โฮเซ มูรินโญ ถูกไล่ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมอีกครั้งในชีวิต แล้วอะไรเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ เดอะ สเปเชียล วัน ทำผลงานได้ไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนเคย
หลังเกมเสมอกับเอฟเวอร์ตัน 2-2 ประตู #JoseOut ติดเทรนด์บนทวิตเตอร์ของสหราชอาณาจักร เป็นการประกาศของแฟนบอลสเปอร์สว่า พวกเขาหมดความอดทนแล้วกับ โฮเซ มูรินโญ นายใหญ่ไก่เดือยทองที่พาทีมทำผลงานสามวันดีสี่วันป่วยในระยะหลายเดือนหลัง โดยฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้บรรดายิดอาร์มีเริ่มหมดความศรัทธาในตัวผู้จัดการทีมโปรตุเกส น่าจะเป็นการตกรอบฟุตบอลยูโรป้า ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ทั้งๆ ที่นัดแรกเอาชนะไดนาโม ซาเกรบ มาสบาย 2-0 ประตู สุดท้ายบุกไปพ่ายให้ทีมดังจากโครเอเชีย 3-0 ประตู รวมผลสองนัดแพ้ไป 3-2 ประตู ตกรอบแบบแฟนไก่เดือยทองยังงงมาถึงตอนนี้
ความพ่ายแพ้ต่อไดนาโม ซาเกรบ เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ เหตุการณ์ที่สเปอสร์ทำหมูหก ในฤดูกาลนี้ทีมของมูรินโญมีสถิติไม่ค่อยสู้ดีนักเมื่อทำประตูขึ้นนำ โดยในพรีเมียร์ลีกอย่างเดียว พวกเขาทำแต้มหล่นหายไป 20 คะแนนหลังจากขึ้นนำคู่ต่อสู้ไปก่อน เรียกว่าถ้าเก็บแต้มได้ทั้งหมดหลังจากที่ได้ประตูขึ้นนำ ป่านนี้สเปอร์สมีลุ้นแชมป์กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบสูสี หายใจรดต้นคอ เปป กวาร์ดิโอลา ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอนว่าเดอะ สเปเชียล วัน ไม่โทษตัวเองอยู่แล้ว
“โค้ชคนเดิม ผู้เล่นเปลี่ยนไป” (Same coach, different players) คำตอบจากปากของมูรินโญเมื่อถูกถามว่า ปกติแล้วทีมที่เขาคุมนั้นจะมีสถิติที่ค่อนข้างดีในยามที่ขึ้นนำคู่ต่อสู้ไปก่อน แต่ทำไมถึงไม่เป็นแบบนั้นที่สเปอร์ส เมื่อเราย้อนไปดูสถิติเก่าๆ ตอนที่มูรินโญคุมทีมเชลซีทั้งสองช่วงเวลา กว่า 120 เกม สิงโตน้ำเงินครามทำแต้มหล่นแค่ 14 คะแนนเท่านั้นเมื่อขึ้นนำไปก่อน ขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตลอดระยะเวลาการเป็นนายใหญ่ 2 ฤดูกาลกว่าๆ เมื่อทำประตูนำคู่แข่งไปก่อน ปีศาจแดงในยุคมูรินโญเสียแค่ 18 คะแนนเท่านั้น แต่กับสเปอร์ส ยังไม่หมดฤดูกาลด้วยซ้ำ ทำสถิติเสียคะแนนแซงหน้าทุกทีมที่กุนซือโปรตุเกสเคยคุมไปแล้วเรียบร้อย “มันเป็นความผิดพลาดที่ผมจะไม่เรียกว่าความผิดพลาดอีกแล้ว แต่มันเกี่ยวเนื่องกับคุณภาพที่ผู้เล่นคนนั้นมีต่างหาก”
คงเถียงไม่ได้ว่า คุณภาพของผู้เล่นไก่เดือยทองนั้นเทียบไม่ได้กับนักฟุตบอลของเชลซีที่มูรินโญเคยดูแล แต่การออกมาโทษนักฟุตบอลของทีมตัวเองผ่านสื่อก็ไม่ได้ช่วยให้บรรดาลูกทีมมีขวัญกำลังใจที่ดีขึ้นมาเท่าไรนัก สิ่งที่เคยเป็นความพิเศษของเดอะ สเปเชียล วัน คือการดึงเอาศักยภาพสูงสุดของผู้เล่นออกมา เขาทำได้ที่เชลซีกับ แฟรงก์ แลมพาร์ด อดีตมิดฟิดล์ทีมชาติอังกฤษซึ่งบอกเล่าในหนังสือชีวประวัติของตัวเองว่า หลังจากที่ได้พูดคุยกับมูรินโญแล้วนั้น “ผมรู้สึกว่าความมั่นใจของผมพุ่งขึ้นสุงสุด ผมรู้สึกเดินบนอากาศได้ตลอดทั้งวัน” ภายใต้การดูแลของ เคลาดิโอ รานิเอรี แลมพาร์ดเป็นผู้เล่นที่มีศักยภาพ แต่ภายใต้มูรินโญ เขาเป็นกองกลางระดับโลก เรียกว่า ผู้เล่นคนเดิม แต่เปลี่ยนโค้ช อะไรก็ดีขึ้นได้
