Link Copied!

แรงบันดาลใจสู่แชมป์ ‘เดอะ มาสเตอร์ส’

จอน ราห์ม โปรกอล์ฟจากสเปน คว้าแชมป์เมเจอร์รายการ “เดอะ มาสเตอร์ส” ที่ออกัสต้า เนชันแนล กอล์ฟคลับ มาครองได้เป็นครั้งแรก 

หลังปิดฉากรอบสุดท้ายเก็บเพิ่ม 3 อันเดอร์พาร์ 69 เอาชนะอันดับสองไป 4 สโตรก กลายเป็นนักกอล์ฟจากยุโรปคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ชนะรายการมาสเตอร์ส และยูเอส โอเพ่น 

อีกทั้งทำได้ในวันครบรอบ 40 ปีที่ เซวี่ บาเยสเตรอส ฮีโร่ของเขาคว้าแชมป์ เดอะ มาสเตอร์ส สมัยที่สอง และในวันครบรอบวันเกิดปีที่ 66 ของเซวี่ อีกด้วย

ชัยชนะที่ออกัสต้า เนชันแนล จึงมีความหมายมากเป็นพิเศษสำหรับ จอน ราห์ม ซึ่งได้แรงจูงใจในการเล่นกอล์ฟจากเซวี่ ตำนานโปรกอล์ฟแดนกระทิงดุ ขณะเดียวกัน ชัยชนะที่เดอะ มาสเตอร์ส ถือเป็นแชมป์พีจีเอทัวร์ รายการที่ 4 ของจอน ราห์ม ในฤดูกาลนี้ และส่งผลให้เขากลับขึ้นครองบัลลังก์มือหนึ่งโลกอีกครั้ง และยึดจ่าฝูงในตารางคะแนนเฟดเอ็กซ์คัพอย่างเหนียวแน่น  

ล่าสุดโปรกอล์ฟวัย 28 ปีจากสเปนแบ่งปันประสบการณ์และบอกเล่าความรู้สึกภายหลังคว้าแชมป์เดอะ  มาสเตอร์ส ผ่านทาง Player Blog ของตัวเอง ระบุว่า รู้สึกภูมิใจมากกับความสำเร็จในครั้งนี้และขออุทิศแชมป์นี้แด่ เซวี่ บาเยสเตรอส ตำนานผู้ล่วงลับ ผู้เป็นแรงบันดาลใจในการเล่นกอล์ฟและมีวันนี้ได้

จอน ราห์ม เผยว่า “มันยากที่จะเอ่ยออกมาเป็นคำพูด ว่าการคว้าแชมป์มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ มีความหมายกับผมมากแค่ไหน นักกอล์ฟทุกคนล้วนใฝ่ฝันถึงการคว้าแชมป์ที่ออกัสต้า เนชันแนล กอล์ฟ คลับ และพยายามนึกภาพว่าตัวเองจะรู้สึกอย่างไร หากบรรลุเป้าหมายความฝันกลายเป็นจริง

จังหวะตีช็อตสามขึ้นไปออนที่หลุม 18 ในการแข่งขันรอบสุดท้ายในวันอาทิตย์ บอกได้เลยว่ามันใกล้หลุมมาก เมื่อดูจากปฏิกิริยาของผู้ชมและตอนนั้นอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ มาเต็มมาก ผมไม่คิดว่าตัวเองจะร้องไห้เมื่อชนะการแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ แต่เกือบหลั่งน้ำตาในตอนท้าย เพราะการคว้าแชมป์เดอะ มาสเตอร์ส มีความหมายกับผม และกับวงการกอล์ฟสเปนอย่างมาก นี่เป็นแชมป์เมเจอร์รายการที่ 10 และเป็นแชมป์มาสเตอร์ส รายการที่ 4  ของนักกอล์ฟจากสเปน รวมทั้งเป็นแชมป์เมเจอร์รายการที่ 2 ของผม ซึ่งมันเหลือเชื่อมาก

