ตอนแรกทำท่าว่าตลาดซื้อขายนักเตะครั้งนี้จะไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ใหญ่โต เพราะผลกระทบทางการเงินของหลายสโมสรจากการระบาดของโควิด แต่ก็เพราะเรื่องเงินๆ ทองๆ นั่นแหละที่ทำให้บาร์เซโลนาต้องปล่อย ลิโอเนล เมสซี ให้เปแอสเช และยูเวนตุสต้องยอมเสีย คริสเตียโน โรนัลโด ในราคาขาดทุนให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
มหากาพย์การกลับบ้านของโรนัลโด ต้องขอบคุณฝีมือของซูเปอร์เอเย่นต์อย่าง จอร์จ เมนเดส ที่เดินแผนสูง จากตอนแรกที่แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งว่า คริสเตียโน โรนัลโด ใกล้จะเป็นนักเตะของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบเดินตามรอย คาร์ลอส เตเวซ อยู่แล้ว แต่การจะปล่อยให้ตำนานของปีศาจแดงไปสวมเสื้อสีฟ้าของ “เพื่อนบ้านน่ารำคาญ” เป็นเรื่องที่เกินจะรับได้ การผนึกกำลังพาโรนัลโดกลับบ้านจึงเริ่มต้นขึ้น
คนสำคัญคือ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ยกหูหา CR7 ว่ากลับบ้านเราเถอะ ตามมาด้วยอดีตเพื่อนร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าง โอเล กุนนาร์ โซลชา ที่กำลังจะกลายมาเป็นนายใหญ่คนใหม่ของโรนัลโด ต่อด้วย ริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่เป็นเหมือนนายหน้าทั้งขู่ทั้งปลอบให้กองหน้าโปรตุเกสกลับมายังโอลด์ แทรฟฟอร์ด ปาทริซ เอฟรา กับข้อความใน What’s app บรูโน แฟร์นันด์ส กับการเอ่ยปากชวนเพื่อนร่วมชาติให้มาเล่นร่วมกันที่บ้านหลังเดิม สุดท้ายปฏิบัติการพาโรนัลโดกลับบ้านก็สำเร็จลุล่วง
12 ปีที่โรนัลโดเลือกเดินออกจากโรงละครแห่งความฝันเพื่อไปแสวงหาความท้าทายใหม่ในสเปน กับเรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ จากปี 2009-2018 กองหน้าโปรตุเกสลงสนามให้ราชันชุดขาวทั้งหมด 438 นัดในทุกรายการ ทำไป 451 ประตู คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 4 ครั้ง ลาลีกา 2 สมัย ได้บัลลงดอร์ 4 ครั้ง หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ย้ายไปเล่นที่อิตาลีกับยูเวนตุสในปี 2018 พาทีมคว้าแชมป์เซเรีย อา ได้ 2 สมัย ลงสนามในทุกรายการ 134 นัดทำไป 101 ประตู ขณะที่โรนัลโดกำลังเพลิดเพลินกับความสำเร็จมากมายทั้งในระดับสโมสร ทีมชาติ และสถิติส่วนตัว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อดีตต้นสังกัดต้องเผชิญหน้ากับความล้มเหลว
นับตั้งแต่ปี 2013 หลังจากการวางมือของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แม้จะได้แชมป์ถ้วยอื่นๆ มาบ้างประปราย แต่ปีศาจแดงก็ไม่ใกล้เคียงกับการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกเลย สโมสรเปลี่ยนกุนซือมาแล้วทั้ง เดวิด มอยส์, หลุยส์ ฟาน กัล, โฮเซ มูรินโญ และ โอเล กุนนาร์ โซลชา ใช้เงินซื้อผู้เล่นเข้าทีมไปมากกว่าพันล้านปอนด์ กลับต้องนั่งมองเพื่อนบ้านน่ารำคาญอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ลีกครั้งแล้วครั้งเล่า นั่งดูลิเวอร์พูลคู่ปรับตลอดกาลได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก และพรีเมียร์ลีก ตามมาด้วยเชลซีที่ได้ทั้งแชมป์ยูโรและลีกสูงสุด ไม่เพียงเท่านั้น เลสเตอร์ ซิตี้ ยังสร้างปาฏิหาริย์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครอง ทั้งหมดเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาแฟนบอลปีศาจแดงที่เคยครองความเป็นใหญ่บนเกาะอังกฤษมานานหลายทศวรรษ
การกลับมาของ คริสเตียโน โรนัลโด หนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดตลอดกาล ตำนานของสโมสร จึงเป็นเหมือนความหวังที่แฟนผีแดงรอคอย การยอมควักกระเป๋าของตระกูลเกลเซอร์หนนี้มีนัยสำคัญ เรื่องแรกเลยคือ การซื้อใจแฟนบอลกลับมาหลังจากหลายปีของความขัดแย้ง ตามมาด้วยถ้าหากโรนัลโดไปอยู่กับเรือใบสีฟ้าจริงๆ การจะกลับมาครองเกาะอังกฤษอีกครั้งของปีศาจแดงก็จะยากขึ้นไปอีก งานที่ทำไป เงินที่ลงทุน จะเหมือนศูนย์เปล่า จริงอยู่ที่ว่าค่าตัวที่จะต้องจ่ายให้ยูเวนตุสนั้นไม่มากเท่าไหร่ ราวๆ 12.85 ล้านปอนด์ พร้อม Add on อีก 6.85 ล้านปอนด์ แต่ค่าเหนื่อยมหาศาลของศูนย์หน้าฝอยทองต่างหากที่เป็นปัญหากับหลายทีม
