คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครสักคนจะพาตัวเองก้าวผ่านโชคชะตาที่แสนจะโหดร้าย ต้องกลายเป็นคนพิการเพราะอุบัติเหตุ ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ด้วยฐานะที่ยากจน ทำให้ครอบครัวไม่สามารถพาไปรักษาได้ หนำซ้ำเขายังเคยเดินชีวิตพลาดพลั้งหันไปพึ่งยาเสพติด กว่าจะกลับใจเลิกได้ ก็ต้องมาสูญเสียบุตรสาวที่วัยยังไม่ครบขวบปีไปอีก แต่ “เซ้ง” พิสิษฐ์ หวังผลพัฒนศิริ หนุ่มวัย 34 ปี ผู้มีหัวใจที่ไม่เคยยอมแพ้ต่อชีวิต ที่เกิดมาได้เพียงครั้งเดียว เขาอาศัยน้ำตาของผู้เป็นแม่ในวันที่ต้องคุกเข่าอ้อนวอนให้เขาเลิกยา มาเป็นแรงผลักดันให้เขาฮึดสู้และตั้งใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง
วันหนึ่งโชคชะตาพาให้เขาได้มาเจอกับโค้ชเบิร์ด พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ ที่พาเขาตระเวณแข่งขันจนก้าวขึ้นไปถึงรายการระดับนานาชาติ เขามุ่งมั่นทุ่มเทในการฝึกฝนฝีมือกระทั่งได้รับหนึ่งเหรียญเงิน และหนึ่งเหรียญทองแดงจากการแข่งขันกีฬาปิงปองคลาส 8 ในศึกเอเชี่ยนพาราเกมส์ ในปี 2018 และสะสมคะแนนจนสามารถคว้าตั๋วผ่านเข้ามาเล่นในรายการพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ครั้งนี้ได้สำเร็จ
แม้การเข้าร่วมพาราลิมปิกครั้งแรกของเขาอาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จตามที่ได้ตั้งใจไว้ ต้องอยู่สายเดียวกับแชมป์เก่าริโอเกมส์จากจีน แต่เซ้งก็สู้ไม่ถอย สามารถตบลูกเด้งผ่านเข้ารอบ 16 คนสุดท้ายมาได้ แม้ว่าจะต้องมาพ่ายแพ้ให้กับนักปิงปองจากจีนอีกคนหนึ่งในรอบนี้ แม้จะแพ้ในการแข่งขัน แต่เขาจะไม่ยอมแพ้ในเส้นทางนักกีฬาอย่างแน่นอน และจะกลับมาชนะให้ได้ ด้วยการเก็บเอาประสบการณ์ที่ได้มาปรับปรุง และจะไม่มีวันหยุดพัฒนาตัวเอง มุ่งมั่นต่อยอดในการแข่งขันเอเชียนพาราเกมส์ปี 2022 และตั้งใจกลับมาทำผลงานให้ดียิ่งขึ้นในพาราลิมปิกเกมส์ครั้งต่อไปในปี 2024
เซ้งใช้คติในการดำเนินชีวิตที่ว่าความผิดพลาดคือบทเรียน การได้เข้าแข่งขันพาราลิมปิกครั้งนี้คือประสบการณ์ที่เขาได้รับ เขาตั้งใจที่จะเปลี่ยนหยาดน้ำตาจากความสูญเสียลูกสาวที่รักมาเป็นพลังชีวิตในการฝึกซ้อม เหงื่อทุกหยดคือคำมั่นสัญญาที่เขาบอกกับลมหายใจสุดท้ายของนางฟ้าตัวน้อย ว่าพ่อจะไปให้ไกลจนสุดฝันอันเป็นของขวัญให้ลูกได้ภาคภูมิใจ ด้วยหัวใจนักสู้ของตัวเองที่ไม่เคยก้มหน้าต่อโชคชะตาแม้แค่เสี้ยววินาที โดยมีกีฬาปิงปองเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
ชีวิตที่ผกผัน ทำให้เขาได้พบกับกีฬาปิงปองและผู้สนับสนุนกีฬาอย่างบริษัทบุญรอดฯ ที่มอบอาชีพใหม่ให้กับเขา ไม่ว่าวันนี้หนทางจะอีกไกลแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่เซ้งตั้งใจก็คือการมุ่งมั่นฝึกฝน ประสบความสำเร็จให้ได้มากที่สุด เขาวางเป้าหมายในอนาคตว่าเมื่อเลิกแข่งขันปิงปองแล้ว จะพัฒนาตัวเองด้วยการเป็นโค้ชในรุ่น Class 8 อาศัยความเข้าใจในกีฬา พร้อมกับนำประสบการณ์ที่ได้จากการเรียนรู้ตลอดชีวิตการเป็นนักกีฬาของเขา ถ่ายทอดให้กับนักกีฬารุ่นใหม่ๆต่อไป เป็นการตอบแทนโอกาสที่เขาได้รับจากทุกแรงสนับสนุน
เซ้งกล่าวปิดท้ายด้วยการให้กำลังใจทุกคนว่า ในวันที่เราท้อแท้ ล้มเหลวและพลั้งพลาด หากเราไม่สูญเสียซึ่งศรัทธาในตัวเอง แล้วสวมหัวใจสิงห์มุ่งไปข้างหน้า ความสำเร็จและแสงสว่างจะรอเราอยู่ เฉกเช่นชีวิตของเขา ที่มีกีฬาปิงปองเป็นหลักยึดและพลิกกลับขึ้นมาได้จากหัวใจที่ไม่ยอมแพ้
สนับสนุนโดย บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด
ติดตาม ซีรีส์ 10 ตอน แสงสว่างและความฝัน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ ในการใช้ชีวิตได้ที่นี่!!!
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม