แห่ต้อนรับ “วิว-กุลวุฒิ” ฮีโร่เหรียญเงินปารีสเกมส์อบอุ่น “ครอบครัว-แม่ปุก” ร่วมยินดี
เมื่อ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานต้อนรับคณะนักกีฬาทีมชาติไทยที่กลับมาจากการแข่งโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
โดยคณะนักกีฬาชุดนี้ประกอบด้วย นักกีฬาแบดมินตัน ยิงปืน และกรีฑา ซึ่งนำทัพมาโดย “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ เจ้าของเหรียญเงินประวัติศาสตร์โอลิมปิกไทยในกีฬาแบดมินตัน
บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น โดยครอบครัวทั้งคุณพ่อ คุณแม่ น้องสาว รวมถึง “แม่ปุก” กมลา ทองกร ผู้ก่อตั้งโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด และเหล่าแฟนคลับ พร้อมสื่อมวลชน รอให้การต้อนรับ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ฮีโร่เหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
โดย “วิว-กุลวุฒิ” ให้สัมภาษณ์เปิดใจว่า “ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในวโรกาสครบ 6 รอบพระชนม์พรรษาผมจึงกราบรอพระราชทานถวายเหรียญรางวัลโอลิมปิกเกมส์แด่พระองค์ด้วย”
“ตอนนี้สิ่งที่อยากทำคืออยากพักมากๆ เนื่องจากการแข่งโอลิมปิกใช้เวลานาน และการเดินทางกลับไทยใช้เวลานานด้วย จึงอยากหยุดพักผ่อนแล้วรอดูว่าตารางฝึกซ้อมต่อไปของเราเป็นอย่างไร”
“หลังจากอาจจะต้องเดินทางขอบคุณผู้สนับสนุนซึ่งตรงกับรายการแข่งทั้งเจแปน โอเพ่น และโคเรีย โอเพ่น โดยในรายการเจแปน โอเพ่น อาจจะต้องไปแข่ง แต่ในโคเรีย โอเพ่น คงต้องขอถอนตัวเนื่องจากต้องเดินทางไกล ที่สำคัญต้องดูสภาพร่างกายด้วย ผมเชื่อว่าผลงานของเราจะดร็อปลงแน่นอน”
“ในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้เราได้เรียนรู้มากขึ้น ยอมรับว่าในรอบชิงชนะเลิศเราเป็นรองจริงๆ จุดอ่อนคือเกมบุกของเราจะเห็นได้ว่ารอบชิงฯ เกมรุกเราทำอะไรคู่ต่อสู้ไม่ได้เลย ประกอบกับคู่ต่อสู้เราแข็งแกร่ง สูง ยาว หลังจากนี้ต้องพัฒนาเกมบุกของตัวเองให้มากขึ้น”
“ส่วนตัวอยากฝากกับน้องๆ รุ่นหลังว่าอยากให้น้องๆ มีเป้าหมายในอนาคตก่อนว่าวันข้างหน้าเราอยากเป็นอย่างไร หมั่นศึกษาหาความรู้ มุ่งมั่นตั้งใจ มีความอดทน ผมเชื่อว่าน้องๆ ทุกคนมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ”
“แม้ว่าตอนนี้อันดับโลกจะขึ้นจากอันดับ 8 เป็นอันดับ 4 ของโลก จริงๆ แล้วอยากขึ้นเป็นมือ 1 ของโลกเหมือนกัน แต่เป้าหมายจริงๆ คือการคว้าเหรียญทองชิงแชมป์โลก เหรียญทองโอลิมปิก และเหรียญทองออล์ อิงแลนด์ 3 รายการนี้มากกว่า”
“ขอบคุณคนไทยทุกคนมากๆ สำหรับแรงเชียร์ กำลังใจที่ส่งมาในทุกช่องทาง ผมได้เข้าไปอ่านแล้ว รู้สึกซาบซึ้งและดีใจมากสำหรับโอลิมปิกครั้งแรกของผมแล้วสามารถเหรียญแบดมินตันมาให้กับประเทศไทยได้ ต้องยอมรับว่าการไปโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้เราไปเพื่อเรียนรู้เอาประสบการณ์มากกว่ายังไม่ได้มองถึงการคว้าเหรียญ เพราะดูจากสายแข่งเราค่อนข้างจะเป็นรองด้วยซ้ำ”
“พี่เมย์ (รัชนก อินทนนท์) เป็นต้นแบบที่ดีให้กับน้องๆ รวมถึงตัวผมด้วย ผมเชื่อว่าอีก 4 ปีข้างหน้า พี่เมย์อาจจะมีเหรียญโอลิมปิกเกมส์”
“ส่วนคำถามว่านอกจาก วิคเตอร์ อเซลเซน แล้วใครน่ากลัวอีกนั้น ต้องบอกว่าในประเภทชายเดี่ยวนั้นนักกีฬาจากทุกประเทศฝีมือดีทุกคน ร่างกายแข็งแรงทุกคน ผมเชื่อว่าอีก 4 ปีข้างหน้าจะเป็นงานที่ยากขึ้นไปอีกเช่นกัน”
“รู้สึกดีใจที่เราได้เป็นตัวอย่างให้น้องๆ รุ่นหลัง ผมจะพยายามทำตัวเองให้ดี เพื่อให้รุ่นน้องได้เอาเป็นแบบอย่าง ต้องขอบคุณโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด แม่ปุก โค้ชเป้ รวมถึงทุกๆ คนที่บ้านทองหยอดซึ่งคอยสนับสนุนผม รวมถึงครอบครัวผมด้วย โดยเฉพาะน้องสาวผมที่คอยเชียร์ผมตลอดทุกๆ การแข่งขัน ผมจะพยายามทำงานให้ดีขึ้น”
“สิ่งที่อยากกินตอนนี้มี 2 อย่างคือ ชาบู และปิ้งย่าง เพราะตอนที่อยู่ฝรั่งเศสเราอยู่ในหมู่บ้านนักกีฬา ไม่มีอาหารพวกนี้ ซึ่งผมเองเป็นคนชอบกินอาหารบุฟเฟต์อยู่แล้ว เมื่อกลับมาคงต้องไปกิน ไม่ชาบูคงเป็นบุฟเฟต์” นักแบดมินตันดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิก 2024 ทิ้งท้าย