ผลพวงของการตกรอบแรกฟุตบอลยูโรเปียน คัพ วินเนอร์ส คัพ และ ไปได้แค่รอบสองของฟุตบอลยูโรเปียน คัพ
จึงทำให้ บ๊อบบี ร็อบสัน ถูกปลดจากตำแหน่งโค้ชใหญ่ของ พีเอสวี ไอน์โฮเฟน แม้ว่าจะพาทีมเป็นแชมป์เอเรดิวิซีได้ 2 สมัยติดต่อกันในฤดูกาล 1990/91 - 1991/92 ก็ตาม แต่ยังไม่พอสำหรับความคิดของผู้บริหารอดีตแชมป์บิ๊กเอียร์เมื่อปี 1988
จนทำให้ สปอร์ติง ลิสบอน ติดต่อเข้ามาเพื่อขอให้ยอดกุนซือชาวอังกฤษไปคุมทีม โดยมีการรับปากว่า เรื่องภาษาจะไม่ใช่ปัญหาของการสื่อสาร เพราะที่ลิสบอนมี ซูเปอร์ล่าม คอยอำนวยความสะดวกให้
ซึ่งในวันที่ บ๊อบบี ร็อบสัน เดินทางไปถึงสนามบินลิสบอน จึงปรากฏร่างของล่ามวัย 29 ปี คนดังกล่าวอยู่ในคณะต้อนรับของประธานสโมสรด้วย
โชเซ มูรินโญ แนะนำตัวในวันต่อๆ มากับเจ้านายคนใหม่ของเขาว่า ตนเองเคยเป็นคุณครูสอนวิชาพละศึกษามาก่อน แต่ก็มีบิดาที่เป็นนักฟุตบอลอาชีพ และ สอบผ่านโค้ชระดับ ยูฟา-ซี ไลเซนส์ เรียบร้อยแล้ว แถมยังมีความเข้าใจ รวมทั้งหัวไวในเรื่องของฟุตบอลเป็นอย่างดี
การโค้ช สั่ง สอน แก้เกม หรือ จะแทคติกระดับสูงแค่ไหน รับรองว่าเขาสามารถแปลจากภาษาอังกฤษไปเป็นภาษาฟุตบอลได้อย่างครบถ้วนกระบวนความตามนั้น 100%
แถม บ๊อบบี ร็อบสัน ยังออกมากล่าวชมเชยด้วยความเซอร์ไพรส์ต่อล่ามรายนี้ในภายหลังว่า
“โชเซ ไม่ใช่เป็นแค่ล่ามที่แค่แปลภาษา แต่เขาเป็นคนที่ฉลาด ใฝ่เรียนรู้ และ เข้าใจศาสตร์ของฟุตบอลอย่างลึกซึ้ง”
อันเป็นการการันตีได้ว่า โชเซ มูรินโญ คือของจริง
ในขณะที่ มูรินโญ เองก็ไม่ขัดเขินแม้แต่น้อยที่จะพูดกับเจ้านายของเขาตรงๆ ว่า อยากฝากตัวเป็นลูกศิษย์ เพื่อซึมซับความรู้ของจริงจากยอดโค้ชระดับโลกคนแรกที่เขาเคยเจอ
ซึ่ง บ๊อบบี ร็อบสัน ไม่เกี่ยงงอนที่จะถ่ายทอดวิชาความรู้ที่มีไปให้ลูกศิษย์คนนี้ ภายใต้ข้อสัญญาลูกผู้ชายว่า ลูกศิษย์จะไม่คิดล้างครู และ ต้องซื่อสัตย์ต่อกัน
::
ด้วยความเป็นคนหัวไว ฉลาด และ ทำตามคำสั่งได้อย่างดีเยี่ยม งานอีกอย่างหนึ่งที่เจ้านายไหว้วานให้ลูกน้องคู่ใจไปทำเป็นการฝึกงาน นั่นก็คือการไปสอดส่องแผนการเล่น จุดอ่อน จุดแข็งของคู่แข่ง อันเป็นการนำความรู้ตามตำราที่สอนไปลองปฏิบัติดู
บ๊อบบี ร็อบสัน จึงได้พบว่า โชเซ มูรินโญ เก่งกว่าทีมงานด้านนี้ทุกคนที่เขาเคยใช้งานมา เพราะสามารถอธิบายจนเจาะลึกถึงคู่แข่งให้เขาฟังได้อย่างสมบูรณ์
แล้วเขายังสอน มูรินโญ ในเรื่องการทำความเข้าใจคน อ่านใจคน และ ซื้อใจคน ด้วยการให้ มูรินโญ ที่ไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากนักเตะ จากเหตุผลที่ว่าไม่เคยเป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จมาก่อน ไม่มีประสบการณ์ด้านโค้ชมาก่อน และ มีตำแหน่งแค่ล่าม ด้วยการให้ไปโค้ชในสนามซ้อมเองเลย
