Link Copied!

รอเข้าครม.! กกท. ยืนยันแผนต่อสัญญา โมโตจีพี 5 ปี

การกีฬาแห่งประเทศไทย ยืนยันได้ข้อสรุป นำแผนต่อสัญญาจัดศึก โมโตจีพี อีก 5 ปี ดันเข้าสู่การพิจารณาของ คณะรัฐมนตรี วันที่ 4 พ.ย.นี้

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเจรจาต่อสัญญา โมโตจีพี สนามประเทศไทย ที่ฉบับปัจจุบันจะหมดลงในฤดูกาลนี้ว่า ขณะนี้การเจรจาระหว่าง การกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะคู่สัญญากับ ดอร์น่า สปอร์ต เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศให้มากที่สุดและเตรียมเดินหน้าเข้าสู่การอนุมัติขั้นสุดท้าย

ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กกท.มีความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าต่อสัญญาการเป็นเจ้าภาพ MotoGP เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมา การจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก MotoGP ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับการยอมรับในระดับโลก ทั้งด้านมาตรฐานสนามและการบริหารจัดการแข่งขัน ซึ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ของประเทศ โดยได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมข้อมูลและจัดทำข้อเสนอเชิงกลยุทธ์ฉบับใหม่ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐบาลให้พิจารณา

ดร. ก้องศักด ยังย้ำถึงความคุ้มค่าของการต่อสัญญาครั้งนี้ โดยกล่าวว่า การดำเนินการต่อสัญญา พิจารณาจากผลงานที่ผ่านมา เรามีข้อมูลเชิงประจักษ์ว่า ThaiGP สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนจำนวนมหาศาล และเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการพัฒนามิติต่างๆมากมาย อาทิ มิติในการพัฒนาด้านกีฬา, เป็น Soft Power และ Global Brand Positioning ของประเทศไทย ตลอด 6 ปี สร้างรายได้ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมสูงถึง 2.4 หมื่นล้านบาท จากการท่องเที่ยว การจ้างงาน การลงทุน และการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น  ถือเป็นผลสำเร็จของนโยบาย Sport Tourism ของไทยอย่างแท้จริง

สำหรับสัญญาใหม่ในครั้งนี้ จะต่อออกไป 5 ปี ระหว่างปี 2027 – 2031 ซึ่งการนำเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาและอนุมัติงบประมาณนั้น กำลังดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดย คาดว่าจะสามารถนำเข้าวาระการประชุมนัดต่อไปคือ วันที่ 4 พ.ย.นี้

ผู้ว่าการ กกท. ยอมรับว่า ในการต่อสัญญาครั้งนี้ มีการเพิ่มค่าลิขสิทธิ์การจัดการแข่งขันขึ้นเล็กน้อย แต่ยืนยันว่าราคาของประเทศไทยไม่สูง เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ โดยมีปัจจัยสำคัญคือจุดแข็งที่ไม่มีใครเทียบได้ โดยเราพยายามต่อรองให้ได้เงื่อนไขที่คุ้มค่าที่สุด

โดยในแผนการจัดการแข่งขันในสัญญาฉบับใหม่ มุ่งเน้นการยกระดับการจัดการแข่งขันให้สอดคล้องกับเทรนด์โลก สร้างคุณค่า สร้างภาพลักษณ์เชิงกลยุทธ์ และผลประโยชน์สูงสุดที่ประเทศไทยจะได้รับจากการเป็นเจ้าภาพระยะยาว ซึ่งมีความชัดเจนและแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก และมั่นใจว่าด้วยจุดแข็งที่เรามี และการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน เราจะสามารถนำข่าวดีมาสู่แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยและทั่วโลกได้ในเร็วๆ นี้

ซึ่งหลังจากนี้ หากว่า คณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย เสนอ ยังมีขั้นตอนต่างๆ ที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ดำเนินการจัดสรรงบประมาณทั้งงบประมาณประจำปีและงบจากกองทุนการพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ

ดังนั้น หลังจากดำเนินการลงนามในสัญญา การกีฬาแห่งประเทศไทย มีแนวนโยบายที่จะให้ภาคเอกชน เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น โดยจะมีการเชิญภาคเอกชนเข้ามาเจรจาและร่วมในการจัดงานอย่างเป็นรูปธรรมทันที  เนื่องจากการต่อสัญญาครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวกับการจัดงานปีสุดท้ายของสัญญาเก่า (2026) ซึ่งถือว่าล่าช้า ทำให้ต้องมีการเร่งรัดการดำเนินงาน เร่งบูรณาการความร่วมมือด้านต่างๆของภาครัฐและเอกชนร่วมกันให้มากที่สุด เพื่อให้ MotoGP ไทย เป็น “เมกะอีเวนต์” ที่สร้างประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ

ส่วน ความเคลื่อนไหวของการจัด “โมโตจีพี” สนามประเทศไทย เปิดฤดูกาลใหม่ 2026 ภายใต้ชื่อรายการ “พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์”  เตรียมจัดงานแถลงข่าวพร้อมเปิดจำหน่ายบัตรอย่างเป็นทางการ วันอังคารที่ 11 พ.ย.นี้

Total
0
Shares