สิ่งสำคัญที่ทำให้ผมลงแข่งขันกอล์ฟเพราะประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเกม และอีกหนึ่งเหตุผลคือ เซวี่ บาเยสเตรอส หากไม่ได้ดูการแข่งขัน ไรเดอร์ คัพ ที่วัลเดอร์ราม่า ในปี 1997 ซึ่งเซวี่ บาเยสเตรอส เป็นกัปตันทีมยุโรป ผมไม่รู้ว่าตัวเองจะอยู่ตรงไหนในทุกวันนี้ และครอบครัวจะเป็นอย่างไร เพราะในการแข่งขันครั้งนั้น ครอบครัวของผมตกหลุมรักและเข้ามามีส่วนร่วมกับเกมกีฬากอล์ฟ

สำหรับผมการชนะเลิศรายการ เดอะ มาสเตอร์ส ในวันครบรอบ 40 ปีของการคว้าแชมป์เดอะ มาสเตอร์ส สมัยที่สองของ เซวี่ และในวันครบรอบวันเกิด 66 ปีของเขา บวกกับเป็นวันอีสเตอร์ซันเดย์ มีความหมายพิเศษมาก ผมปิดฉากทัวร์นาเมนต์ด้วยการเซฟพาร์ที่ไม่ธรรมดา กลายเป็นเซวี่พาร์ แบบไม่ตั้งใจ ผมรู้ว่าเซวี่ช่วยผลักดันผม และแชมป์นี้ก็เพื่อเซวี่ เขาเฝ้ามองผมอยู่บนนั้น และคอยช่วยผม มีความภาคภูมิใจมากมายในการคว้าแชมป์เดอะ มาสเตอร์ส ครั้งนี้ และผมก็ภูมิใจในตัวเองมาก ผมเสียโบกี้เดียวในรอบสุดท้าย ภายใต้สภาพเงื่อนไขที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและพลิกแซงนำได้ เป็นเรื่องยากที่จะอธิบาย

อีกทั้งเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าผมเป็นนักกอล์ฟยุโรปคนแรกที่ได้แชมป์ยูเอส โอเพน และเดอะ มาสเตอร์ส เพราะมียอดนักกอล์ฟฝีมือดีจากยุโรปมากมายก่อนหน้าผม หากจะมีสิ่งอื่นใดที่เหนือกว่าการประสบความสำเร็จดังกล่าวนี้ มันคือการสร้างประวัติศาสตร์ในเกมกอล์ฟ นี่เป็นสองเมเจอร์ที่ยิ่งใหญ่ และผมคว้าแชมป์ทั้งสองรายการ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก

ระหว่างการแข่งขันรอบสุดท้าย ผมนิ่งและใจเย็นแม้เริ่มต้นด้วยการตามหลังบรู๊กส์ เคปก้า 2 ช็อต ผมรู้ว่าต้องสู้กับเขา พอเข้าสู่การทีออฟหลุมที่ 4 ผมมีคะแนนเท่ากับบรู๊กส์ เป้าหมายของผมคือต้องตีให้ดี ต้องตีให้อยู่ในแฟร์เวย์ มีโอกาสทำเบอร์ดี้ ต้องแสดงให้เห็น เพื่อทำให้เขาคิดและกดดันมากกว่าผม ซึ่งผมรู้สึกว่าตัวเองทำได้ดีมากทีเดียวในจุดนี้

หลังจากขึ้นนำในหลุมที่ 6 เป้าหมาย ณ ตอนนั้นคือ ต้องไม่กลับไปรวมอยู่กับคนอื่นๆ แต่ต้องทำแต้มหนีห่างออกไป เพื่อให้พวกเขาไล่ตามผม ผมรู้ว่าสามารถเก็บเบอร์ดี้และเซฟพาร์ได้หลายหลุมในช่วง 9 หลุมหลัง และเป็นเรื่องยากที่ใครจะตามทัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจอกับสภาพลมแรง

