“อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ยังได้ต่อลมหายใจลุ้นเข้ารอบ หลังได้ตัวสำรอง “นิคลาส ฟุลล์ครุก” ยิงช่วยชีวิตไล่เจ๊า “กระทิงดุ” สเปน 1-1
ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่มอี นัดสอง
คืนวันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน 2565
สนาม : อัล บัยต์ สเตเดียม, กาตาร์
สเปน 1-1 เยอรมนี
ผู้ทำประตู : 1-0 อัลบาโร โมราตา น.62, 1-1 นิคลาส ฟุลล์ครุก น.83
เกมแรก สเปน ถล่ม คอสตาริกา 7-0 ส่วน เยอรมนี พลิกล็อคแพ้ ญี่ปุ่น 1-2
ครึ่งแรก สเปน ครองบอลบุกได้มากกว่า แต่กลายเป็น เยอรมนี ที่ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายในนาทีที่ 40 จากลูกฟรีคิก โยซัว คิมมิช เปิดให้ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ โหม่งเข้าไป แต่ถูก VAR เช็คล้ำหน้า ทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลัง สเปน มาได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 62 จากจังหวะที่ จอร์ดี อัลบา จ่ายเข้าเขตโทษให้ อัลบาโร โมราตา ตัวสำรองโฉบมาซัดไม่เหลือ ส่งให้ “กระทิงดุ” ออกนำ 1-0
แต่แล้วช่วงท้ายเกมนาทีที่ 83 เยอรมนี ก็มาได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ เลรอย ซาเน ไหลบอลให้ จามาล มูเซียลา คล้องบอลไปเข้าทาง นิคลาส ฟุลล์ครุก ตัวสำรอง ซัดด้วยขวาเต็มข้ออ ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1
หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมด้วยผลเสมอ 1-1 ทำให้ สเปน มีเพิ่มเป็น 4 แต้ม นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มอี ส่วน เยอรมนี เก็บแต้มแรกได้ในเวิลด์คัพ 2022 อยู่อันดับ 4 สุดท้ายของกลุ่ม แต่ยังมีลุ้นเข้ารอบนัดสุดท้าย
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
สเปน : อูไน ซิมอน, ดานี การ์บาฆาล, โรดรี, อายเมอริก ลาปอร์กต์, จอร์ดี อัลบา, เปดรี, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, กาบี, เฟร์ราน ตอร์เรส, มาร์โก อเซนซิโอ, ดานี โอลโม
เยอรมนี : มานูเอล นอยเออร์, ธิโล เคห์เรอร์, นิคลาส ซูเล, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, ดาวิด เราม์, อิลคาย กุนโดกัน, โยซัว คิมมิช, เลออน โกเร็ตซ์กา, แซร์ช กนาบรี, โธมัส มุลเลอร์, จามาล มูเซียลา