คำคมสังคมอุดมคติ
แม้ว่า อิเคร์ กาซิยาส จะออกมาสยบข่าวที่ฮือฮาในโลกออนไลน์ว่า “บัญชีทวิตเตอร์ของผมถูกแฮ็ค ขออภัยผู้ติดตามทุกคน และ ขอโทษอย่างสุดซึ้งไปยังสังคม LGBT”
ส่วนอดีตเพื่อนร่วมทีมชาติอย่าง คาร์เลส ปูโยล ได้ถูกสังคมบางส่วนรุมกระหน่ำว่าขาดความเคารพชาว LGBT เพราะว่าไปคอมเมนท์ที่โพสต์เปิดตัวว่าเป็นเกย์ของ กาซิยาส เอาไว้ว่า “ได้เวลาเปิดเผยความสัมพันธ์ของเราแล้วสินะ 
“
สำหรับกัปตันทีมบาร์เซโลนา เขามองว่า กัปตันทีมเรอัล มาดริด คือเพื่อน เป็นทั้งเพื่อนร่วมทีมชาติ และ เพื่อนมนุษย์
รวมทั้งในระหว่างติดทีมชาติในยุคที่สงครามเอลกลาซิโกระหว่าง บาร์เซโลนา กับ เรอัล มาดริด เดือดมากที่สุดเท่าที่เคยเดือดมาในประวัติศาสตร์ เขากับ กาซิยาส คือผู้นำทีมที่ต้องการลดความรุนแรงลงจนเป็นการปรึกษาหารือร่วมกัน
อันทำให้กัปตันทีมราชันชุดขาวถูกปลดจากมือหนึ่งของทีมโดย โชเซ มูรินโญ ที่เพาะความเกลียดชังระหว่างสองทีมให้กลายไปเป็นสงครามในช่วงที่เขาคุมทีม
แต่ กาซิยาส ไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว เพราะมองว่าผู้เล่นทั้งสองทีมคือเพื่อนร่วมทีมชาติ และ ไม่จำเป็นเลยที่การแข่งขันฟุตบอลจะต้องกลายไปเป็นความเกลียดระหว่างกัน
ในเมื่อ กาซิยาส กระด้างกระเดื่อง มูรินโญ จึงเชือดเขาทันทีแบบไม่ไว้หน้าใคร
::
แม้ว่า กาซิยาส จะไม่ได้เป็นมิสเตอร์มาดริดเข้มเข้นแบบ ราอูล กอนซาเลซ แต่เขาก็คือสาวกของทีมมาตั้งแต่เกิด รวมทั้งยังเป็นผู้นำทีมชาติในยุครุ่งเรืองต่อจาก ปูโยล อีกด้วย
ดังนั้นคอมเมนท์ของ ปูโยล ในโพสต์ลึกลับนั้นจึงไม่ใช่การขาดความเคารพอย่างแน่นอน แต่มันคือการแสดงความรู้ทันถ้าเราคิดว่านั่นคือการถูกแฮค หรือ การล่อเล่นของเจ้าของบัญชี และ ยังมองได้ว่านั่นคือข้อความแสดงความยอมรับในทุกสภาพที่เพื่อนคนนี้เป็น ถ้าหากว่าโพสต์นั้นเป็นการลั่นโดยสุจริต
แล้วถ้าเราคิดกันต่อแบบเล่นๆ ว่า กาซิยาส เป็นผู้มือลั่นเองล่ะ แล้วทำไมเขาถึงต้องลบโพสต์นั้นทันที
แน่นอนว่าเราถึงคนมีสิทธิ์ 100% ในตัวของเรา เราจึงสามารถกระทำการใดๆ ก็ได้ภายใต้กฎหมาย ระเบียบ ศีลธรรม กฎทางสังคม และ ภายใต้การเคารพครอบครัวตนเอง
ถ้า กาซิยาส เป็นเพียงเด็กวัยรุ่น หรือ วัยเพิ่งทำงาน เขาสามารถประกาศตัวได้ทันทีว่า “ผมเป็นเกย์” โดยอาจจะไม่ต้องปรึกษาครอบครัวก็ได้ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว บิดา-มารดา สามารถรับทุกสิ่งที่ลูกๆ เป็นได้เสมอ แต่ในส่วนของสังคมรอบตัว และ สังคมขนาดใหญ่ในฐานะคนดังเขาก็ต้องลงมือจัดการเอง
แต่ถ้า กาซิยาส อยู่ในฐานะพ่อคน แถมเป็นพ่อที่เป็นดนดังระดับโลก เขาย่อมจำเป็นที่จะต้องคิดให้ลึกซึ้งมากกว่านั้น แน่นอนว่าชีวิต และ สิทธิเป็นของเขา แต่เขาก็ไม่สามารถลืมได้เช่นกันว่าภูมิคุ้มกันของลูกๆ ยังไม่มากพอสำหรับการรับความเปลี่ยนแปลงนั้น
การจะประกาศอะไรที่สำคัญมากขนาดนี้ เขาก็น่าที่จะปรึกษาอดีตภรรยา พร้อมกับพูดคุยกับลูกวัย 9 ปี และ 5 ปี ให้เข้าใจเสียก่อน ส่วนจะเข้าใจหรือไม่ คนในครอบครัวเท่านั้นที่จะทราบเรื่องแบบนี้
อดีตภรรยาที่ปัจจุบันเป็นเพื่อนคงไม่ใช่ปัญหา เพราะสังคมตะวันตกมองเรื่องเหล่านี้ค่อนข้างเสมอภาคมาสักพักแล้ว แต่อาจจะยังไม่ครอบคลุมไปถึงสังคมของเด็กๆ แม้ว่าจะเป็นเด็กในโลกตะวันตกก็ตาม
เพราะนี่คือเรื่องใหญ่สำหรับเด็กที่ยังไม่มีภูมิคุ้มกัน นี่คือเรื่องใหญ่สำหรับสภาพจิตใจของเด็ก พวกเขาอาจจะยังไม่สามารถทำความเข้าใจได้ว่าพ่อก็คือพ่อ ไม่ว่าพ่อจะเป็นอะไรก็ตาม
แน่นอนอีกเช่นกันว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับ กาซิยาส หรอก แต่ถ้าเขาเข้าใจเรื่องเหล่านี้มากพอ เขาก็จะเข้าใจได้ว่าทุกการกระทำของพ่อแม่จะส่งผลกระทบไปที่ลูก
ซึ่งเรื่องนี้ในทางทฤษฎีล้วนมีทางออกอยู่ แต่กว่าจะถึงทางออก หรือ เมื่อเลยทางออกไปแล้ว มันก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ดี
นอกจากว่า กาซิยาส จะโชคดีมากพอที่ลูกของเขารับได้ สังคมของลูกของเขาจะเป็นสังคมจิตใจดี ไม่มีบูลลี ใจกว้าง และ เอื้ออารีต่อกัน รวมทั้งจิตใจของเด็กทั้งสองคนแข็งแกร่งมากพอที่จะยืดหยุ่นต่อผลกระทบเหล่านั้นได้
แต่ที่แน่ๆ กาซิยาส คือคนดี เมื่อมองไปที่ตลอดอาชีพการค้าแข้ง รวมทั้งการดำเนินชีวิตที่ไม่เคยมีเรื่องแย่ๆ นอกสนามแข่งเลย
ดังนั้นผู้เขียนก็ขออวยพรให้เขามีชีวิตที่ดี ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม ซึ่งรวมถึงครอบครัวของเขาทุกคน
ทั้งหมดนี้คือเรื่องสมมตินะคะ ตัวละครไม่ได้เป็นจริง แต่สถานการณ์ทุกอย่างคือเรื่องจริงแท้ๆ แน่นอน
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม
