Link Copied!

มวยไทยกลับมาคึกคักแต่ก็ยังมีปัญหาเดิมๆ

การแข่งขันมวยไทยศึกเพชรยินดีเมื่อวานนี้ที่เวทีมวยราชดำเนินถือเป็นการปลุกกระแสมวยไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจากซบเซามาหลายปีจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ที่ทำให้การจัดมวยต้องถูกระงับไปหลายครั้งในช่วง เกือบ 3 ปีที่ผ่านมา

ยอดค่าผ่านประตู 1.2 ล้าน กว่า ถือเป็นศึกเงินล้านรายการแรกในรอบหลายปี

“เสี่ยโบ้ท”ณัฐเดช วชิระรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์ผู้จัดสมควรได้รับความชื่นชม การจัดการแข่งขัน “มวยไทย” ยังกลับมาได้ แฟนมวยยังรอให้การต้อนรับเสมอ หากจัดมวยดี 

แต่ก็ น่าเสียดาย ที่รายการมวยเมื่อวานมีจุดด่างพร้อย จากปัญหาเดิมๆ ในเรื่องการตัดสิน มวยคู่สำคัญของรายการ ระหว่าง ธงน้อย ลูกบ้านใหญ่ ที่ขึ้นป้องกันแชมป์ทรูโฟร์ยู กับ สามเอ ไก่ย่างห้าดาว ยอดมวยไทยชื่อดังวัย 38 ปีที่ไปปักหลักค้ากำปั้นอยู่ที่สิงคโปร์ มาหลายปี ก่อนจะกลับไทยและ อยากจะชกไฟต์อำลา เพื่อเป็นการปิดฉากอาชีพ

โดยเกมการชก ธงน้อย มวยรุ่นน้องสูงยาวกว่าไล่ถล่ม นักชกรุ่นพี่จนออกอาการไม่ดี ทว่าในช่วงปลายยก 3 สามเอได้จังหวะฟันศอกซ้ายเข้าเต็มคาง ธงน้อย ทรุดลงไป กรรมการชุมพล อินต๊ะยศ ผู้ห้ามบนเวทีตัดสินใจนับแปดทันที ท่ามกลางการประท้วงของ ธงน้อย ที่อ้างว่า”ลุกเร็ว” ซึ่งท้ายสุดจาก นับแปดที่ค้ำไว้ ทำให้ สามเอ คว้าชัยไปแบบพลิกล็อก

และปัญหาก็ตามมาตามคาด เมื่อหัวหน้าคณะรายหนึ่ง เข้าไปประท้วงกรรมการอย่างรุนแรง เนื่องจากไม่พอใจจังหวะที่โดนนับ

ซึ่งนี่ คือปัญหาสำคัญอีกอย่างหนึ่งของวงการมวยไทยในตอนนี้ คือกติกาที่ไม่แน่ชัด โดยเฉพาะจังหวะที่ต้องนับแปด กติกามวยไทยอาชีพ ไม่ได้กำหนดชัดเจนว่า หากนักมวยถูกอาวุธของคู่ต่อสู้ จนล้มลงไปนวม หรือ ก้นแตะพื้น ต้องถูกนับทันทีเหมือน มวยสากลอาชีพ แต่จังหวะนับแปดขึ้นอยู่กับ ดุลพินิจของกรรมการ 

ซึ่งแน่นอนว่า ดุลพินิจของกรรมการมันเป็นเรื่องที่วัดกันไม่ได้ ไม่มีอะไรแน่นอน บางครั้งนักมวยถูกต่อยจนล้มกลิ้งลงไปกับพื้น แต่ลุกขึ้นมาเร็ว กรรมการก็ไม่นับ

ทั้งนี้ สาเหตุที่ การนับของมวยไทย มันสำคัญมากต่อผลการตัดสิน เนื่องจาก มวยไทย ชกกัน แค่ 5 ยก ถ้าโดนนับเท่ากับแพ้ไปแล้ว 2 แต้ม โอกาสจะพลิกกลับมาชนะแทบเป็นไปไม่ได้เลย ต่างกับมวยสากลอาชีพที่ชกกัน 10 หรือ 12 ยก มวยถูกนับจะมีโอกาสกลับมาชนะได้มากกว่า

กรรมการมวยไทย จึงมักจะไม่นับถ้าไม่ชัดเจนจริงๆ แต่ก็อย่างที่บอก ความชัดเจนของแต่ละคนมันก็ไม่เท่ากัน

จังหวะที่ สามเอ สับศอก ธงน้อย ร่วงลงไป หลายคนบอกว่า ลุกเร็ว ไม่น่านับ แต่ หลายคนก็มองว่า ธงน้อย โดนอาวุธ จนหล่นไปแล้ว จะนับก็ได้ แล้วแต่กรรมการ

แต่ที่ น่ากังวลมากกว่า ปัญหาการตัดสิน ก็คือความเข้มแข็งของเวทีมวยราชดำเนิน ที่เป็นเวทีมวยเก่าแก่ของประเทศ มีศักดิ์ มีศรี ที่สมควรแก่การเคารพ

ทว่า กลับปล่อยปละละเลยให้ หัวหน้าคณะ มาโวยวายแบบไร้มารยาท ทั้งๆที่เมื่อวานนี้ก็มีแขกบ้านแขกเมืองอย่างเจ้าชายจากซาอุดีอาระเบีย มาชมมวยในสนาม ท่านเป็นหนึ่งในคนที่กำลังจะผลักดัน “มวยไทย”เข้า โอลิมปิก แต่กลับต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้

เวทีมวยราชดำเนิน สมควร มีมาตราการณ์รักษาความเรียบร้อย ที่ดีกว่านี้ ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ หัวหน้าคณะคนนี้ ก่อเหตุวุ่นวาย เมื่อหลายปีก่อนก็เคยเกิดเหตุถึงขั้นชกต่อยกับกรรมการ จนเป็นข่าวฉาวไปทั่ววงการ โดนแบนห้ามเข้าสนามไปพักเดียวก็ปล่อยให้กลับมาอีก

การตัดสินของกรรมการเมื่อคืนก็ไม่ได้ผิดพลาดร้ายแรงอะไรขนาดนั้น กรรมการก็เป็นบุคลากรของเวที ที่เวทีสมควรต้องปกป้อง ไม่ใช่ปล่อยให้คนนอกมายืนชี้หน้าด่า คนในองค์กรของตัวเอง แบบนั้น 

หากกรรมการตัดสินผิดพลาดจริงเวทีก็พิจารณาลงโทษไปตามระเบียบ ไม่ใช่ให้คนนอกมาตั้งศาลเตี้ยพิจารณากันเอง มิเช่นนั้น เวทีก็จะเป็นแค่สถานที่เท่านั้น ไม่ใช่องค์กรที่น่าเคารพ  น่าภาคภูมิ สมควรแก่การยกย่องแต่อย่างไร

Total
0
Shares