WGP#1 ทัวร์นาเม้นท์กีฬาเจ็ตสกีโลก สัญชาติไทย 100% วางเป้าหมายปี 2568 เจาะตลาดโลก เพื่อมุ่งนำเข้ารายได้ให้ชาติกว่า 550 ล้านบาท กางปฏิทินชิงแชมป์โลก 2025 เริ่มที่ญี่ปุ่น ต่อด้วย เบลเยียม และปิดท้ายสนามชิงชนะเลิศที่ ไทย
“บิ๊กเดรค” นายปริเขต สืบสหการ ผู้อำนวยการทัวร์นาเม้นท์เจ็ตสกีโลก WGP#1 เปิดเผยว่า “ความสำเร็จของทัวร์นาเม้นท์ เจ็ตสกีอาชีพ WGP#1 ที่ออกไปสร้างชื่อเสียงแข่งขันบนเวทีโลก เพื่อวางกลยุทธ์ดึงดูดให้ทีมนักกีฬาทั่วโลก เดินทาง เข้ามาชิงชนะเลิศที่ประเทศไทย ซึ่งในรายการเวิลด์คัพที่จบลงไป เดือนธันวาคม ประเทศไทยนอกจากได้สร้างชื่อเสียงขึ้นเป็นทัวร์นาเม้นท์กีฬาเจ็ตสกีคุณภาพอันดับ 1 ของโลก โดยการยอมรับของนักกีฬาทั่วโลกแล้ว ยังบรรลุเป้าหมายการมีทีมนักกีฬานานาชาติเข้ามาร่วมกิจกรรมกว่า 3,000 คน สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจชาติรวมกว่า 490 ล้านบาท
ล่าสุด WGP#1 ได้ประกาศปฏิทินการแข่งขันเจ็ตสกีอาชีพเก็บคะแนนชิงแชมป์โลก หรือ เวิลด์ซีรี่ส์ 2025 โดยสนามที่ 1 จะจัดที่ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 15-18 พฤษภาคม 2568 ต่อด้วยสนามที่ 2 ประเทศเบลเยี่ยม วันที่ 24-27 กรกฎาคม 2568 และสนามชิงชนะเลิศ ที่ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 17-21 ธันวาคม 2568
ด้วยความร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อสร้างประโยชน์จากการเป็นสตาร์ทอัพ กีฬาด้านทรัพย์สินทางปัญญา ให้คุ้มค่าที่สุดแก่ชาติไทย เป้าหมายแรกจะใช้ทัวร์นาเม้นท์เวิลด์ซีรี่ส์ แผ่กิ่งก้านความเชื่อถือที่มั่นคงของการสร้างเครือข่ายนิยมผ่านความชื่นชอบและความเชื่อถือ อันเป็นความหมายที่ชัดเจนของคำว่า ซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อเพิ่มยอดเงินนำเข้าจากทีมกีฬานานาชาติที่มาเมืองประเทศไทย 490 ล้านบาท เพิ่มเป็น 550 ล้านบาท ในปี 2568
“การนำเข้า” ทีมแข่งนานาชาติระดับ 3,000 คน ซึ่งทุกคนจ่ายค่าใช้จ่ายมากันเองนั้น ไม่ใช่แค่สร้างเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่เป็น “การนำเข้าเงินตราต่างประเทศ มาให้ประเทศไทย” จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ส่วนอีก 4 เรื่องที่ขยายตัวต่อยอด คือ ศูนย์กลางงานแสดงเจ็ตสกีและการจัดประชุมโลก, อุตสาหกรรมเจ็ตสกีไทยเพื่อการส่งออก, ด้านสถานีโทรทัศน์กีฬานานาชาติที่ยอมรับคอนเท้นท์กีฬาไทยไปออกอากาศทั่วโลก เป็นกีฬาชนิดแรก ที่ไม่ใช่มวยไทย หรือกีฬาที่มีต้นกำเนิดจากต่างประเทศ และการสร้างชื่อเสียงกีฬาไทย ขึ้นเป็นผู้นำกีฬาความเร็วแห่งพื้นน้ำของโลก
เมื่อวงการกีฬาไทยประสบความสำเร็จ เป็นเจ้าของทัวร์นาเม้นท์โลก จึงกำลังมีหลายประเทศเสนอตัวเป็นเจ้าภาพทัวร์นาเม้นท์ปี 2026 แล้ว เช่น ประเทศฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, จีน, เวียดนาม ฯลฯ ซึ่ง WGP#1 กำลังพิจารณาความพร้อมของประเทศเจ้าภาพ ทั้งนี้ก็เป็นเครื่องชี้วัดว่า การสนับสนุนให้กีฬาไทยสร้างการเติบโตกีฬาด้านทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ด้านแบรนด์และคุณภาพทัวร์นาเม้นท์บนตลาดโลก เท่ากับว่าประเทศไทยจะมีโอกาสสร้างสตาร์ทอัพ ด้านทัวร์นาเม้นท์กีฬาเกิดขึ้นอีกมาก ยิ่งหากมองถึงอนาคตกีฬาของชาติ การสร้างโอกาสการแข่งขันบนตลาดโลก ให้กับทัวร์นาเม้นท์กีฬาไทย จะต้องเริ่มสร้างเสาเข็มที่แข็งแกร่งในวันนี้” “บิ๊กเดรค” กล่าวทิ้งท้าย
