Link Copied!

‘การกระทำ’ สำคัญกว่า ‘คำพูด’

“ใครไม่อาย ผมอาย” กลายเป็นชนักติดหลัง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกฟุตบอลไทย จากอดีตจนถึงวันนี้

ต้นกำเนิดเกิดหลังจาก ทีมชาติไทย แพ้ ญี่ปุ่น 0-4 ในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก ที่ไซตามะ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2017

คำถามคือ มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไม พล.ต.อ. สมยศ ถึงกล่าวคำนี้ออกมาในวันนั้น

ต้องยอมรับว่า ณ ตอนนั้น อะไร ๆ ก็ดูดีไปหมดสำหรับทีมชาติไทย โดยเฉพาะชุดใหญ่ที่มี “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง คุมทัพ สามารถทวงบัลลังก์จ้าวอาเซียนกลับคืนมา และผ่านเข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้ายคัดบอลโลก จนเกิดกระแสฟีเวอร์อย่างแท้จริง

แต่แล้วช่วงเวลาฮันนีมูนก็ค่อย ๆ สิ้นสุดลง เมื่อทีมชาติไทยต้องเจอกับทีมระดับเอเชียตัวจริงทั้ง ญี่ปุ่น, ซาอุดิอาระเบีย, ออสเตรเลีย, ยูเออี และ อิรัก ซึ่งก็พิสูจน์ให้เห็นว่าทีมชาติไทยยังห่างชั้น เมื่อผ่านครึ่งทาง ไม่สามารถเอาชนะใครได้เลย
หลังมีเพียงแค่ 1 แต้ม จาก 5 นัดที่ลงสนาม

กอปรกับ ณ เวลานั้น “ซิโก้” เริ่มมีความขัดแย้งกับนายกสมาคมคนใหม่ ในเรื่องผลประโยชน์ เมื่อ พล.ต.อ.สมยศ ไม่ยอมให้ บริษัทสปอร์ตฮีโร่ เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับทีมชาติเหมือนเดิมอีกต่อไป จนเกิดกระแสดราม่ากันมาตลอด

กระทั่งฟางเส้นสุดท้ายมาถึง เมื่อ “ซิโก้” พาทีมแพ้ ซาอุดิอาระเบีย คาบ้าน 0-3 ร่วงตกรอบบอลโลกอย่างเป็นทางการ ต่อด้วยไปเยือน ญี่ปุ่น ที่ไซตามะ และแพ้ขาดลอยกลับมา 0-4 จึงไม่มีเกราะไว้ปกป้องตัวเองอีกต่อไป

หลังจบเกม แม้ทั้งสองฝ่ายจะไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อพร้อมกัน แต่ได้กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่ยากจะกลับมาสานสัมพันธ์กันได้อีก

ซิโก้ – “ทีมที่เราเจอมันระดับเอเชีย เราต้องมองอีกกลุ่มด้วย วันนี้กาตาร์ลงทุนไม่รู้กี่พันล้าน ยังอยู่บ๊วยเหมือนกัน ทุกทีมรอบนี้หินหมด ต้องบอกตัวเอง ว่าพวกเขาแข็งแกร่งทั้งหมด ฉะนั้นวันนี้เราต้องถามกลับไปกับทุกคนว่า พอใจกับเด็กชุดนี้ไหม ถ้าจะโละโค้ช โละทั้งทีมก็แล้วแต่ท่านนายกสมาคม”

พล.ต.อ.สมยศ – “คำถามที่บอกว่าจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าหัวใจคนไทยคิดอย่างไร คิดเหมือนผมไหม ถ้าบอกว่า อยู่กันไปแบบนี้ ไม่เป็นไร เป็นแชมป์ซูซูกิ แชมป์ซีเกมส์ ไประดับเอเชียแพ้ที 4-0, 3-0, 2-0 ไม่เป็นไร แต่สำหรับผม ผมอายครับ ผมทนไม่ได้ ผมรับไม่ได้กับสิ่งเหล่านี้…”

ใครฟังก็คงเข้าใจได้ทันที!!!

จากวันนั้นถึงวันนี้ ทีมชาติไทยได้เปลี่ยนแม่ทัพมาหลายราย แต่ยังมีนายกสมาคมคนเดิม

และในวันที่ 1 มกราคม 2567 ทีมชาติไทย ปักหมุดจะไปเยือนไซตามะอีกครั้ง เพื่อลงเล่นนัดอุ่นเครื่องกับ ทีมชาติญี่ปุ่น ในการเตรียมพร้อมสำหรับเข้าสู่ทัวร์นาเมนท์ “เอเชียน คัพ 2023”

พร้อมกับมีประโยคเด็ดขึ้นมาใหม่ “ไม่มีใคร ไม่รักชาติ เรารักชาติ ไม่น้อยกว่าใคร”

จากชายผู้ทรงพลังที่สุดในวงการลูกหนังไทย ณ เวลานี้

Total
0
Shares