ประมุขเจ็ตสกีไทย “บิ๊กเปี๊ยก” พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ชื่นชมในความสำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบของทัพเจ็ตสกีไทย ที่ประกาศศักดากวาดแชมป์ในศึกเจ็ตสกีเก็บคะแนนชิงแชมป์โลก “ดับเบิลยู จีพี วัน วอเตอร์เจ็ต เวิลด์ ซีรีส์ 2025” สนามเปิดฤดูกาล ที่ชายหาดนิชิกิโนฮามะ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น
จากความสำเร็จของทัพเจ็ตสกีทีมชาติไทย ในการเข้าร่วมชิงชัยในศึกเจ็ตสกีเก็บคะแนนชิงแชมป์โลก “ดับเบิลยู จีพี วัน วอเตอร์เจ็ต เวิลด์ ซีรีส์ 2025” (WGP#1 Waterjet World Series 2025) รวมถึงเป็นศึกเจ็ตสกีเก็บคะแนนชิงแชมป์เอเชีย หนึ่งใน 2 สนาม ของรายการ “เอเชี่ยน แชมเปี้ยนชิพส์” (WGP#1 Waterjet Asian Championships 2025) ณ ชายหาดนิชิกิโนฮามะ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 15-18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งสนับสนุนโดย มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า, การกีฬาแห่งประเทศไทย, กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, การบินไทย, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย Amazing Thailand และ ฟรีด้อม เรซซิ่ง โดยเบื้องต้นนักซิ่งบนผิวนำ้ของไทยคว้าแชมป์มาได้ 7 รุ่น และยังรอผลอย่างเป็นทางการอีก 2 รุ่น
ล่าสุด “บิ๊กเปี๊ยก” พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา นายกสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทยฯ ได้เผยถึงผลงานของนักเจ็ตสกีทีมชาติไทยในทัวร์นาเมนต์เปิดฤดูกาลที่แดนซามูไรว่า นับเป็นความภาคภูมิใจ และดีใจเป็นอย่างยิ่ง กับความสำเร็จของนักกีฬาทุกคน ที่อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเล มาแข่งขันในรายการนี้มากถึง 33 คน ซึ่งการที่เราคว้าแชมป์มาได้ถึง 7 รุ่นบวก ๆ จากทั้งหมด 21 รุ่น นับเป็น 1 ใน 3 ถือว่าเป็นการประกาศศักดาว่าทัพเจ็ตสกีไทยไม่เคยเป็นสองรองใครในระดับอินเตอร์ เพราะทัวร์นาเมนต์นี้มีนักเจ็ตสกีจาก 5 ทวีปทั่วโลก 21 ประเทศ รวมกว่า 200 ชีวิตมาประชันความเร็วกันอย่างเข้มข้น ต้องขอบคุณในเสน่ห์ของทีมเจ็ตสกีบ้านเราไม่ว่าจะเป็นทีมงาน ครอบครัว รวมทั้งพ่อแม่ ที่คอยซัพพอร์ตนักกีฬาของตัวเองอย่างอบอุ่นมาโดยตลอด
ที่น่าดีใจคือการที่เราได้ผลิตนักกีฬาหน้าใหม่ขึ้นมาเป็นแชมป์ในคลาสระดับมืออาชีพ (WGP#1) PRO-AM RUNABOUT 1100 OPEN ซึ่งก็คือ วรกิจ มงคลพร ที่เพิ่งขึ้นชั้นมาจากระดับกึ่งอาชีพเป็นครั้งแรก ก็เอาชนะคู่แข่งคว้าแชมป์รุ่นโปรมาครองได้เลย ถือเป็นผลงานข้ามชั้นจากนักแข่ง WGP#2 มาประเดิมแข่งใน WGP#1 ซึ่งเป็นตัวอย่างให้ทุกคนพัฒนาศักยภาพตัวเองตลอดเวลา อย่างหยุดนิ่ง เมื่อถึงจังหวะเวลาถ้าเรามองให้ไกลแล้วไปให้ถึงความสำเร็จตามเป้าหมายก็จะรออยู่ เพราะกีฬาเจ็ตสกีเป็นการควบคุมยานพาหนะบนผืนน้ำ เป็นเรื่องของอัตวิสัยของแต่ละคน ซึ่งถ้าเรามีความฟิตเตรียมตัวมาดี มีสมาธิ ใช้ไหวพริบ ปฏิภาณในการขับขี่ ก็สามารถสู้กับคู่แข่งได้ทุกชาติโดยไม่เกี่ยงตัวเล็กตัวใหญ่ สู้กันได้หมด อย่าง วรกิจ นี่ต้องขอชมเชยในความพยายามเป็นอย่างมาก เพราะปีที่แล้วเขามาประสบอุบัติเหตุแขนหักที่สนามโอซาก้าแห่งนี้ เพราะไม่ชินกับพื้นน้ำ แต่ก็ไม่ย่อท้อกลับไปฟิตซ้อมร่างกายแล้วกลับมาใหม่ เรียกว่าเคยล้มมาแล้วรีบลุกขึ้นมาสู้ต่อ เอาความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นมาใช้เป็นบทเรียนจนประสบความสำเร็จในที่สุด
นอกจากนี้ก็ยังมี “แฝดเซนต์” ธนวิชญ์ โมลี ที่คว้าดับเบิ้ลแชมป์ในรุ่นเรือยืน ทั้งในรุ่น PRO-AM SKI STOCK กับรุ่น EXPERT SKI GP ซึ่งต้องปรบมือให้ดัง ๆ เพราะตนทราบจากโค้ชทีมชาติชุดซีเกมส์ว่า “คู่แฝดสายฟ้า” ธนวิชญ์ – ธนวินท์ เป็นนักกีฬาที่มีระเบียนวินัย ขยันหมั่นฝึกซ้อมเป็นอย่างมาก นับเป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยมให้กับนักกีฬารุ่นน้องได้เจริญรอยตาม เช่นเดียวกับนักกีฬาหญิง ที่ “น้องมีโอ” ศศินา ผิวงาม สาวน้อยมหัศจรรย์ของไทย ก็ไม่ทำให้ผิดหวังคว้าแชมป์ในรุ่น WOMEN RUNABOUT 1100 STOCK มาครอง โดย ศศินา ก็นับเป็นนักเจ็ตสกีอีกคน ที่ตนเคยติดตามดูการซ้อมของเธอที่เมืองไทย บอกเลยว่าสุดจริง ๆ ทั้งการลงนำ้ ซ้อมปั่นจักรยานในแทร็ต เข้าฟิตเนส และทำทุกอย่างให้ร่างกายฟิตแอนด์เฟิร์มตลอดเวลา ส่วนอีกคนที่ต้องพูดถึง คือ “ออย” อรรถพล คุณสา นักแข่งจอมเก๋า ที่ประเดิมแชมป์แรกให้ทัพเจตสกีไทยในรุ่นเรือนั่งอาวุโส แต่งเครื่องยนต์จำกัด VETERANS RUNABOUT LIMITED ก็ถือเป็นนักแข่ง ที่คุณภาพคับแก้ว ดูแลร่างกายของตัวเองเป็นอย่างดีแม้อายุจะมากแล้ว แต่ก็ยังฟิตพร้อมแข่งอยู่เสมอ
สำหรับรุ่นที่เป็นนโยบายและทิศทางของสมาคมกีฬาเจ็ตสกีฯ รวมถึง WGP#1 ที่ตั้งใจจะสร้างนักกีฬาคลื่นลูกรุ่นใหม่ อายุ 8-13 ปี ขึ้นมาประดับวงการ ก็คือการแข่งขันในรุ่นสลาลม จับเวลา ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนได้ลงแข่งโดยไม่ต้องปะทะกัน ซึ่งรายการนี้น้อง ๆ เยาวชนของไทยเราคว้าแชมป์มาครองได้ 2 รุ่นคือ 1 LAP SLALOM JUNIOR 8-13 SKI 1100 STOCK จาก “น้องนะโม” ด.ช.ภัทรนนท์ บุตรแสงดี กับรุ่น 1 LAP SLALOM JUNIOR 8-13 SPARK STOCK จาก “น้องฮั่งตู๋” ด.ช.กัณภณฑ์ เพ็ชรคูเวียง ซึ่งทั้ง 2 เยาวชนที่คว้าแชมป์ ถือเป็นผลงานความสำเร็จของสมาคมฯ กับ WGP#1 ในการสร้างเมล็ดพันธ์รุ่นต่อไปให้วงการ เพื่อขึ้นมาเติมนักกีฬารุ่นพี่ในอนาคตที่จะต้องเลิกราไป เพราะน้อง ๆ เหล่านี้เมื่ออายุ 13 ปีขึ้นไปก็จะขยับไปแข่งในรุ่นที่ใหญ่กว่าในวันข้างหน้า
ในตอนท้าย ประมุขสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทยฯ ได้กล่าวถึงความสำเร็จของการจัดศึก “ดับเบิลยู จีพี วัน วอเตอร์เจ็ต เวิลด์ ซีรีส์ 2025” สนามเปิดฤดูกาลที่โอซาก้าว่า ต้องชื่นชมสมาคมกีฬาเจ็ตสกีฯ ที่ส่งนักกีฬาไปแข่งและคว้าแชมป์กลับบ้านมาได้เป็นกอบเป็นกำ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของนักกีฬาไทยที่กำลังอยู่ในเส้นทางการเตรียมตัวล่าเหรียญทองในกีฬาซีเกมส์ปลายปีนี้ ซึ่งตนมั่นใจว่าด้วยจุดแข็งของนักกีฬาไทยที่มีระเบียบวินัยและขยันหมั่นฝึกซ้อม เป้าหมาย 4 เหรียญทองจากทั้งหมด 6 รุ่นที่ตั้งไว้ เราไม่น่าพลาด ขณะเดียวกันก็ต้องให้เครดิตผู้จัด WGP#1 ด้วย ที่ตั้งใจจัดทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติได้อย่างสมบูรณ์แบบ จนได้รับการยอมรับจากนักเจ็ตสกีทั่วโลกที่ตบเท้ามาร่วมการแข่งขันมากถึง 21 ประเทศ และทำให้ประเทศต่างๆในเอเชีย สนใจที่จะเป็นเจ้าภาพบ้าง ไม่ว่าจะเป็น เกาหลีใต้ หรือ ยูเออี เรียกว่าตอนนี้ WGP#1 เริ่มเนื้อหอม และเราเดินมาถูกทางแล้ว กับการพัฒนาวงการเจ็ตสกีไทยและเจ็ตสกีโลก ควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่อง