ปี 2011 ไรอัน เรย์โนลด์ส แสดงหนังซูเปอร์ฮีโร่สายเขียวเรื่อง Green Lantern ซึ่งตัวหนังที่อยู่ในเครือดีซีไม่ประสบความสำเร็จอย่างแรง
แต่สิ่งดีๆ ก็คือ เขาได้พบกับ เบลค ไลฟ์ลีย์ จนได้ทำความรู้จักกันในฐานะเพื่อนที่ดีต่อกัน แล้วเมื่อถึงวันที่ต่างฝ่ายต่างโสดในระยะใกล้เคียงกัน จึงตัดสินใจคบหากันในปี 2012
ในปีเดียวกันแต่อีกฟากหนึ่งของโลกนั้น สาวนักศึกษาวิชาศิลปะแห่งหนึ่งของเมืองเร็กซ์แฮม ประเทศเวลส์ เกิดเบื่อวิชาวาดภาพ โดยเฉพาะแบบที่เธอต้องวาด แชนนอนจึงทวีตไปว่า “ถ้าแบบเป็น เรย์โนลด์ส ก็คงจะดี” แล้วก็มีการรีทวีตต่อๆ กันไป
จนบัญชีของ Lois Morus ได้รีทวีตว่า “คุณไม่มีทางรู้หรอกว่า เรย์โนลด์ส จะมาที่เร็กซ์แฮมเมื่อไหร่”
สำหรับคนบ้านๆ อย่างเราๆ การโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับคนดังแล้วเขาหรือเธอคนนั้นมากดไลค์ หรือ กดแชร์ให้ก็สร้างความดีใจแล้ว ซึ่ง เรย์โนลด์ส มารีทวีตโพสต์นั้นเช่นกัน
ในช่วงที่โควิด 19 ระบาด องค์กรธุรกิจทุกขนาดได้รับผลกระทบ
สโมสรฟุตบอลเร็กซ์แฮมก็เช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาบริหารกันเองภายใต้การระดมทุนของแฟนบอล จึงยิ่งได้รับความเดือดร้อนมากขึ้นไม่น้อย
จนกระทั่ง สเปนเซอร์ แฮร์ริส ผู้อำนวยการสโมสรได้รับการติดต่อจากนายหน้ารายหนึ่งที่แสดงความสนใจว่า สนใจขายทีมไหม มีคนดังสนใจทีมของคุณ
การเจรจาเริ่มต้นขึ้น พร้อมกับมีข้อตกลงกันว่า ห้ามสโมสรเผยแพร่ข้อมูลออกไปว่าใครคือว่าทีมเจ้าของสโมสรคนใหม่
จนกระทั่งข้อตกลงบรรลุ ไรอัน เรย์โนลด์ส ซูเปอร์สตาร์ฮอลลีวูด กับ ร็อบ แมคเอลเฮนนีย์ เพื่อนสนิทของเขา ได้แสดงความมุ่งมั่น ตั้งใจ และ แผนงานของทั้งคู่ก็ดีเกินพอจนได้รับการโหวตตอบรับจากแฟนบอลอย่างท่วมท้น อันทำให้ได้กลายเป็นเจ้าของสโมสรคนใหม่สมใจ
แล้ว เรย์โนลด์ส ก็ไม่ลืมที่จะรีทวีตไปยังต้นเหตุเดิมอีกครั้งเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2020 ว่า
“ใช่ คุณไม่รู้หรอก”
ในตอนนั้น เบลค ไลฟ์ลีย์ บ่นสามีของเธอประมาณว่า แค่นี้ชีวิตยังวุ่นวายไม่พอเหรอ อันเป็นการแสดงความไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ได้คัดค้าน
เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ สนามเรซคอร์สกราวน์ก็ได้ต้อนรับเจ้าของใหม่ และ ภรรยาของเขา จนแฟนบอลเริ่มคุ้นชินกับการมาเยือนของคนดังระดับโลก
แม้ว่า ไลฟ์ลีย์ จะไม่เห็นด้วย แต่เมื่อสามีเดินหน้าเธอก็สนับสนุน แถมยังแอบโปรโมทสโมสรด้วยการทวีตถึงบ่อยๆ โดยเฉพาะการแซวสามีว่า
“ฉันลงทุนจ่ายเงินช่องเปย์เปอร์วิวของ ESPN เพื่อที่จะได้เห็นสีหน้าของคุณตอนมุ่ยในยามที่ทีมแพ้เลยนะ”
พอมาดูฟุตบอลบ่อยๆ ไลฟ์ลีย์ จึงเริ่มคุ้นเคย และ ได้รู้ว่าฟุตบอลนั้นมีเสน่ห์อย่างไร สุดท้ายก็ได้กลายเป็นความชอบจนติดสอยห้อยตามสามีมาดูบ่อยขึ้น จนทำให้เธอกลายเป็นขวัญใจของแฟนบอลจากการได้ร่วมสนุกไปกับทุกคน
เรย์โนลด์ส ไม่ใช่แสดงบทบาทเจ้าของทีมเท่านั้น แต่เขายังเป็นคนรวยที่เอื้ออาทรคนอื่นด้วยการช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเหมาะสม เช่น การบริจาคเงินให้ท้องถิ่น, จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้คนป่วยที่ยากไร้ รวมทั้งบริจาคให้กับมูลนิธิของแฟนบอลทีมคู่แข่งที่ตั้งกองทุนสู้มะเร็ง และ อื่นๆ อีกมากมาย
แล้วในช่วงปลายฤดูกาลที่การแข่งขันเข้มข้นขึ้น เรย์โนลด์ส กับ ไลฟ์ลีย์ ได้มาเชียร์ทีมของพวกเขาอีกครั้ง
ซึ่งในครั้งนั้นได้มีการเปิดตัวบุตรคนที่สี่ออกสู่สาธารณะเป็นครั้งแรกที่สนามแข่งของทีม อันเป็นการซื้อใจแฟนบอลของทีมได้อย่างมหาศาลจนทำให้สถานะของพวกเขาอยู่ในหมวดพลเมือง ไม่ใช่แค่นายทุนอย่างสมบูรณ์
เมื่อคืนนี้ เร็กซ์แฮม สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลดิวิชั่นห้า หรือ เนชั่นแนลลีก คว้าสิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ ลีกทู ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี ด้วยการทำลายสถิติเก็บคะแนนสูงสุดเดิม 106 แต้มลงอย่างราบคาบ ด้วยการทำไปแล้ว 110 คะแนน แถมยังเหลืออีก 1 นัดให้สะสมเพิ่ม
นอกจากนี้ เรย์โนลด์ส ยังแจกโบนัสพิเศษให้ผู้เล่น และ สต๊าฟโค้ชทุกคนอีกคนละ 20,000 ปอนด์ ซึ่งค่าแรงโดยเฉลี่ยของผู้เล่นอยู่ที่ 1,200 ปอนด์/สัปดาห์ คนที่ได้รับมากที่สุดก็คือ พอล มัลลิน ในเรท 4,500 ปอนด์
แถมด้วยการจองคิว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เชลซี เพื่อมาแข่งแมตช์กระชับมิตรกับ เร็กซ์แฮม อันเป็นทั้งของขวัญ และ แรงบัลดาลใจสำหรับคนทั้งเมือง
การลงทุนซื้อทีม 2.5 ล้านปอนด์ และ ทุ่มงบทำทีมอีกราว 13 ล้านปอนด์ ได้ออกดอก ออกผล และ ต่อยอดได้ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 2 ฤดูกาลเท่านั้น
เรย์โนลด์ส จึงออกมาบอกว่านี่คือการจ่ายเงินที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเขา เพราะนอกจากทำให้ชีวิตมีสีสันแล้ว ความสุขของทุกคนคือคุณค่าที่ไม่สามารถประเมินค่าได้
จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมภรรยาของเขาจึงเปลี่บนจากเสียงคัดค้านมาเป็นเสียงเชียร์ที่ดังจนทุกคนประทับใจ
เพราะการยินยอมให้สามีมีความสุขแบบถูกที่ถูกทาง ย่อมดีกว่าการกดขี่จนสามีตัวดีต้องดอดออกไปหาความสุขแบบผิดทางยังนอกบ้านแบบลับๆ ล่อๆ