9 นักกีฬาไทย ร่วมโปรโมต “โอเมก้า” รุ่นพิเศษ เพื่อยกย่องมหกรรมกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก “ปารีส 2024”
“โอเมก้า” นาฬิกาแบรนด์ดัง ในฐานะผู้ทำหน้าที่บอกเวลาอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ปี 1932 ที่นครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา จนถึงโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่จะแข่งขันระหว่างวันที่ 26 ก.ค.-11 ส.ค. 67 รวมถึงกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ระหว่างวันที่ 28 ส.ค.-8 ก.ย. 67
ล่าสุด ได้ดึง 9 นักกีฬาทีมชาติไทย ที่ได้สิทธิไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 และพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ประกอบด้วย “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ (เทควันโด), “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ (แบดมินตัน), “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ (แบดมินตัน), “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย (แบดมินตัน), “โจเซฟ” โจนาธาน เวสตัน (ไคท์บอร์ด), “ลูกหมุน” ทองผาภูมิ วงศ์สุขดี (ยิงปืน), “แวว” สายสุนีย์ จ๊ะนะ (วีลแชร์ฟันดาบ), “วัติ” ประวัติ วะโฮรัมย์ (วีลแชร์เรซซิ่ง) และ “อ๋อง” หาญฤชัย เนตรศิริ (ยิงธนู) มาร่วมโปรโมตคอลเลคชั่นนาฬิกาโอเมก้ารุ่นใหม่ Seamaster Diver 300M “Paris 2024” Special Edition ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อยกย่องมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์และพาราลิมปิกเกมส์ครั้งนี้
สำหรับรุ่นพิเศษนี้ มีตัวเรือนขนาด 42 มม. ผลิตจากสแตนเลสสตีลและทอง Moonshine™ 18K – อัลลอยด์เยลโลว์โกลด์ อันเป็นเอกสิทธิ์ของ OMEGA ขอบตัวเรือนตกแต่งด้วยสเกลดำน้ำ เลเซอร์และดอท บรรจุสารเรืองแสง Super-LumiNova ในตำแหน่ง 12 นาฬิกา หน้าปัดเป็นเซรามิกสีขาวสลักด้วยเลเซอร์เสริมรูปลักษณ์ชวนสะกดสายตา ตกแต่งแบบด้านขัดเงาในส่วนของลวดลายคลื่นที่ยกนูน ขณะที่ตำแหน่งหน้าต่างแสดงวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ใช้ตัวเลขสีดำแบบอักษร Paris 2024 และที่เข็มวินาทีกลางประดับด้วยตรา Paris 2024 ดูสวยงามโดดเด่น
ฝาหลังของนาฬิการุ่นนี้ ประดับด้วยเหรียญทอง Moonshine™ 18K ขัดเงาตัดกับพื้นหลังเลเซอร์ตรา Paris 2024 ด้วยข้อความ “Paris 2024″และห่วงโอลิมปิกจากสแตนเลสสตีลขัดเงา รายล้อมลวดลายขรุขระ สายนาฬิกาเป็นสแตนเลสสตีลระบบ Quick Change สามารถสลับสายได้อย่างสะดวก เมื่อต้องการใช้สายนาฬิกายางที่ให้มา มีให้มาเลือก ทั้ง สีน้ำเงิน, ขาว หรือ แดง หรือกระทั่งสลับใช้กับสายนาฬิกา NATO Paris 2024 สายที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ โดยนาฬิการุ่นนี้ มีวางจำหน่ายเฉพาะที่บูติก OMEGA ในปารีสเมืองเจ้าภาพเท่านั้น
ด้วยจิตวิญญาณแห่งการแข่งขัน Seamaster Diver 300M รุ่นนี้ยังมาด้วยมาตรฐานระดับสูงสุดในด้านประสิทธิภาพและความเที่ยงตรง กลไก Co-Axial Master Chronometer 8800 และนาฬิกาทั้งเรือนต่างต้องเข้ารับการทดสอบและรับรองโดยสถาบันมาตรวิทยาสวิส (Swiss Federal Institute of Metrology, METAS) เพื่อให้ตรงตามระดับคุณภาพที่เข้มงวดที่สุด