Link Copied!

“เมื่อหัวใจเชื่อมถึงปลายดาบ” สายสุนีย์ จ๊ะนะ

ภายหลังพิธีเปิดพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ณ กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม จากนั้นเพียงสองวัน
ทีมชาติไทยก็คว้าเหรียญรางวัลเหรียญแรกได้สำเร็จ จากฝีมือของ “แวว” สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬา
ฟันดาบวีลแชร์วัย 47 ปี ชาวเชียงใหม่ สร้างความสุขและความภาคภูมิใจให้กับคนไทยที่เอาใจช่วยเชียร์

เส้นทางการชิงชัยของสายสุนีย์ ในกีฬาฟันดาบวีลแชร์ประเภทเอเป้ บุคคลหญิง คลาสบี เธอฝ่าฟันมาถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนพ่ายให้กับ เทียน ซู เหม่ย คู่แข่งจากจีนไป 9-15 คะแนน อย่างไรก็ตามในรอบ
ชิงเหรียญทองแดง สายสุนีย์ไม่ได้ทำให้คนไทยที่ส่งใจเชียร์ต้องผิดหวัง เมื่อสามารถกลับมาเอาชนะ
โจว จิ้งจิ้ง คู่แข่งชาวจีนไปได้ 15-8 คะแนน

กล่าวได้ว่าเหรียญทองแดงล่าสุดนี้ของสายสุนีย์ ก็คือบทพิสูจน์อีกครั้งถึงความพยายามและการต่อสู้ที่เธอฝ่าฟันมาตั้งแต่เมื่อ 30 ปีก่อน นับจากหญิงสาวประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเดินไม่ได้อีก แต่เธอสามารถก้าวข้ามความผิดหวังและอุปสรรคของชีวิต มุ่งสู่วิถีทางของกีฬา มุ่งมั่นฝึกซ้อม อย่างที่เธอเคยเล่าว่า
ช่วงเริ่มต้นนั้นต้องซ้อมฟันดาบล่อเป้าวันละเป็น 1,000 ครั้ง เหนื่อยแค่ไหนก็ไม่เคยท้อถอย

ทุกๆ ครั้งในการแข่งขัน ขณะที่เธอสวมชุดนักกีฬาทีมชาติไทยนั่งอยู่บนวีลแชร์ ดาบในมือฉวัดเฉวียนปะทะคู่แข่ง สิ่งที่ขับเคลื่อนอยู่ข้างในคือหัวใจของนักสู้ จิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้ ดังนั้นถึงแม้เส้นทางของแวว
ในพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ครั้งนี้จะยุติลงแล้ว แต่หัวใจที่ไม่ยอมแพ้จะนำเธอไปสู่การชิงชัยครั้งใหม่ๆ
ที่รออยู่ในอนาคต

อีก 3 ปีข้างหน้า ในพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สายสุนีย์จะมีอายุครบ 50 ปี
แต่เธอประกาศตั้งแต่วันนี้ว่าตั้งใจไปร่วมแข่งขันด้วยแน่นอน และจะขอนำความผิดพลาดจาก
พาราลิมปิกเกมส์หนนี้เป็นบทเรียน แก้ไขจุดอ่อนของตัวเอง ใช้ความพยายามให้มากกว่าเดิม เพื่อคว้าเหรียญทองกีฬาฟันดาบวีลแชร์มาฝากคนไทยให้ได้อีกครั้ง แน่นอนมันไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินความมุ่งหวัง เพราะตราบใดที่เธอยังมีใจไม่ยอมแพ้ ความสำเร็จย่อมรออยู่ข้างหน้า


ติดตาม ซีรีส์ 10 ตอน แสงสว่างและความฝัน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ ในการใช้ชีวิตได้ที่นี่!!!


อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊คทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม

Total
0
Shares