Link Copied!

“ยูเลียน นาเกิลส์มันน์” ว่าที่นายใหญ่ “บาเยิร์น มิวนิก”

หลังจากที่คว้ามาแล้วทุกแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว บาเยิร์น มิวนิก ต้องหาผู้จัดการทีมคนใหม่ แล้วใครจะเป็นคนกล้ามารับงานที่กดดันที่สุดในสังเวียนบุนเดสลีกา

การประกาศลงจากตำแหน่งหลังจบฤดูกาลนี้ของ ฮันซี ฟลิค ชายที่พาบาเยิร์น มิวนิก กวาด 6 แชมป์ (นับจนถึงตอนที่เขียนบทความชิ้นนี้ ซึ่งฤดูกาล 2020-21 ยังไม่จบลง) โดยคาดการณ์กันว่าฟลิคจะไปรับงานคุมทีมชาติเยอรมนีต่อจาก โยอาคิม เลิฟ นั่นทำให้เสือใต้ต้องมองหาผู้จัดการทีมคนใหม่ หลังจากมีข่าวลือมากมาย สุดท้ายแล้วทีมดังจากมิวนิกก็เลือก ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ นายใหญ่ของอาเบ ไลป์ซิก มาคุมบังเหียนต่อ

การย้ายมาคุมทีมบาเยิร์น มิวนิก ของ ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ ฮือฮาตั้งแต่ยังไม่ออกสตาร์ต เมื่อเสือใต้ต้องจ่ายค่าชดเชยเป็นสถิติโลกให้กับไลป์ซิก สูงถึง 25 ล้านยูโร ทำลายเจ้าของสถิติเดิมอย่าง อังเดร วิลลาส-โบอาส ที่ย้ายจากปอร์โตไปคุมทีมเชลซีในปี 2011 ซึ่งทำไว้ที่ 15 ล้านยูโร

เหมือนกันกับนักฟุตบอล ผู้จัดการทีมที่มีค่าตัวสูงไม่ได้การันตีความสำเร็จเสมอไป ชัดเจนในรายของวิลลาส-โบอาส กับสิงโตน้ำเงินคราม ตอนนั้นผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกสก็ไม่ต่างไปจากนาเกิลส์มันน์ เขาเพิ่งพาปอร์โตคว้า 4 แชมป์ กลายเป็นผู้จัดการทีมที่เนื้อหอมที่สุดในยุโรป ว่ากันว่าเขาคือ โฮเซ มูรินโญ คนต่อไป การย้ายมาคุมทีมเชลซีดูจะเป็นอะไรที่ใช่ แต่สุดท้ายก็ถูกปลดจากตำแหน่งหลังจากคุมทีมดังจากลอนดอนได้ไม่ถึงปี

ในสังเวียนบุนเดสลีกา วัดจากขนาดของทีมและศักยภาพของสโมสร บาเยิร์น มิวนิก เหนือกว่าคู่แข่งทีมอื่นๆ หลายช่วงตัวอยู่แล้ว เรียกว่าในปีที่ทีมมีผลงานแย่ๆ อย่างน้อยๆ ก็ยังเอาตัวรอดคว้าแชมป์บุนเดสลีกามาครองได้สำเร็จ ใครจะมารับงานคุมทีมต้องการันตีว่าทีมต้องได้แชมป์ ถ้าต่ำกว่านั้นถือว่าล้มเหลว การเลือกผู้จัดการทีมที่มาแรงที่สุดของยุโรปมารับช่วงต่อ ถือเป็นการประกาศว่าบาเยิร์น มิวนิกจะไม่ยอมปล่อยให้ทีมอื่นๆ ในลีกขึ้นมาทาบรัศมีได้ 

ต่างจากวิลลาส-โบอาส ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ กำลังจะขึ้นมารับงานคุมทีมใหญ่โดยปราศจากถ้วยแชมป์ติดไม้ติดมือมาก่อน อย่างที่เราบอกว่าตอนที่กุนซือโปรตุเกสย้ายไปลอนดอน เขาเคยคว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลเดียวให้ปอร์โตมาแล้ว แต่เครดิตความสำเร็จที่จับต้องได้เป็นถ้วยแชมป์ของนาเกิลส์มันน์เป็นศูนย์ ซึ่งจะว่าไปก็อาจจะไม่ยุติธรรมกับผู้จัดการทีมวัย 33 ปีคนนี้นัก เพราะเขาต้องคุมทีมในลีกที่มีทีมแกร่งเกินหน้าเกินตาคนอื่นๆ อยู่ทีมเดียว คือ บาเยิร์น มิวนิก ว่าที่ทีมในอนาคตของเขา 

ในเมื่อไม่เคยทำทีมคว้าแชมป์ อะไรทำให้ ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ กลายเป็นกุนซือเนื้อหอมแห่งปี 2021 ย้อนกลับไปในปี 2016 ตอนนั้นนาเกิลส์มันน์ในวัย 28 ปีกลายเป็นผู้จัดการทีมที่อายุน้อยที่สุดในบุนเดสลีกาหลังจากรับงานคุมทีม 1899 ฮอฟเฟนไฮม์ ซึ่งตอนนั้นอยู่อันดับที่ 17 ของตารางคะแนน และต้องดิ้นรนหนีการตกชั้น ปรากฏว่าอีก 14 เกมที่เหลือเขาพาทีมชนะ 7 ใน 14 นัด รอดพ้นการตกชั้นได้สำเร็จ ในฤดูกาลถัดมา 2016-17 งานที่ผู้จัดการทีมคนหนุ่มทำเริ่มออกผล เมื่อฮอฟเฟนไฮม์จบที่ 4 ของตารางคะแนน ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนสลีกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

ตอนนั้นบาเยิร์น มิวนิก เริ่มสนใจในตัวผู้จัดการทีมรุ่นใหม่มาแรงคนนี้แล้ว มีการพูดคุยกันหลายรอบแต่สุดท้ายเสือใต้ก็เลือกที่จะไปหาคนอื่น เพราะกังวลในเรื่องประสบการณ์การคุมทีมของนาเกิลส์มันน์ หลังจากออกจากฮอฟเฟนไฮม์ ไลป์ซิกก็เป็นทีมที่ไม่แคร์เรื่องประสบการณ์ของผู้จัดการทีม นาเกิลส์มันน์รับตำแหน่งที่ไลป์ซิกในปี 2019 พาทีมมีลุ้นแชมป์เบียดกับบาเยิร์น มิวนิก และโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อยู่ทุกๆ ปี

ด้วยความที่ที่เติบโตขึ้นมาที่แลนด์สเบิร์ก เมืองเล็กๆ ใกล้กับมิวนิก ทำให้ ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ เป็นแฟนบอลของบาเยิร์น มิวนิก ตอนนี้เจ้าตัวยังมีบ้านอยู่ใกล้เมืองหลวงของแคว้นบาวาเรียทั้งๆ ที่คุมทีมอยู่ไลป์ซิก เมื่อทีมที่เชียร์มาตั้งแต่เด็กๆ มองหาผู้จัดการทีม การตัดสินใจจึงไม่ใช่เรื่องยากของนาเกิลส์มันน์ โดยเจ้าตัวเซ็นสัญญาคุมทีม 5 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2021เป็นต้นไป “มันมีข้อเสนอเข้ามาจากทีมอื่นๆ แต่ผมจะไม่ไปจากไลป์ซิก ยกเว้นทีมนี้ บาเยิร์น มิวนิก เป็นทีมเดียวที่ผมอยากไปคุมทีม” 

แนวทางการคุมทีมของ ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ เขาเป็นโค้ชที่นำเทคโนโลยีมาใช้ระหว่างคุมทีมฮอฟเฟนไฮม์ นาเกิลส์มันน์ติดตั้งจอขนาดใหญ่ไว้ในสนามซ้อม พร้อมมีกล้อง 4 ตัวจับภาพการซ้อม เพื่อโชว์ภาพให้ผู้เล่นเห็นได้ทันทีว่าต้องปรับตรงไหนและมีการอธิบายที่ชัดเจน ที่ไลป์ซิก นาเกิลส์มันน์ทำให้ทีมเล่นได้ในหลายๆ ระบบ เพื่อให้เหมาะกับคู่ต่อสู้ที่จะต้องเผชิญหน้าด้วย ทีมเล่นได้ทั้งแบบมีกองหลัง 3 คน หรือ 4 คน เล่นแบบมีกองหน้าตัวเป้า หรือบางครั้งไม่มีกองหน้าเลยก็ทำมาแล้ว 

ด้วยความที่ไม่เคยลงเล่นฟุตบอลในระดับสูง หลายคนมองว่านาเกิลส์มันน์เป็นผู้จัดการทีมในยุค Laptop Generation คือโค้ชที่มีความรู้มากมาย แต่ไม่มีประสบการณ์ในการลงเล่นจริงกับคู่ต่อสู้ระดับโลก แต่กุนซือสัญชาติเยอรมันคนนี้ก็พิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่แบบนั้น เราไม่สงสัยถึงความสามารถที่เขามี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาล และต้องคว้าแชมป์มาให้ได้สถานเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เขายังทำไม่ได้ในฐานะกุนซือ ถ้าจบฤดูกาล 2021-22 แล้วตู้โชว์ที่บาเยิร์น มิวนิกไร้ถาดแชมป์บุนเดสลีกาใบใหม่ ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ อาจจะลงเอยเหมือน อังเดร วิลลาส-โบอาส แล้วกลายเป็นแค่ผู้จัดการทีมที่เก่งเฉพาะหน้าจอคอมพิวเตอร์เหมือนที่คนอื่นๆ พูดไว้

อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊คทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม

Total
0
Shares