ถ้าแปลแบบตรงตัว “เรอเนซองซ์” (Renaissance) คือ การเกิดใหม่ หรือการคืนชีพ ถ้าดูจากหน้าประวัติศาสตร์ เรอเนซองซ์ คือ สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา โลกเปลี่ยนผ่านจากสมัยกลางสู่สมัยใหม่ ฟื้นฟูและก้าวข้ามแนวคิดหรือความสำเร็จแบบเก่า เร็วๆ นี้มีนักข่าวฟุตบอลคิดคำว่า “Trenaissance” โดยนำคำว่า Trent ชื่อที่แฟนบอลเรียก “เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์” แบ็กขวาของลิเวอร์พูล มาร่วมกับ Renaissance และบอกว่ากองหลังอังกฤษกำลังเปลี่ยนแปลงโลกฟุตบอลไปตลอดกาล
ใครได้ดูเกมที่ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์กลับมาเอาชนะนอริช ซิตี้ ไป 3-1 ประตู คงรู้สึกเหมือนกันว่า เกมรุกของหงส์แดงดูจะลดประสิทธิภาพลงเล็กน้อย จากการขาดแบ็กซ้ายขวาตัวหลักอย่าง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โดยเฉพาะในรายหลังที่ เจอร์เกน คล็อปป์ ส่ง โจ โกเมซ ลงทำหน้าที่แทน เกมรุกทางขวาของหงส์แดงดูจะด้อยประสิทธิภาพลงอย่างชัดเจน เป็นหนึ่งในบทพิสูจน์ถึงอิทธิพลที่แบ็กขวาจอมบุกมีต่อเกมรุกของลิเวอร์พูล
หนึ่งในข้อถกเถียงตลอดหลายปีหลังในวงการฟุตบอลอังกฤษคือ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เหมาะกับการลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางมากกว่าแบ็กขวาหรือเปล่า ซึ่ง เจอร์เกน คล็อปป์ นายใหญ่ของลิเวอร์พูลก็ออกมาบอกว่า “ทำไมเราจะโยกแบ็กขวาที่ดีที่สุดในโลกไปเล่นกองกลางล่ะ? ผมไม่เข้าใจจริงๆ ราวกับว่าตำแหน่งแบ็กขวาไม่สำคัญเท่ากับตำแหน่งอื่นๆ ในสนามอย่างงั้นแหละ”
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า “น้องเทรนต์” ของเหล่าเดอะค็อปนั้นมีเท้าขวาชั่งทอง เปิดบอลแม่น เล่นเกมรุกดี และยิงฟรีคิกได้อีกต่างหาก ถ้านับเฉพาะในพรีเมียร์ลีกที่เจ้าตัวลงสนามครั้งแรกในฤดูกาล 2016/17 มาจนถึงตอนนี้ เขาทำไปแล้วทั้งหมด 43 แอสซิสต์ ผ่านบอลทั้งหมด 9,122 ครั้ง เฉลี่ยราวๆ 60 ครั้งต่อเกม และยิงไป 10 ประตู ซึ่งเกิดจากเท้าขวาทั้งหมด เฉพาะฤดูกาลนี้ในลีก เทรนต์ทำไปแล้ว 10 แอสซิสต์ มากที่สุดของพรีเมียร์ลีก และยังครอสบอลมากที่สุดของลีกที่ 183 ครั้ง เฉลี่ย 7.32 ครั้งต่อเกม
เมื่อการย้ายตำแหน่งไปเล่นกองกลางเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือสมการ อีกทั้งหงส์แดงก็มีตัวเลือกในแผงมิดฟิลด์มากมาย เทรนต์ทำให้ตำแหน่งแบ็กขวาของเขามีอิทธิพลมากขึ้นในเกมของลิเวอร์พูล ในฤดูกาล 2017/18 ซีซั่นที่เจ้าตัวก้าวขึ้นมาติด 11 คนแรกอย่างสม่ำเสมอ ฟูลแบ็กอย่างเขามีส่วนกับเกมรุกบ้าง อาจจะมีเปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษเล็กน้อย แต่นั่นเทียบไม่ได้กับตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง
จากสถิติของ Statsbomb พบว่าในฤดูกาล 2017/18 นั้น 20 อันดับแรกของการผ่านบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ หรือในระยะ 10 หลาจากปากประตู ส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองกลาง โดยมีฟูลแบ็กแค่ 2 คนเท่านั้นที่ติดโผเข้ามาคือ เซซาร์ อัซปิลิกวยตา และ ไคล์ วอล์คเกอร์ เช่นกันกับการจ่ายบอลให้เพื่อนทำประตู ที่ Top 20 มีกองกลางอย่าง เควิน เดอ บรอยน์, คริสเตียน อิริคเซน และ เมซุส โอซิล ครองทำแหน่งจอมแอสซิสต์ มีแค่ ไคล์ วอล์คเกอร์ เท่านั้น ที่ติดเข้ามาในอันดับที่ 15
หลังจากนั้นทุกอย่างก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป โดยมี เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ขับเคลื่อนให้เกิดขึ้น ลองมาดูสถิติเฉพาะในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018/19 แบ็กขวาวัยรุ่นของหงส์แดงทำแอสซิสต์มากเป็นอันดับที่ 3 ที่ 12 ครั้ง ส่วนคู่หูแบ็กซ้ายอย่าง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ก็ตามมาติดๆ ที่ 11 แอสซิสต์ นอกจากนั้นใน Top10 เป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าและกองกลางทั้งหมด พอฤดูกาล 2019/20 เทรนต์ก็ขยับขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 ทำไป 13 แอสซิสต์ เป็นรอง เควิน เดอ บรอยน์ ฤดูกาล 2020/21 อาการบาดเจ็บและโควิดเล่นงาน แต่เทรนต์ก็ยังทำได้ 7 แอสซิสต์
ฤดูกาลนี้ อย่างที่เราบอกไปแล้ว เทรนต์กำลังนำในฐานะคนทำแอสซิสต์มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก โดยมีผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังติดมาด้วยหลายคน ทั้ง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เจา คันเซโล ของเรือใบสีฟ้า และ รีซ เจมส์ กับ มาร์กอส อลอนโซ ของเชลซี
แกรี เนวิลล์ ตำนานแบ็กขวาของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยพูดถึงหน้าที่ในตำแหน่งที่เขาถนัดว่า “เหมือนเป็นคนรับใช้ คอยช่วยสนับสนุนจากข้างหลัง ผ่านบอล และช่วยเหลือ หลังจากนั้นถึงเริ่มต้นวิ่งอ้อม” ซึ่งเมื่อเอามาเทียบกับแบ็กขวาของลิเวอร์พูล เทรนต์บอกว่า “ถ้าคุณดูที่การสร้างโอกาสทำประตูของผม ส่วนมากมาจากตำแหน่งของปีก ส่วนใหญ่มาจากการโยนบอลจากกรอบเขตโทษ มันเป็นจุดที่ดีในการสร้างสรรค์โอกาส เพราะคุณใกล้ประตูมากกว่า กองหลังมีเวลาน้อยกว่าที่จะตั้งตัว และคุณสามารถตรึงคู่ต่อสู้ได้มากกว่า”
ถึงตรงนี้กองหลังที่มีสถิติแอสซิสต์มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกคือ แอชลีย์ ยัง ที่ 71 ครั้ง จากการลงสนามทั้งสิ้น 383 นัด เฉลี่ยทำ 1 แอสซิสต์ ทุกๆ 5.39 นัด โดยเทรนต์ตามมาที่อันดับ 6 ที่ 43 แอสซิสต์ ในการลงสนาม 151 เกม เฉลี่ยทำ 1 แอสซิสต์ ทุกๆ 3.51 นัด เรียกว่า ถ้าน้องเทรนต์ยังรักษาฟอร์มแบบนี้ เขาจะก้าวขึ้นมาเป็นกองหลังที่ทำแอสซิสต์ได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีกในอีก 3-4 ฤดูกาลข้างหน้า ที่น่าตกใจคือถึงตรงนั้นเจ้าตัวน่าจะมีอายุ ราวๆ 26-27 ปีเท่านั้น ซึ่งว่ากันว่าเป็นช่วงพีกสุดของนักฟุตบอล
ตามรายงานของ Transfermarkt เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เป็นผู้เล่นในตำแหน่งฟูลแบ็กที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกในตอนนี้ที่ 80 ล้านยูโร มากเป็นอันดับที่ 2 ของลิเวอร์พูล รองจาก โม ซาลาห์ โดยอยู่อันดับที่ 10 ในพรีเมียร์ลีก และมีมูลค่ามากที่สุดอันดับที่ 15 ของโลก
รอย คีน ตำนานกองกลางของปีศาจแดง พูดถึงเทรนต์ว่า “โอกาสที่เขาสร้าง แอสซิสต์ที่ทำได้ มันเหลือเชื่อมาก พวกเราตื่นเต้นเกี่ยวกับผู้เล่นตัวรุก แต่การตื่นเต้นเกี่ยวกับฟูลแบ็ก นี่คือสิ่งที่เกมฟุตบอลเปลี่ยนไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้คนพูดว่าเขาเล่นเกมรับไม่ได้ แล้วทำไมจะต้องเล่นเกมรับ เมื่อเล่นเกมรุกได้แบบนั้นล่ะ?” ด้วยวัย 23 ปี สิ่งที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์ ทำในตำแหน่งแบ็กขวาได้ให้นิยามใหม่ของการเล่นฟูลแบ็ก เขานำสิ่งที่ถนัดมารวมกับตำแหน่งที่ลงเล่น จนกลายเป็นเรื่องใหม่ในโลกฟุตบอล
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม