Link Copied!

จาก 100 ปอนด์ถึง 100 ล้านปอนด์ เรื่องราวการ “ย้ายทีม” บนเกาะอังกฤษ

วิลลี โกรฟส์ ย้ายทีม จากเวสต์บรอมวิช อัลเบียน ไปร่วมทีมแอสตัน วิลลา ในปี 1893 ด้วยค่าตัว 100 ปอนด์ 128 ปีต่อมา แจ็ค กรีลิช กัปตันทีมสิงห์ผยอง ย้ายทีม ไปอยู่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 100 ล้านปอนด์ มากกว่าค่าตัวของ วิลลี โกรฟส์ ถึง 1 ล้านเท่า

ฟุตบอลอังกฤษเดินทางมาไกล ค่าตัว 100 ปอนด์ของโกรฟส์เป็นสถิติการย้ายตัวสูงสุดบนเกาะอังกฤษยาวนานถึง 11 ปี ก่อนที่ แอนดี แม็คคอมบี จะทำลายสถิตินั้นในปี 1904 ด้วยค่าตัว 700 ปอนด์ ในการย้ายจากซันเดอร์แลนด์ ไปร่วมทีมนิวคาสเซิล แต่เชื่อเถอะว่าสถิติค่าตัวของ แจ็ค กรีลิช จะไม่ยืนยาวแบบนั้น และอาจจะอยู่ไม่กี่สัปดาห์ ถ้าหาก แฮร์รี เคน เปิดหมวกลาสเปอร์ส 

“เมื่อไหร่ความโง่เขลาของสโมสรฟุตบอลจะจบลงสักที ?” คำถามที่นักข่าวฟุตบอลคนหนึ่งระบายอารมณ์ถึงการย้ายตัวของ ซิด พัดด์ฟุต ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1922 จากเวสต์แฮมไปฟัลเคิร์ก ด้วยค่าตัว 5,000 ปอนด์ ลองคิดดูว่าถ้านักข่าวคนนั้นเห็นค่าตัว 100 ล้านปอนด์ในวันนี้ เขาอาจตื่นตะลึงจนสติแตกไปเลยก็ได้

การย้ายตัวของพัดด์ฟุตเกิดขึ้นหลังจากที่อังกฤษเพิ่งจะฟื้นตัวจากสงครามโลกครั้งที่ 1 การที่สโมสรใช้เงินหลายพันปอนด์เพื่อนักฟุตบอลคนเดียวดูจะเป็นเรื่องบ้าคลั่งเกินความเข้าใจ เช่นกันกับ 100 ล้านปอนด์ที่เรือใบสีฟ้าของท่านชีค มานซูร์ จ่ายเป็นค่าตัวของ แจ็ค กรีลิช ในยามที่โลกทั้งใบกำลังเผชิญหน้ากับโรคระบาด การไม่มีคนดูในสนามเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา สโมสรรากหญ้าหลายแห่งล้มละลาย สโมสรยักษ์ใหญ่อย่างบาร์เซโลนาและยูเวนตุสเผชิญหน้ากับภาวะฝืดเคืองทางด้านการเงิน จนเจ้าบุญทุ่มต้องแยกทางกับ ลิโอเนล เมสซี และทีมม้าลายอาจจะต้องโบกมือลา คริสเตียโน โรนัลโด 

ในปี 1928 อาร์เซนอลทำสถิติค่าตัวนักเตะแตะหลักหมื่น จำนวน 10,890 ปอนด์ ด้วยการซื้อตัว เดวิด แจ็ค มาจากโบลตัน วันเดอเรอร์ส แล้วสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็มาคั่นกลาง ก่อนที่ เดนิส ลอว์ จะเป็นนักบอลคนแรกของเกาะอังกฤษที่ทำสถิติค่าตัวแตะหลักแสนปอนด์ เมื่อย้ายจากโตริโนในอิตาลีมายังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1962 กับป้ายราคา 115,000 ปอนด์

ในยุค 70 การซื้อตัวผู้เล่นด้วยราคาหลักแสนปอนด์ในอังกฤษเป็นเรื่องปกติ เศรษฐกิจกำลังเฟื่องฟู จนมาถึง เทรเวอร์ ฟรานซิส นักฟุตบอลค่าตัว 1 ล้านปอนด์คนแรก ตัวเลขชัดๆ คือ 1,180,000 ปอนด์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษย้ายจากเบอร์มิงแฮม ซิตี้ มาร่วมทีม น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ในปี 1979 ยุครุ่งเรืองของเจ้าป่า ภายใต้การคุมทีมของ ไบรอัน คลัฟฟ์ การย้ายตัวของศูนย์หน้าผู้ดีเกิดขึ้นในช่วงกลางฤดูกาล และสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วเกาะอังกฤษ “ผมพบว่าตัวเองพยายามหาความชอบธรรมกับค่าตัว 1 ล้านปอนด์ คุณต้องเป็นตัวเอง และเล่นในเกมของตัวเอง แรงกดดันมันหายไปเมื่อผมทำประตูแรกได้ในเกมกับโบลตัน” ฟรานซิสเอ่ย 

พอเข้าสู่ยุค 80 ฟุตบอลอังกฤษรู้ตัวเองว่าไม่สามารถสู้กับลีกอิตาลีและสเปนได้ นักฟุตบอลฝีเท้าดีย้ายไปค้าแข้งที่แดนมักกะโรนีและดินแดนกระทิงดุกันหมด จนการมาของพรีเมียร์ลีก ในยุค 90 ที่เปลี่ยนวิถีทางของฟุตบอลอังกฤษไปตลอดกาล เงินจากค่าลิขสิทธิ์โทรทัศน์ก้อนแรกในปี 1992 ที่ทีมพรีเมียร์ลีกได้รับอยู่ที่ 304 ล้านปอนด์ ก่อนจะเพิ่มเป็นเท่าตัวในอีก 5 ปีถัดมาที่ 670 ล้านปอนด์ และแตะหลักพันล้านปอนด์เมื่อเข้าสู่ยุคมิลเลนเนียม 

ค่าตัวของนักฟุตบอลเป็นกระจกสะท้อนความเฟื่องฟูทางการเงิน ในเดือนกรกฎาคม ปี 1996 อลัน เชียเรอร์ เป็นนักฟุตบอลอังกฤษค่าตัวหลัก 10 ล้านปอนด์คนแรก กองหน้าสิงโตคำรามย้ายจากแบล็กเบิร์น โรเวอร์สไปนิวคาสเซิล ด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ แล้วจุดเปลี่ยนมาถึงอีกครั้ง การมาของ โรมัน อบราโมวิช ที่ทำให้โลกฟุตบอลขับเคลื่อนด้วยเงิน ขณะที่ความซื่อสัตย์ต่อแฟนบอล หรือการเป็น One-Club Man กลายเป็นเรื่องที่ใกล้จะหายสาบสูญ 

แต่เสี่ยหมีอาจต้องใส่เกียร์ถอยหลัง เมื่อ อาบู ดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป (ตอนนี้เป็นซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป) เข้าเทกโอเวอร์สแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2008 ท่านชีค มานซูร์ ก็ไม่รีรอที่จะแสดงพลังเงิน ด้วยการคว้าตัวโรบินโญ ดาวเตะบราซิล มาร่วมทีมเรือใบสีฟ้าด้วยค่าตัว 32.5 ล้านปอนด์ เป็นสัญญาณบอกให้ทุกทีมในพรีเมียร์ลีกรู้ว่า พวกเขาไม่ได้มาเล่นๆ ก่อนที่เสี่ยหมีจะตอบกลับด้วยการคว้าตัว เฟร์นานโด ตอร์เรส จากลิเวอร์พูลไปอยู่เชลซีด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ในปี 2011 

ในปี 2016 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเกาะอังกฤษในยุคพรีเมียร์ลีก แม้จะมีเจ้าของทีมที่แฟนบอลเรียกขานว่า “ปลิง” ดูดเงินสโมสร แต่ปีศาจแดงก็ควักเงิน 89 ล้านปอนด์จ่ายให้ยูเวนตุสเพื่อดึงตัวอดีตเด็กปั้นอย่าง ปอล ป็อกบา กลับมาร่วมทีม หลังจากมิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศส เราก็รู้อยู่แล้วว่า ค่าตัว 100 ล้านปอนด์ของเกาะอังกฤษคงเกิดขึ้นในช่วงเวลาอันใกล้ แล้วก็เป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำให้ แจ็ค กรีลิช กลายเป็นนักเตะ 100 ล้านปอนด์คนแรกที่ย้ายมาร่วมทีมในพรีเมียร์ลีก

128 ปีที่แล้ว หลังย้ายออกมาจากเวสต์บรอมวิช อัลเบียน ชีวิตของ วิลลี โกรฟส์ นักเตะ 100 ปอนด์คนแรก ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ท่ามกลางเรื่องราวที่ว่าแอสตัน วิลลา ทำผิดกฎด้วยการไปดึงตัวเขามาแบบไม่ผ่านสโมสร แม้ว่าดาวเตะสกอตแลนด์จะช่วยพาสิงห์ผยองคว้าแชมป์ลีกในปี 1894 และลงเล่น 26 นัด ทำได้ 3 ประตู แต่เขาก็อยู่กับแอสตัน วิลลาได้ไม่นานก่อนจะย้ายกลับไปเล่นกับไฮเบอร์เนียน ที่สกอตแลนด์ สโมสรแรกของตัวเอง 

ตัดภาพกลับมาปัจจุบัน แจ็ค กรีลิช เติบโตขึ้นมาเป็นแฟนบอลแอสตัน วิลลา ฝันเป็นจริงเมื่อเขาได้ลงสนามในสีเสื้อสิงห์ผยอง และเป็นกัปตันพาทีมเลื่อนชั้นมาเล่นพรีเมียร์ลีก ยิ่งกว่าตื่นเต้นเมื่อพาทีมหนีตกชั้นสำเร็จ มิดฟิลด์อังกฤษยอมทำทุกอย่างเพื่อสโมสรที่เขารัก แต่วิถีทางของฟุตบอลทำให้ต้องโบกมือลาทีมเก่า ซึ่งเราก็ได้แต่หวังว่าค่าตัว 100 ล้านปอนด์บนบ่าของ แจ็ค กรีลิช จะไม่หนักเกินไปนักในสีเสื้อของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 

อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊คทวิตเตอร์ และอินสตาแกร

แหล่งอ้างอิง :

หนังสือพิมพ์ The Times 

สำนักข่าว BBC

สำนักข่าว Sky Sport 

Wikipedia.org 

Total
0
Shares