เสน่ห์ที่มูรินโญเคยมี ความเข้าใจในตัวผู้เล่นดูจะลดน้อยลงตามกาลเวลาที่ผ่านไป บทสัมภาษณ์ล่าสุดที่ ปอล ป็อกบา ออกมาพูดถึงอดีตนายเก่าที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิ่งตอกย้ำสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับชายที่พาทีมคว้าแชมป์มานับไม่ถ้วน “ผมเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับมูรินโญ” มิดฟิลด์แชมป์โลกเอ่ย “ทุกคนเห็นมัน และวันต่อมาคุณไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นั่นเป็นเรื่องแปลกๆ ที่ผมมีกับมูรินโญ และผมอธิบายกับคุณไม่ได้ เพราะผมเองก็ไม่รู้” จริงที่ว่ามูรินโญทำให้ แฮร์รี เคน และ ซน ฮึง-มิน มีผลงานที่ดีที่สุดในอาชีพค้าแข้ง เขาทำให้กองหน้าทีมชาติอังกฤษเล่นฟุตบอลได้หลายมิติมากขึ้น จ่ายบอลดี แอสซิตส์ได้ ไม่ใช่แค่คอยยิงประตูอย่างเดียว แต่กับบรรดานักฟุตบอลคนอื่นๆ ของสเปอร์ส วิธีการของมูรินโญดูจะไม่เป็นผล ทั้งๆ ที่มีผู้เล่นที่มีศักยภาพหลายคนในทีม
มองจากภายนอก เรารู้สึกว่ามูรินโญดูแลลูกทีมด้วยพระเดชมากกว่าพระคุณ ปกป้องชื่อเสียงของตัวเองแทนที่จะปกป้องผู้เล่นในทีม เราแทบไม่เคยเห็น เปป กวาร์ดิโอลา หรือ เจอร์เกน คล็อปป์ ออกมาพูดจาไม่ดีถึงนักฟุตบอลของทีมต่อหน้าสื่อ ประโยคที่ว่า “โค้ชคนเดิม ผู้เล่นเปลี่ยนไป” ในทางหนึ่งเหมือนบอกกับสเปอร์สว่า สโมสรโชคดีที่ได้เขามาคุมทีม คุณภาพของเขายังคับแก้วเหมือนเดิม แต่นักฟุตบอลต่างหากที่ศักยภาพลดลง ประโยคสั้นๆ ประโยคเดียวเหมือนเอาผู้เล่นสเปอร์สทั้งทีมมาเสียบประจานอยู่กลางสี่แยก
สิ่งที่ทำให้มูรินโญต้องพเนจรในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมา ถูกปลดที่เชลซี อยู่ไม่ยืดกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะเขาสูญเสียห้องแต่งตัว หรือที่เรียกกันว่า Lost the locker room นักฟุตบอลเริ่มต่อต้าน ไม่ศรัทธาในตัวโค้ชอีกแล้ว การทำงานด้วยกันก็ลำบาก สโมสรปลดนักฟุตบอลออกทั้งทีมไม่ได้ ปลดผู้จัดการทีมคนเดียวง่ายกว่า
ถ้ายังจำได้ หลังปลดมูรินโญ เชลซีเรียกใช้งาน อันโตนิโอ คอนเต ซึ่งนายใหญ่ชาวอิตาลีใช้ผู้เล่นชุดเดิมที่เคยเล่นให้มูรินโญ จากนั้นพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ หรือ โอเล กุนนาร์ โซลชา ที่รับช่วงต่อจากเดอะ สเปเชียล วัน ก็กำลังทำผลงานดีวันดีคืน ผู้เล่นที่เคยถูกมูรินโญประจานอย่าง ลุค ชอว์ ทำผลงานดีจนน่าใจหาย ทั้งสองกรณี Same player, different coach นักฟุตบอลคนเดิม แต่โค้ชเปลี่ยนไป บางทีตัวแปรที่ทำให้สโมสรแย่ลงอาจจะเป็นตัวมูรินโญเองจริงๆ แต่เจ้าตัวจะรู้สึกไหมนั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ถึงจะทำผลงานได้ลุ่มๆ ดอนๆ แต่ต้องไม่ลืมว่า สเปอร์สทีมนี้เคยเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 6-1 ประตู และปราบแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 ประตู แล้ว โฮเซ มูรินโญ ยังพาไก่เดือยทองไปเวมบลีย์ เพื่อเล่นนัดชิงชนะเลิศคาราบาว คัพ กับทีมของ เปป กวาร์ดิโอลา ซึ่งจะว่าไปแล้วช่วงเวลาในการปลดมูรินโญของสเปอร์สค่อนข้างน่าตกใจ เพราะทีมกำลังจะลงเล่นนัดชิงชนะเลิศบอลถ้วย ที่มีโอกาส 50-50 จะนำแชมป์มาให้เหล่ายิดอาร์มีได้ชื่นชมเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี และเกิดขึ้นหลังจากที่ไก่เดือยทองประกาศเข้าร่วมสมาคมทีมทรยศ เอ้ย สมาคมยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก แค่วันเดียว โดยมีกระแสข่าวว่ามูรินโญปฏิเสธที่จะนำทีมลงซ้อมเพื่อประท้วงเรื่อง ESL จนนำมาสู่การไล่ออกโดย แดเนียล เลวี ในที่สุด แต่อีกกระแสก็บอกว่า มีผู้เล่นระดับซีเนียร์ของไก่เดือยทองย่องไปแทงข้างหลังนายใหญ่โปรตุเกสโดยเข้าหาประธานสโมสรสเปอร์ส
ก้าวต่อไปหลังจากนี้ของ โฮเซ มูรินโญ น่าจับตามองอย่างยิ่ง เขาพอแล้วหรือยังกับการคุมทีม หรือจะลองอีกสักตั้ง แต่ทีมไหนจะกล้าจ้าง เดอะ สเปเชียล วัน หลังจากได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีหลัง
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม