“ฟ้าขาว-ตราไก่” สู้กันมันหยด 120 นาที เสมอ 3-3 “เมสซี” ยิงสอง “เอ็มบัปเป” แฮตทริก ก่อน อาร์เจนตินา ชนะดวลจุดโทษ 4-2 ผงาดแชมป์โลกสมัยที่ 3
ฟุตบอลโลก 2022 รอบชิงชนะเลิศ
วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2565
สนาม : ลูเซล ไอคอนิก สเตเดียม, กาตาร์
อาร์เจนตินา 2-2 ฝรั่งเศส
(ต่อเวลาพิเศษ เสมอ 3-3, อาร์เจนตินา ชนะจุดโทษ 4/2)
ผู้ทำประตู : 1-0 ลิโอเนล เมสซี (จุดโทษ) น.23, 2-0 อังเคล ดิ มาเรีย น.36, 2-1 คีลิยัน เอ็มบัปเป (จุดโทษ) น.80, 2-2 คีลิยัน เอ็มบัปเป น.82, 3-2 3-2 ลิโอเนล เมสซี น.109, 3-3 คีลิยัน เอ็มบัปเป (จุดโทษ) น.118
เปิดฉากครึ่งแรก อาร์เจนตินา ครองบอลบุกมากกว่า จนมาถึงนาทีที่ 21 ทัพ “ฟ้าขาว” ได้จุดโทษ จากจังหวะที่ อังเคล ดิ มาเรีย โดน อุสมาน เดมเบเล สกัดล้มลงในเขตโทษ
ลูกจุดโทษ ลิโอเนล เมสซี รับหน้าที่สังหารไม่พลาดให้ อาร์เจนตินา ออกนำ 1-0 ในนาทีที่ 23 และเป็นประตูที่ 6 ในทัวร์นาเมนท์ของ เมสซี ส่งขึ้นนำเดี่ยวดาวซัลโว
จากนั้นนาทีที่ 36 เกมสวนกลับที่เฉียบขาดของ อาร์เจนตินา ก่อนจบที่ อังเคล ดิ มาเรีย ยิงผ่านตัว อูโก ยอริส ให้ทัพ “ฟ้าขาว” นำห่างเป็น 2-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง ฝรั่งเศส พยายามบุกหวังทวงประตูคืน จนนาทีที่ 79 “ตราไก่” มาได้จุดโทษ และเป็น คีลิยัน เอ็มบัปเป รับหน้าที่สังหารไม่พลาดไล่มา 1-2 ในนาทีที่ 80 เป็นประตูที่ 6 ของ เอ็มบัปเป ขึ้นมานำดาวซัลโวร่วมกับ เมสซี
ถัดมาแค่ 2 นาที คีลิยัน เอ็มบัปเป แผลงฤทธิ์ซัดสุดสวยให้ ฝรั่งเศส ตีเสมอ 2-2 และเป็นประตูที่ 7 ของ เอ็มบัปเป แซงขึ้นนำเดี่ยวดาวซัลโว
ช่วงเวลาที่เหลือ ไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม 90+8 นาที อาร์เจนตินา เสมอ ฝรั่งเศส 2-2 ต้องลุ้นกันต่ออีก 30 นาที
ช่วงต่อเวลาครึ่งหลังนาทีที่ 109 อาร์เจนตินา มาได้ประตูจาก ลิโอเนล เมสซี ยิงซ้ำจ่อ ๆ เป็นลูกที่ 7 ขึ้นนำดาวซัลโวร่วมกับ เอ็มบัปเป อีกครั้ง
แต่นาทีที่ 118 แชมป์เก่ามาได้จุดโทษ และเป็น คีลิยัน เอ็มบัปเป ยิงไม่พลาด เป็นแฮตทริกให้ ฝรั่งเศส ตีเสมอสุดมัน 3-3 และทำให้ยิงรวม 8 ประตู ครองตำแหน่งดาวซัลโว ก่อนจบช่วงต่อเวลาพิเศษด้วยสกอร์นี้ ต้องดวลจุดโทษตัดสิน
ผลการดวลจุดโทษ เอ็มบัปเป และ เมสซี ยิงคนแรกเข้าทั้งคู่ ก่อนที่ อาร์เจนตินา ชนะสุดระทึก 4-2 ผงาดคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 ต่อจากปี 1978 และ 1986 ปิดฉากเวิลด์คัพครั้งที่ 5 ของ เมสซี อย่างสมบูรณ์แบบ
รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริงที่ลงสนาม
อาร์เจนตินา : เอมิเลียโน มาร์ติเนซ (GK), นาฮูเอล โมลินา, คริสเตียน โรเมโร, นิโกลัส โอตาเมนดี, นิโกลัส ตายาฟิโก, เอ็นโซ เฟอร์นานเดซ, โรดริโก เดอ ปอล, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, อังเคล ดิ มาเรีย, ฮูเลียน อัลวาเรซ, ลิโอเนล เมสซี
ฝรั่งเศส : อูโก ยอริส (GK), ฌูลส์ กุนเด, ราฟาแอล วาราน, ดาโยต์ อูปาเมกาโน, เตโอ แอร์กน็องเดซ, อาเดรียง ราบิโอต์, ออเลเรียง ชูอาเมนี, อองตวน กรีซมันน์, อุสมาน เดมเบเล, คีลิยัน เอ็มบัปเป, โอลิวิเยร์ ชิรูด์
