Link Copied!

Der Klassiker ล็อกผลบอล ???

จู๊ด เบลลิงแฮม ให้สัมภาษณ์หลังเกม Der Klassiker ที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เปิดบ้านแพ้ให้กับบาเยิร์น มิวนิก 2-3 ประตู ว่า “คุณให้กรรมการที่มีประวัติล็อกผลการขันแข่งมาก่อน ตัดสินเกมใหญ่ที่สุดในเยอรมนี คุณคาดหวังอะไรล่ะ?”

ชัยชนะของเสือใต้ทำให้พวกเขายืนเบอร์หนึ่งของตารางคะแนนบุนเดสลีกา และทำคะแนนทิ้งห่างเสือเหลือง 4 แต้ม หลังแข่งไป 14 เกม บทสัมภาษณ์ของตัวรุกทีมชาติอังกฤษสร้างคำถามมากมาย เจ้าตัวอาจจะถูกแบน และอาชีพของ เฟลิกซ์ ซเวเยอร์ หนึ่งในผู้ตัดสินที่โดดเด่นคนหนึ่งของยุโรปอาจต้องดับลง

เกมเดอะคลาสสิกของเมืองเบียร์เคยมีส่วนในการเปลี่ยนระบบการตัดสินเกมในเยอรมนีมาแล้ว ย้อนกลับไปในปี 2014 ในรอบชิงชนะเลิศเดเอฟเบ-โพคาล ระหว่างบาเยิร์น มิวนิก พบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ความผิดพลาดจากจังหวะที่ แมตส์ ฮุมเมลส์ ของเสือเหลือง โหม่งบอลข้ามเส้นประตูคู่แข่งไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ได้ประตู กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เยอรมนีหันมาใช้โกลไลน์ เทคโนโลยี

จังหวะปัญหาที่ทำให้ผู้เล่นเสือเหลืองระเบิดอารมณ์ในเกมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา คือจังหวะที่ ลูคัส เอร์นานเดซ ของเสือใต้ สกัดใส่ มาร์โก รอยส์ ในกรอบเขตโทษช่วงต้นครึ่งหลัง ซึ่งผู้ตัดสินปล่อยผ่านแบบไม่ใส่ใจอะไรเท่าไร “คำถามคือว่ามันมีการปะทะที่ผมไม่เห็นหรือเปล่า ผมถูกบอกจาก VAR ว่าไม่มี มันจึงไม่เป็นลูกจุดโทษ และไม่มีการเดินไปดูที่หน้าจอ” ซเวเยอร์เอ่ย

แต่ขณะเดียวกันในจังหวะที่ แมตส์ ฮุมเมลส์ ทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ โดยใช้ VAR เข้าช่วย สุดท้ายบาเยิร์น มิวนิก ได้จุดโทษในนาทีที่ 77 และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ยิงไม่พลาด กลายเป็นประตูชัยของเสือใต้ “สำหรับผม มันไม่ใช่จุดโทษ ฮุมเมลส์ไม่ได้มองลูกบอลด้วยซ้ำ ลูกบอลมาโดนแขนเขา” เบลลิงแฮมเอ่ย ทั้งสองจังหวะพอเข้าใจได้ว่าทำไมผู้เล่นเสือเหลืองถึงรู้สึกว่าไม่ได้รับความยุติธรรม  

ย้อนกลับไปในปี 2005 ซเวเยอร์เคยถูกแบน 6 เดือนเพราะรับสินบน ต้นเหตุของการแบนในครั้งนั้นเกิดขึ้นในปี 2004 ซึ่งตอนนั้น เฟลิกซ์ ซเวเยอร์ เป็นผู้ช่วยผู้ตัดสิน ทำหน้าที่เคียงข้างผู้ตัดสินชื่อดังของเมืองเบียร์อย่าง โรเบิร์ต ฮอยเซอร์ ซึ่งต่อมาถูกตัดสินจำคุกเพราะล็อกผลการแข่งขันในลีกล่างและผลบอลถ้วย

จากการสืบสวนในทางลับของสมาคมฟุตบอลเยอรมนีพบว่า ซเวเยอร์รับเงิน 300 ยูโรจากฮอยเซอร์ เพื่อให้ Wuppertaler SV ชนะ แวร์เดอร์ เบรเมน โดยทางเอฟเอของเยอรมนีไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเขามีส่วนในการล็อกผลการแข่งขันแน่ๆ แต่ก็ถูกแบน 6 เดือนในการที่มีส่วนร่วมรับสินบน ซเวเยอร์กลายมาเป็นพยานในการสืบสวนทำให้เขาไม่ถูกดำเนินคดีอาญา หลังจากถูกแบนก็ได้รับอนุญาตให้กลับมาตัดสินเกมต่อ 10 ปี และยังได้รับการโหวตให้เป็นผู้ตัดสินแห่งปีของเยอรมนี ถึงตอนนี้ซเวเยอร์ตัดสินเกมในบุนเดสลีกามาแล้ว 191 เกม และ 22 เกมในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ไม่เท่านั้นเรื่องราวการเกี่ยวพันระหว่างซเวเยอร์และ โรเบิร์ต ฮอยเซอร์ ยังถูกสมาคมฟุตบอลเยอรมนีปกปิดเป็นความลับนานเกือบทศวรรษ จนมีบทความในหนังสือพิมพ์ Der Zeit ปี 2014 ที่ออกมาพูดเรื่องความเกี่ยวพันของซเวเยอร์ในกรณีของ โรเบิร์ต ฮอยเซอร์ หนึ่งในคนที่รายงานเรื่องของ โรเบิร์ต ฮอยเซอร์ ออกมาตำหนิการทำงานของสมาคมฟุตบอลเยอรมนีที่เหมือนปิดตาข้างหนึ่งในกรณีของซเวเยอร์ โดยมองว่าซเวเยอร์รับเงินจากฮอยเซอร์และเก็บเรื่องนี้เป็นความลับนานถึง 6 เดือน ไม่ควรได้รับอนุญาตให้ตัดสินเกมฟุตบอลระดับสูง

ผลพวงของการออกมาให้สัมภาษณ์ของ จู๊ด เบลลิงแฮม ทำให้เจ้าตัวอาจจะถูกแบนจากสมาคมฟุตบอลเยอรมนี และอาจจะถูกดำเนินคดีเรื่องหมิ่นประมาท แต่ขณะเดียวกันตัวรุกสิงโตคำรามก็แค่พูดความจริงถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยทางดอร์ทมุนด์ออกมาหนุนหลังเบลลิงแฮมอย่างเต็มตัว “จู๊ดไม่ได้พูดเรื่องโกหก แต่บอกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต จริงอยู่ที่เขาไม่ควรพูด แต่ผมไม่เห็นว่ามันไม่ใช่ความจริง ผมไม่คิดว่าจะมีผลกระทบต่อเนื่องกับจู๊ด” ฮันส์-โยอาคิม วัตซ์เก ผู้บริหารของเสือเหลืองเอ่ย

ถ้าหากสมาคมฟุตบอลเยอรมนีแบนเบลลิงแฮมขึ้นมาจริงๆ ก็บ่งบอกว่าพวกเขาแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนที่จะสนับสนุนซเวเยอร์ต่อไป ตอนนี้ซเวเยอร์ได้ชื่อว่าผู้ตัดสินชื่อดังของบุนเดสลีกา น่าเชื่อถือและยุติธรรม เป็นตัวอย่างของคนที่เรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีตและแก้ไขตัวเอง แต่เงาจากความผิดพลาดในอดีตยังคงตามมาหลอกหลอน เมื่อผู้เล่นไม่เชื่อเจ้าของเสียงนกหวีดเสียแล้ว การตัดสินอะไรก็ดูจะยากไปซะหมด

ความพ่ายแพ้ 7 นัดต่อเนื่องกันใน Der Klassiker ของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โดยเฉพาะในเกมล่าสุดที่อาจจะเป็นบันไดให้บาเยิร์น มิวนิก คว้าแชมป์บุนเดสลีกาในฤดูกาลนี้ไปครอง ประกอบกับความไม่เชื่อใจในตัวผู้ตัดสินอยู่แล้วทำให้ จู๊ด เบลลิงแฮม ออกมาให้สัมภาษณ์แบบนั้น และขุดอดีตที่ทั้งซเวเยอร์กับสมาคมฟุตบอลเยอรมนีอยากจะลืมขึ้นมาอยู่ในสปอร์ตไลต์อีกรอบ

สุดท้ายการใช้ VAR ก็ถูกตั้งคำถาม ผู้ตัดสินที่ใช้ VAR มากไปก็ถูกบ่น ใช้ VAR น้อยไปก็ถูกว่า เรื่องราวทั้งหมดคงไม่เกิดขึ้นถ้าซเวเยอร์เดินไปดูหน้าจอในจังหวะที่ มาร์โก รอยส์ ล้มในเขตโทษ บางทีอดีตของตัวเขาเองก็คงไม่ถูกพูดถึง และก็ไม่มีเรื่องราวตามมาแบบนี้

ข้อมูลประกอบบทความ

BBC

The Times

The Athletic 

อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊คทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม

Total
0
Shares