ปี 2021 มีการเปิดเผยข้อมูลการวิ่งในสนามแข่งของ คริสเตียโน โรนัลโด กับ ลีโอเนล เมสซี เอาไว้ว่า
กัปตันทีมชาติโปรตุเกสวัย 36 ปี วิ่งเฉลี่ยต่อเกมราว 9.3 กิโลเมตร
ส่วนกัปตันทีมชาติอาร์เจนตินาวัย 33 ปี วิ่งต่อเกมได้ระยะทางราว 8.3 กิโลเมตร
การวิ่งของ โรนัลโด ในฐานะกองหน้า เป็นการวิ่งสร้างพื้นที่ หาช่อง ดึงตัวประกบ สปีดรับบอล กระชากหนี และ เข้าชาร์จบอล
การวิ่งของ เมสซี ส่วนมากเป็นการวิ่งไปกับบอลเพื่อสร้างเกมตามตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์
ส่วนคนอื่นอย่าง เลวานดอฟสกี , เคน , ซาลาห์ , ลูกากู ล้วนไม่มีใครวิ่งถึง 10 กิโลเมตรเลย
ไม่มีใครยืนยันว่านักเตะตำแหน่งกองหน้าที่วิ่งมากจะประสบความสำเร็จมากตามระยะทางที่วิ่ง
ซึ่งที่แน่ๆ ทุกคนต่างเชื่อว่าการวิ่งของกองหน้าสามารถสร้างอิมแพ็คต่อทีมได้มาก ทั้งการสร้างพื้นที่ และ สร้างโอกาส
แต่การวิ่งที่ดีที่สุดคือการวิ่งที่มีประโยชน์ วิ่งอย่างฉลาด วิ่งแบบเป็นทีม จนสร้างประสิทธิภาพให้ทีมได้ นั่นก็คือสิ่งที่เรียกกันว่า วิ่งเพื่ออะไร วิ่งไปทำไม หรือ วิ่งแล้วได้อะไร
ทั้งหมดทั้งมวลนั้น ระบบทีม คุณภาพทีม และ คุณภาพตัวคนวิ่ง ล้วนส่งผลที่แตกต่างกันแน่นอน
อย่างในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งล่าสุด การเดินราว 5.39 กม.ต่อเกม ทำให้ เมสซี เป็นแชมป์โลก และ เป็นนักเตะยอดเยี่ยม จนได้รับรางวัลบัลลงดอร์
การสั่งให้ Run Forest run อาจได้ผลสำหรับ ฟอเรสต์ กัมป์ แต่สำหรับกรณีดราม่านั้น เจ้าตัว เพื่อนร่วมทีม โค้ช และ กูรู คงรู้ดีที่สุดว่าอะไรเป็นอะไร
ป.ล. ‘G.O.A.T.’ ย่อมาจาก Greatest Of All Time (ผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล)
