Link Copied!

ความท้าทายครั้งใหม่ของ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว

พิชิตพงษ์ เฉยฉิว กองกลางจอมเก๋า กำลังพบความท้าทายครั้งใหม่ เมื่อได้รับบทบาทรักษาการหัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมแพร่ ยูไนเต็ด ภายหลังจาก “ทัพม้าคะนองศึก” ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนเดิม โดยมีเป้าหมายที่บอกไว้ชัดเจนว่าต้องการเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 1

หลายคนอาจสงสัยว่าอะไรทำให้ทีมม้าคะนองศึกตัดสินใจเปลี่ยนแปลงโค้ชครั้งนี้ เพราะ “โค้ชหนุ่ม” อานนท์ บรรดาศักดิ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนเก่าก็ทำผลงานที่ดีและพาทีมเลื่อนชั้นมาอยู่ไทยลีก 2 ได้สำเร็จ โดยเมื่อเปิดฤดูกาลนี้ก็สามารถเก็บชัยได้หลายนัด กระทั่งเคยขึ้นไปอยู่อันดับ 1 ของตารางอีกด้วย แต่ดูเหมือนฟอร์มจะแผ่วลงในสามนัดล่าสุด พวกเขาไม่สามารถชนะคู่แข่งได้จนตกมาอยู่ที่อันดับ 4 ถึงอย่างนั้นหลายคนคงมองว่ามันถึงขั้นต้องเปลี่ยนโค้ชเลยหรือ แต่ก็นั่นแหละครับเมื่อเป้าหมายของสโมสรบอกไว้ชัดเจนแล้วว่าต้องการเลื่อนสู่ไทยลีก 1 เท่านั้น ก็คงจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดา

แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่เราจะมาพูดถึงวันนี้ สิ่งที่น่าสนใจของผมครั้งนี้คือ บทบาทรักษาการหัวหน้าผู้ฝึกสอนที่สโมสรมอบให้ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ที่พูดถึงเรื่องประสบการณ์และฝีเท้าหลายคนต่างให้การยอมรับว่าเขาคือตำนานจริงๆ สำหรับการขัดตาทัพครั้งนี้ของ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ก็เป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว หากใครได้ดูแพร่ ยูไนเต็ด ในการแข่งขันจะเห็นได้ว่า “กัปตันแป๊ะ” คือนักเตะที่เป็นคีย์แมนของทีมอยู่แล้ว รวมถึงการสั่งการในสนามที่น้องๆ นักเตะเชื่อฟังอย่างไม่มีข้อกังขา การรับหน้าที่โค้ชนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพิชิตพงษ์จะต้องทำการบ้านหนักกว่าเดิม และต้องรับแรงกดดันมากกว่าเดิม จากเป้าหมายของสโมสร

กัปตันแป๊ะ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ในวัย 39 ถือว่าเป็นวัยที่เยอะในวงการฟุตบอล เขาอยู่กับทีมแพร่ ยูไนเต็ด ในช่วงท้ายของอาชีพค้าแข้งก็ว่าได้ หลายคนคงมองว่าเขาไม่มีแรงกระหายเหมือนเดิม โดยผมฟังสัมภาษณ์ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เขาบอกว่ามีความสุขที่ได้เล่นที่แพร่ ยูไนเต็ด โดยอยู่กันแบบครอบครัว ไม่ได้กดดันอะไร ทีมก็ไม่ได้มีเป้าหมายเกินตัว ขอแค่อยู่ในไทยลีก 2 ให้ได้ก็พอ

ทว่าสถานการณ์ล่าสุดถ้าดูจากผลงาน แพร่ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้พวกเขากลับกลายเป็นทีมเต็งเลื่อนชั้น ยิ่งผลงานดีความกดดันและความคาดหวังก็สูงขึ้นเป็นธรรมดา ด้วยองค์ประกอบของทีมตอนนี้ พวกเขาคือทีมที่พร้อมและลงตัวที่สุดเลยก็ว่าได้ ซึ่งก็ต้องยกเครดิตให้กับ “โค้ชหนุ่ม” อานนท์ บรรดาศักดิ์ ที่วางระบบไว้ได้ดี ทั้งการซื้อนักเตะที่สามารถหยิบใช้งานได้เลย แผนการเล่นที่แน่นในเกมรับ ดุดันในเกมบุก

ทว่าเท่านั้นคงไม่พอสำหรับ แพร่ ยูไนเต็ด สโมสรอาจมองว่าการที่จะเลื่อนชั้นให้ได้ทีมก็ต้องดีกว่านี้ สโมสรก็ต้องเร่งหาโค้ชที่ตอบโจทย์ให้ได้ในเร็ววัน แต่เมื่อยังหาไม่เจอ การไว้วางใจ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ก็เป็นเรื่องที่เหมาะกับสถานการณ์ และยังดีกับกัปตันแป๊ะที่ได้ลองและเรียนรู้กับความท้าทายครั้งใหม่ ซึ่งอาจเป็นการปูทางสู่อาชีพโค้ชในวันข้างหน้าก็เป็นไปได้

สำหรับกัปตันแป๊ะ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว จะต้องประเดิมความท้าทายคุมทีมแพร่ ยูไนเต็ด อันดับ 4 ลงเล่นในศึก M-150 แชมเปี้ยนชิพ 2021/22 เปิดบ้านพบเมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2564 เวลา 19.00 น. มาดูกันว่าในเงื่อนไขที่ทีมแพร่ ยูไนเต็ด ตั้งเป้าหมายสูงขึ้น คือต้องเลื่อนชั้นให้ได้เท่านั้น ท่ามกลางแรงกดดันและความคาดหวัง กัปตันแป๊ะ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว จะแจ้งเกิดในงานโค้ชและพาทีมทำผลงานได้ดีแค่ไหน รอติดตามกันครับ

อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊คทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม

Total
0
Shares