แต่ตำแหน่งผู้นำถูกไล่จี้มาอย่างรวดเร็ว และทำให้หลุมที่ 10, 11 และ 12 ยากมากขึ้นสำหรับผม ผมอาจดูนิ่ง แต่จริงๆแล้วข้างในตื่นเต้นมาก และผมดีใจที่มันดูเป็นแบบนั้น เราต้องไม่แสดงให้เห็นอาการตื่นตระหนก เมื่อกำลังต่อสู้เพื่อลุ้นแชมป์ในรายการ ผมรู้สึกดีกับเกมการเล่นของตัวเอง และมีแผนการที่ต้องทำให้สำเร็จ

สิ่งที่เห็นภายนอกอาจไม่ได้สะท้อนภาพจากภายในเสมอไป ผมไม่ปล่อยให้ตัวเองหงุดหงิด ไม่เคยรู้สึกว่ามีอะไรอยู่นอกเหนือการควบคุม แต่เห็นได้ชัดว่าประหม่าและมีความตึงเครียดอยู่เสมอ ครั้งเดียวที่ผมรู้สึกอารมณ์เสียเล็กน้อยคือตอนเช้าระหว่างการเล่นช่วงท้ายของรอบที่สามที่หลุม 16 และผมออกโบกี้ ก่อนหน้านั้นผมทำ 3 พัตต์ที่หลุม 13 และหลุม 15 จากนั้นก็ตีช็อตที่แย่มากในหลุม 16 แล้วก็เสียโบกี้ไป ผมรู้สึกว่าอย่างน้อยช็อตแบบนั้นผมสามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้มันเกิดขึ้นได้ นั่นคือครั้งเดียวที่ผมหัวเสียจริงๆ แต่ก็รีบดึงสติกลับมาโดยเร็ว และเซฟพาร์สำคัญในสองหลุมสุดท้าย ทำให้ตัวเองได้อยู่ก๊วนสุดท้ายในการแข่งขันรอบที่สี่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมต้องการและทำให้ตัวเองมีโอกาสคว้าแชมป์

เมื่อเข้าสู่การแข่งขันหลุมที่ 18 โดยมีคะแนนนำอยู่ 4 ช็อต ผมรู้สึกมั่นใจ แต่เหมือนปากพาจน เมื่อผมบอกกับ อดัม เฮย์ส แคดดี้ของผมว่า ผมตีเฟดได้ดีตลอดสัปดาห์ ทว่ามาพลาดที่หลุมที่ 18 และหลุดแฟร์เวย์ ผมคิดว่ามันอาจจะกลายเป็นเรื่องเล่าที่ดีในอนาคต ว่าผมได้แชมป์มาสเตอร์ส แม้ทีช็อตหลุม 18 ไม่อยู่ในแฟร์เวย์  อย่างไรก็ตาม ผมอยากให้จดจำการเล่นช็อตสองที่หลุม 14 มากกว่า เพราะหากถามหาช่วงสำคัญของการแข่งขันในรอบสุดท้าย ช็อตนั้นคือคำตอบ 

ผมมีความมั่นใจเสมอเมื่อขยับเข้าใกล้ตำแหน่งผู้นำ และเชื่อมั่นในเกมการเล่นของตัวเอง และอาจเป็นเพราะเจอสภาพเงื่อนไขที่ยากลำบาก ผมจึงจดจ่อกับสิ่งที่ผมต้องทำเท่านั้น ทุ่มเทและพยายามเอาชนะผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก เราจึงได้เห็นการแข่งขันที่เข้มข้น และเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นในการต่อสู้ ผมภูมิใจมากที่คว้าชัยชนะในเดอะมาสเตอร์สได้สำเร็จ

(ภาพ: Getty Images)

Total
0
Shares