ซึ่งพอนานวันเข้า นักเตะของสปอร์ติง จึงได้รู้ว่าสิ่งที่ มูรินโญ แปลมาให้ฟัง และ นำเอาสิ่งที่นักเตะต้องการไปแปลกลับให้โค้ชฟัง คือ ความเข้าใจจนถึงใจกลาง ชนิดที่ผู้ช่วยโค้ชทั่วๆ ไปยังไม่เก่งขนาดนี้
มูรินโญ จึงได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้นทั้งในฐานะผู้ช่วย และ ในฐานะว่าที่โค้ชคนใหม่ในสายตานักเตะ
จุดเปลี่ยนที่ทำให้ทั้งคู่แน่นแฟ้นกันมากยิ่งขึ้น ก็คือการที่ มูรินโญ นำเอาความลับที่ประธานสโมสรแอบไปอัดฉีดนักเตะมาบอกเจ้านายของเขา
เพราะ มูรินโญ คิดว่าถ้านักเตะมีแรงจูงใจอื่นเข้ามาแทรก พวกเขาอาจจะหลงลืมแผนการเล่นที่ซ้อมกันมา จนทำให้แผนของโค้ชพังลง และ พ่ายแพ้ได้
ในสายตาของ ร็อบสัน มูรินโญ จึงไม่ใช่แค่ลูกน้อง หรือ ลูกศิษย์อีกต่อไป แต่นี่คือคู่หูที่เขาจะขาดไม่ได้อีกแล้วหากยังทำงานในต่างแดนต่อไป
จนถึงวันที่ประธานสโมสรของสปอร์ติงไล่ บ๊อบบี ร็อบสัน ออกจากตำแหน่ง ก็ได้ มูรินโญ ที่การันตีว่า เอฟซี ปอร์โต คือทีมที่เหมาะสมกับการทำงานเป็นสโมสรต่อไป ในฐานะทีมที่ใช่ และ ทะเยอทะยานมากกว่าที่ลิสบอน
แล้วก็ที่ ปอร์โต นี่เอง ที่ บ๊อบบี ร็อบสัน เลือกที่จะปลด มูรินโญ ออกจากตำแหน่งล่าม เพราะความสามารถของเขามันดีเกินไปที่จะมานั่งทำอะไรเล็กๆ แบบนั้นอีกแล้ว
สองปี สองแชมป์ลีก จนทำให้ฟอร์มของทั้งคู่ไปเข้าตาบาร์เซโลนา จนมีการเซ็นสัญญากันในปี 1996
ซึ่งแน่นอนว่า มี บ๊อบบี ก็ต้องมี โชเซ
แม้ว่า บาร์เซโลนา จะมีผู้ช่วยโค้ชอันเป็นอดีตผู้เล่นของทีมอยู่แล้ว แถมชื่อชั้นดี พูดภาษาอังกฤษได้ แต่ มูรินโญ ก็ยังได้มาทำงานร่วมกับเจ้านายคู่บุญอีกครั้งในตำแหน่งล่าม
ซึ่ง มูรินโญ ก็ยังคงความเป็นคนเดิมต่อไป ที่ศึกษาต่อกับเจ้านายคนเดิมแบบไม่รู้จบ แถมยังได้ศึกษาภาษาคาตาลัน และ ซึมซับวัฒนธรรมของสโมสรอันดับสองของสเปนในเวลานั้นไปด้วย
เขาจึงทำงานล่ามวีไอพีของตนเองต่อไปแบบดีวันดีคืน ชนิดที่ผู้ช่วยโค้ชที่ บาร์เซโลนา จัดเตรียมเอาไว้ยังต้องยอมรับแบบไม่มีอะไรค้่างคาใจ
แถม มูรินโญ ยังได้โชว์ฝีปากอันคมกริบออกสื่อเป็นครั้งแรกในงานแถลงข่าว เมื่อมีนักข่าวแซวแบบขาดความเคารพใส่ บ๊อบบี ร็อบสัน ว่า เขา กับ โชเซ มูรินโญ่ ว่าเป็นคู่ขากัน
จนทำให้ มูรินโญ สวนกลับไปทันทีทันใดโดยไม่ต้องแปลให้เจ้านายฟังว่า
“ลองให้น้องสาวของคุณไปร่วมทริปกับพวกเราสักหนึ่งคืนสิ แล้วคุณจะได้รู้กันเลยว่าอะไรเป็นอะไรจากปากของน้องสาวคุณเอง”
แล้วจากวินาทีนั้น โชเซ มูรินโญ ก็ได้กลายเป็นลูกรักของอดีตกุนซือมากบารมีแบบไม่มีช่องว่าง จนยอดคนโปรตุกีสถึงกับหลั่งน้ำตาในวันที่อาจารย์ที่รักของเขาจากไป
เมื่อเราลองนึกถึงว่าจะมีใครในวงการฟุตบอลที่ โชเซ มูรินโญ รัก และ เคารพ ชื่อแรก และ ชื่อเดียวก็คือ เซอร์ บ๊อบบี ร็อบสัน คนนี้คนเดียว
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม