ได้เวลา “โค้ชโย่ง”

👉 แฟนบอลไทยอาจไม่รู้ “โค้ชโย่ง” และทีมงานที่ได้รับมอบหมายให้คุมทัพ “ช้างศึก U23” ไปชิงแชมป์เอเชีย ที่อุซเบกิสถาน ต้นเดือนหน้า ได้บินมานั่งดูเกมนัดชิงซีเกมส์แบบติดขอบสนามในฐานะกองเชียร์

👉 อย่างที่ทราบกันดี “โค้ชโย่ง” ต้องหลีกทางให้ “มาโน่” ทำภาร(เฉพาะ)กิจ ด้วยสารพัดปัญหา ดังนั้น “เหรียญเงิน” จึงไม่มีอะไรที่น่าแปลกใจในแง่ของผลงาน แต่ถ้ามองที่การได้ลุ้น ถือว่า “เกินคาด” ด้วยซ้ำ

👉 เมื่อ ซีเกมส์ พลาดหวังไปแล้ว สิ่งที่น่าสนใจต่อจากนี้คือ “U23 ชิงแชมป์เอเชีย” รอบสุดท้าย ที่อุซเบกิสถาน จะเป็นอย่างไร? เมื่อ “มาโน่” ต้องส่งไม้คืนให้ “โค้ชโย่ง” แต่แผนเตรียมทีมที่เคยวางไว้มันพังไปตั้งแต่มุ่งเป้าที่ฮานอยเกมส์แล้ว

👉 เพราะนับจากนี้ “โค้ชโย่ง” จะมีเวลาแค่ 8 วัน (เริ่มซ้อม 25 พ.ค. รวมวันเดินทาง) ก่อนลงเตะนัดแรกพบ เวียดนาม (2 มิ.ย.) และยิ่งไปกว่านั้น กว่าที่ “โค้ชโย่ง” จะได้นักเตะมาซ้อมแบบเต็มทีมก็ต้องรอหลังจบบอลถ้วย “ลีก คัพ” ที่ถูกเลื่อนไปชิงชนะเลิศวันที่ 29 พ.ค.

👉 อย่างไรก็ตาม ยังพอจะมีข่าวดีอยู่บ้าง เมื่อ “โค้ชโย่ง” จะได้ขุนพลที่ตัวเองต้องการ ทั้งจาก บุรีรัมย์ และ ชลบุรี รวมถึงแข้งต่างแดนที่จะมาสมทบกันอย่างพร้อมหน้า บวกกับนักเตะที่สอบผ่านจากซีเกมส์อย่าง โจนาธาร เข็มดี, เบนจามิน เดวิส, ชยพิพัฒน์ สุพรรณเภสัช

👉 อยู่ที่ว่า “โค้ชโย่ง” จะปรุงแต่งชุดนี้ออกมาให้จี๊ดจ๊าดอย่างไร? แน่นอนว่าทุกคนมีความตั้งใจเกินร้อย ความมุ่งมั่นเกินล้าน แต่ถ้าผลลัพธ์ล้มเหลว ก็คงต้องถูกวิจารณ์อย่างปฏิเสธไม่ได้…

อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม