Link Copied!

เดือดส่งท้ายเลกแรก! “ราชันมังกร” จะหยุด “ปราสาท” ได้หรือไม่?

ก่อนเปิดฤดูกาล รีโว่ ไทยลีก 2022/23 “บีจี-บียู-ท่าเรือ” คือ 3 ทีมที่ได้รับการคาดหมายว่ามีโอกาสเขย่าบัลลังก์แชมป์จาก “บุรีรัมย์” มากที่สุด แต่ผ่านไป 14 นัด ทั้ง 3 ทีมค่อย ๆ หลุดจากคำว่า “ผู้ท้าชิง” เมื่อ “แข้งเทพ” ตาม 9, “สิงห์เจ้าท่า” ตาม 14 โดยเฉพาะ “เดอะ แรบบิท” ถูกทิ้งแทบไม่เห็นฝุ่นถึง 21 แต้ม

Cr.บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

แม้หลายคนจะบอกว่า “เร็วเกินไป” ที่จะยกแชมป์ให้ บุรีรัมย์ อีกสมัย เพราะยังเหลือเลกสองอีกเต็ม ๆ แต่ถ้ามองจากผลงานของขุนพล “เซราะกราว” ที่ยังคงไร้พ่ายตลอด 14 นัดที่ผ่านมา ก็ยากที่จะปฏิเสธว่า “ปราสาทสายฟ้า” มีโอกาสสูงมาก ๆ ที่จะป้องกันแชมป์ไว้ได้

ตอนนี้ที่หลายคนอยากรู้มากกว่าก็คือ จะมีทีมไหนมาหยุดบุรีรัมย์ หรือยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้กับทีมจ่าฝูงได้? เพราะก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็น บียู หรือทีมที่ฟอร์มทำท่าจะแรงขึ้นมาอย่าง ชลบุรี และ เชียงราย ต่างก็จบด้วย 0 แต้มทั้งสิ้น ขณะที่ บีจี ที่เคยผูกปีชนะในช่วงหลัง ก็ทำได้ดีสุดแค่เสมอ

แม้กระทั่งเกมล่าสุดที่ แพท สเตเดียม หลายคนหวังที่จะเห็นลูกทีมของ “มาดามแป้ง” หยุด บุรีรัมย์ ให้ได้ หรือยันเสมอก็ยังดี แต่สุดท้ายก็ฝากผีฝากไข้ไม่ได้

Cr.ราชบุรี เอฟซี

จนกระทั่งมี “ผู้ท้าชิงหน้าใหม่” โดดเด่นสะดุดตา นั่นก็คือ ราชบุรี เอฟซี ที่ฟอร์มพุ่งกระฉูดขึ้นมารั้งตำแหน่งรองจ่าฝูง และมีโอกาสโคจรมาเจอ “ปราสาทสายฟ้า” ในนัดส่งท้ายของเลกแรก วันศุกร์นี้ (25 พ.ย.) พอดี

คงไม่มีใครคิดว่า “ราชันมังกร” ของกุนซือชาวสเปน “ชาบี โมโร” จะทำผลงานได้ดีเกินคาดขนาดนี้ โดยเฉพาะหลังจากบุกไปพ่าย สุโขทัย เอฟซี 0-1 ในแมตช์เดย์ 8 หลายคนมองว่า ทีมดังจากเมืองโอ่ง คงเหมือนหลาย ๆ ทีมที่สะดุดแล้วคงกลับมายาก แต่นั่นคือนัดเดียวที่พวกเขาปราชัยมาจนถึงเวลานี้

สิ่งสำคัญคือการได้ “กุนซือคนที่ใช่” เข้ามาเติมเต็มแท็กติก และเค้นฟอร์มนักเตะอย่าง ปฐมชัย เสือสกุล และ สิทธิโชค กันหนู ให้กลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีอีกครั้ง รวมทั้งการดึง จักรพันธ์ แก้วพรม ยังช่วยสร้างความแตกต่างให้ทีมได้ชัดเจนจนกลายเป็นหัวใจแดนกลางที่ขาดไม่ได้ รวมไปถึง แดร์เลย์ กับ อัลวิน ฟอร์เตส สองแนวรุกต่างชาติที่ประสานงานกันได้อย่างลงตัว และแนวรับที่มี ปาร์ค จุน ฮยอง กับ ไฮน์ เพียว วิน ช่วยกันอุดรูรั่ว

ตลอด 14 เกมที่ผ่านมา โค้ชแดนกระทิงดุ ทำให้ “ราชันมังกร” กลายเป็นทีมที่มองข้ามไม่ได้ หลังพาทีมเก็บได้ 29 แต้ม จากผลงาน ชนะ 8 เสมอ 5 แพ้ 1 ยิงได้ 21 และเสียไปเพียงแค่ 7 ลูกเท่านั้น (น้อยสุดเท่า แบงค็อก) โดยตามหลังจ่าฝูง บุรีรัมย์ อยู่ 7 คะแนน

เกมนัดส่งท้ายเลกแรกวันศุกร์นี้ที่ทั้งสองทีมโคจรมาเจอกัน ผลการแข่งขันจะเป็นคำตอบว่า “ราชันมังกร” ดีพอที่จะเป็น “ผู้ท้าชิงตัวจริง” และได้ลุ้นแชมป์ยาว ๆ ในฤดูกาลนี้หรือไม่?

Total
0
Shares