Link Copied!

ทำไม “ช้างศึก U23” จะไปไม่ถึงฝัน?

แม้หลายคนจะบอกว่า ช้างศึก U23เจองานไม่หนัก โอกาสเข้ารอบไม่ใช่เรื่องยาก หลังจากทราบผลการจับสลากแบ่งสายฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2022 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก โดยไทยอยู่ในกลุ่มเจ ร่วมกับมองโกเลีย (เจ้าภาพ), สปป. ลาว และมาเลเซีย แต่ด้วยปัญหาทั้งภายในและภายนอก ศึกครั้งนี้จึงมี 3 เหตุผลที่อาจทำให้ ช้างศึก U23ไปไม่ถึงฝั่งฝัน

1. นักเตะไม่ใช่ชุดที่ดีที่สุด

อย่างที่ทราบกันดี เมื่อไทยลีกไม่สามารถหลบโปรแกรมให้ทีมชาติได้ รายชื่อ 27 ขุนพลที่ประกาศออกมาจึงไม่ใช่ชุดที่ดีที่สุด เมื่อไร้นักเตะตัวหลักอย่าง เอกนิษฐ์ ปัญญา, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, กฤษดา กาแมน, ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์, กิตติพงษ์ แสนสนิท ที่ต้องอยู่รับใช้ต้นสังกัด

อย่างไรก็ดีเท่าที่ได้ แม้ชื่อเสียงจะไม่เด่นดังเปรี้ยงปร้าง แต่ฝีเท้าก็ถือว่าไม่ธรรมดาและมีประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็น จตุรพัช สัทธรรม, ธีรภัทร เลาหบุตร, นาคิน วิเศษชาติ, สกุลชัย แสงโทโพธิ์ ที่เคยไปลุยหิมะมองโกเลียกับชุด U19 มาแล้ว รวมถึง อิรฟาน ดอเลาะ, สัมพันธ์ เกษี, กรวิชญ์ ทะสา, จักรกริช พาละพล ที่ก้าวขึ้นชุดใหญ่ของสโมสรในไทยลีก

อีกทั้งยังได้ 4 นักเตะต่างแดนอย่าง โจนาธาน เข็มดี (โอบี โอเดนเซ่ / เดนมาร์ก), โอเวน ชาลี บัวพิศ (แซงต์ ทรุยด็องส์ / เบลเยียม), ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร (เลสเตอร์ ซิตี้ / อังกฤษ) และ เบนจามิน เดวิส (ออกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด / อังกฤษ) โดยเฉพาะสองแข้งจากเมืองผู้ดีน่าจะเป็นแกนหลักของทีมชุดนี้

2. เวลารวมตัวฝึกซ้อมมีน้อย

ช้างศึกชุดนี้มีการเก็บตัวแคมป์แรก 10 วันเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา พร้อมมีเสียงจากทีมโค้ชว่ายังไม่ลงตัวหลายอย่าง แต่ที่น่ากังวลกว่าก็คือ แคมป์หนนั้นคือแคมป์เดียวก่อนเดินทางไปมองโกเลีย แถม 29 ขุนพลชุดนั้น ก็มีรายชื่อเพียงแค่ 7 คนอยู่ในทีมชุดนี้

ด้วยคิวไทยลีกที่เตะกันรัวๆ บวกกับสถานการณ์ โควิด-19 ทำให้ทัพช้างศึกชุดนี้ไม่มีเวลาเหลือให้ฝึกซ้อมที่เมืองไทย เมื่อจบแมตช์วันที่ 16-17 ต.ค. ต้องรีบขึ้นเครื่องไปมองโกเลีย ในวันที่ 18 ต.ค. ทันที มีอะไรค่อยไปว่ากันที่นั่น

กับเวลาที่เหลือไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ก่อนแมตช์แรกจะเริ่ม (25 ต.ค.) นอกจาก “โค้ชโย่ง” และทีมงานจะต้องเร่งฟื้นฟูสภาพความฟิตและพยายามไม่ให้นักเตะตัวหลักมีอาการบาดเจ็บแล้ว ยังต้องฝึกซ้อมลงรายละเอียดทางแทคติก เพื่อให้ทุกคนเข้าใจในแผนการเล่นกับคู่แข่งที่ประมาทไม่ได้ ทั้ง มาเลเซีย, สปป. ลาว หรือแม้แต่ “เจ้าภาพ” มองโกเลีย ที่เราไม่ค่อยมีข้อมูล

3. สภาพอากาศหนาวเหน็บ

อุณหภูมิของประเทศมองโกเลียช่วงนี้จะแตะเลขตัวเดียวในช่วงกลางวันและติดลบในช่วงกลางคืน หรืออาจต้องเล่นท่ามกลางหิมะ ซึ่งไม่ใช่เรื่องคุ้นชินสำหรับนักเตะไทยที่เจอแต่สภาพอากาศร้อนอบอ้าวแทบทุกวัน ยิ่งมีเวลาปรับตัวไม่ถึง 1 สัปดาห์ จึงเป็นเรื่องยาก และอาจป่วยไข้ได้ง่าย

วิธีรับมือกับสภาพอากาศเช่นนี้คือ ต้องวอร์มให้ถึง เคลื่อนที่ให้มากขึ้น และสุดท้ายคือต้องช่วยกันเล่น โดยเฉพาะแมตช์แรกต้องเผชิญกับเจ้าภาพ “มองโกเลีย” ที่กุมความได้เปรียบในเรื่องนี้ ขณะที่ทีมบ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง สปป. ลาว ได้ยกทัพไปก่อนเราเกือบ 1 สัปดาห์เพื่อปรับตัว

จากเหตุผลทั้ง 3 ข้อ จึงทำให้โอกาสเข้ารอบของ “ช้างศึก U23” ดูก้ำกึ่งจนไม่กล้าฟันธง ด้วยเงื่อนไขการหาแชมป์กลุ่มทั้ง 11 กลุ่ม พร้อมด้วยรองแชมป์กลุ่มที่ดีที่สุด 4 จาก 11 กลุ่ม ผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปแข่งขันที่ประเทศอุซเบกิสถานในปีหน้า

ดังนั้นหากจะให้ปลอดภัยที่สุด ทัพ “ช้างศึก U23” จะต้องทำทุกอย่างเพื่อการันตีแชมป์กลุ่มให้ได้

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันของ ทีมชาติไทย ในรอบคัดเลือก กลุ่มเจ มีดังนี้

25 ตุลาคม 2564 เวลา 10.00 น. (ตามเวลาไทย) ทีมชาติไทย พบ มองโกเลีย

28 ตุลาคม 2564 เวลา 14.00 น. (ตามเวลาไทย) ทีมชาติไทย พบ สปป. ลาว

31 ตุลาคม 2564 เวลา 10.00 น. (ตามเวลาไทย) ทีมชาติไทย พบ มาเลเซีย ***ทุกนัดถ่ายทอดสดทาง AIS Play และช่อง ONE31

อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊คทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม

Total
0
Shares