“มันจะมีอยู่ในบางยุคที่นักมวยบางคนจะขึ้นชก 30 ครั้งต่อปี แต่ในวันนี้เหลือเพียงแค่ปีละ 1-2 ครั้ง
นี่คือความท้าทายสำหรับ แฟรงค์ วอร์เรน กับ บ็อบ อารัม ที่จะทำให้นักชกอย่างพวกผมมีโปรแกรมขึ้นชก 15-20 ครั้งในปีหน้า”
ไทสัน ฟิวรี นักชกรุ่นยักษ์ที่เก่งที่สุดในโลกในเวลานี้ได้กล่าวเอาไว้
แชมป์โลกชาวอังกฤษวัย 34 ปี กลายเป็นแชมป์ที่หาคู่ชกได้ยาก แล้วเพิ่งขึ้นชกเพียง 1 ครั้งในปีนี้ และกำลังจะมีไฟท์ที่สองในวันที่ 3 ธันวาคม ณ สนามท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดียม
การเว้นระยะที่ยาวนาน จึงทำให้จอมห้าวเข้าเส้นอย่างเขา หวนคิดถึงวันวานสมัยที่อยู่ในวัยกำลังไต่เต้า
ในยุคสมัยของ ไมค์ ไทสัน มฤตยูดำขึ้นชก 15 ครั้งในปี 1985 และ 13 ครั้ง ในปี 1986 ซึ่งเป็นการไต่เต้าทำอันดับใน 2 ปีแรกของเขา แต่หลังจากนั้นก็ลดความถี่ลงตามมุมมองของสุดยอดโปรโมเตอร์อย่าง ดอน คิง
สำหรับ ไทสัน ฟิวรี เขาเคยขึ้นชกมากครั้งที่สุดในปี 2009 ตอนวัย 21 ปี ซึ่งก็มีจำนวนเพียงแค่ 9 ไฟท์เท่านั้นเอง
อาจจะด้วยการที่ไม่สามารถขึ้นชกได้บ่อยๆ นักชกยุคปัจจุบันจึงต้องสละตำแหน่งกันแบบไม่เต็มใจ หากว่าผู้จัดการ หรือ โปรโมเตอร์ มองว่าไม่คุ้มทุน หรือ ไม่สร้างประโยชน์ จนมีบางคนย้ายอาชีพกันเลยทีเดียว
แต่ด้วยจำนวนไฟท์ขนาดนั้น ก็คงจะต้องไปกางข้อกำหนดทางสาธารณสุขของแต่ละรัฐ แต่ละเมือง แต่ละประเทศออกมาดูว่า ที่ใดอนุญาตให้ขึ้นชกกี่ครั้ง และ ต้องพักกี่วันหลังชนะ เสมอ แพ้คะแนน และ แพ้น็อค
เรียกได้ว่า มีทั้งข้อจำกัดทางสุขภาพ, ทางธุรกิจ และ ความกระหายเวทีเป็นตัวชี้วัด
ไม่อย่างนั้นก็คงจะไม่มีรายการพิเศษของ ฟลอยด์ เมย์เวทเทอร์ หรือ คงจะไม่มีนักชกสายบันเทิงขึ้นมามากมายหลายไฟท์ จนทำให้บางคนมองว่า วงการมวยทุกวันนี้ เน้นไปที่ความบันเทิงมากกว่าการต่อสู้
สำหรับ ไทสัน ต้นฉบับ เขาคงไม่คิดหวนกลับมาขึ้นเวทีอีกแล้ว นอกจากว่าอยากจะโปรโมทธุรกิจสีเขียวของเจ้าตัว
ส่วน ไทสัน ฉบับอังกฤษ อาจจะต้องหยิบคำชวนของ “เดอะ ร็อค” ที่ยินดีพาเข้าวงการบันเทิงของฮอลลีวูด ตามที่ดาราดังเคยเกริ่นเอาไว้มาพิจารณา ถ้าหากว่าไม่สมหวังกับความตั้งใจ