกอล์ฟดาวรุ่งเจ้าถิ่นอย่าง เคเซอิ ฮิราตะ วัย 22 ปี และเรียว ฮิซาซึเนะ วัย 21 ปี ทำผลงานจบอันดับ 6 ร่วม ทำให้มีนักกอล์ฟญี่ปุ่น 3 คนติดในท็อปเท็น ซึ่งทั้งฮิราตะและฮิซาซึเนะ ต่างก็ได้รับสิทธิ์ร่วมแข่งขันในเม็กซิโกเช่นกัน

การได้เห็นนักกอล์ฟรุ่นน้องก้าวขึ้นมาทำผลงานโดดเด่น สร้างความตื่นเต้นยินดีกับ อิชิกาว่า อย่างมาก โดยเจ้าตัวเผยถึงเรื่องนี้ว่า “ผมคิดว่าตอนนี้มีแนวโน้มที่ดีมากมาย โดยเฉพาะกับนักกอล์ฟในวัย 20 ต้นๆ ซึ่งเราไม่เคยเห็นมาก่อนในปี 2019 ซึ่งเป็นปีแรกที่มีการแข่งขันรายการโซโซ แชมเปี้ยนชิพ”

“ผมคิดว่านี่เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง และเป็นโอกาสที่ดีสําหรับพวกเขา ที่สำคัญการแข่งขันพีจีเอทัวร์มาจัดที่ญี่ปุ่นและพวกเขาได้ลงสนามแสดงศักยภาพว่าเกมการแข่งขันพัฒนาขึ้นอย่างไรนับตั้งแต่ปี 2019 ตอนนี้แรงจูงใจในการแข่งขันสูงมาก”

(ภาพ: Getty Images)

Total
0
Shares