จากรายงานของ The Telegraph ระบุว่า โรนัลโดจะเป็นนักฟุตบอลที่ได้ค่าเหนื่อยมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก เข้าใจกันว่าสัญญา 2 ปีของ CR7 นั้นมีเงื่อนไขสามารถต่อได้อีก12 เดือน โดยจะได้ค่าเหนื่อยอยู่ที่ 560,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ กับกองหน้าวัย 36 ปีถือเป็นเงินลงทุนที่มากโข ซึ่งตระกูลเกลเซอร์นั้นเคยทำแบบนี้มาแล้วกับ ทอม เบรดี หนึ่งในควอเตอร์แบ็กที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ NFL
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่านอกจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแล้ว พี่น้องเกลเซอร์ยังเป็นเจ้าของทีมแทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส ทีมอเมริกันฟุตบอลใน NFL โดยทีมโจรสลัดคว้าแชมป์ซูเปอร์โบลว์ครั้งแรกในฤดูกาล 2002 ในซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 37 เมื่อเอาชนะโอ๊คแลนด์ ไรเดอร์ส ไปแบบขาดลอย 21 ต่อ 48 แต้ม เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2003 แต่หลังจากนั้นชะตาของแทมปาเบย์ก็ไม่ต่างไปจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังยุคเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่พยายามแล้วพยายามเล่าในการกลับขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่ง แต่ก็ทำไม่ได้
ในปี 2020 หลังจากที่ประสบความสำเร็จกับนิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ได้แชมป์ซูเปอร์โบวล์ 6 สมัย ทอม เบรดี ในวัย 43 ปีก็โบกมือลานักรบกู้ชาติ ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเจ้าตัวอาจจะเลิกเล่น หรือทีมไหนจะคว้าตัวเขาไปร่วมทีม แล้วการย้ายทีมแบบไม่มีค่าตัวที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ NFL ก็เกิดขึ้น เมื่อ ทอม เบรดี ตัดสินใจไปร่วมทีมแทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส แฟรนไชส์ที่พบแต่ความพ่ายแพ้ในช่วงทศวรรษหลัง ทีมที่มีเปอร์เซ็นต์ชนะน้อยที่สุดใน NFL
17 มีนาคม 2020 ทอม เบรดี เซ็นสัญญา 2 ปีกับทีมโจรสลัดแห่งฟลอริดา ด้วยค่าเหนื่อย 50ล้านดอลลาร์ฯ ทีมที่ไม่ผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟมาตั้งแต่ปี 2007 กลายเป็นการเริ่มต้นใหม่ครั้งแรกของเบรดีในรอบเกือบ 20 ปี โดยมีเพื่อนซี้อย่าง ร็อบ กรอนคาวสกี ตามมามาร่วมทีมด้วย
การเดิมพันของตระกูลเกลเซอร์กับตำนานควอเตอร์แบ็กอายุเยอะผลิดอกออกผล เมื่อ ทอม เบรดี ใช้เวลา 11 เดือน พา แทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส เป็นแชมป์ซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์แฟรนไชส์ แชมป์ครั้งแรกในรอบ 18 ปี
ตระกูลเกลเซอร์หวังว่าการเซ็นสัญญาอีกครั้งกับ คริสเตียโน โรนัลโด จะเหมือนกับการดึง ทอม เบรดี มาร่วมทีมใน NFL ทั้งสองคนอาจจะดูอายุมากในสายงานที่ตัวเองถนัด แต่พวกเขาก็เป็นที่สุดในสายงานของตัวเองเช่นกัน
คนหนึ่งเป็นควอเตอร์แบ็กที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดตลอดกาล อีกคนเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งสองคนมีความมุ่งมั่นและความต้องการเอาชนะแบบไม่เป็นรองใคร ทั้งสองคนประสบความสำเร็จมากมายกับทีมที่ตัวเองเคยอยู่ เป็นผู้นำทั้งในและนอกสนาม แล้วทำไมโรนัลโดจะพาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาประสบความสำเร็จแบบที่ ทอม เบรดี ช่วยแทมปาเบย์ บัคคาเนียร์สไม่ได้
แค่เซ็นสัญญาและยังไม่ได้ลงสนาม โรนัลโดก็ช่วยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้แล้วในเรื่องนอกสนาม ทั้งราคาหุ้นที่สูงขึ้น เสื้อแข่งที่ขายดีขึ้น ที่เหลือต่อจากนี้คือ ถ้วยรางวัล ว่าจะตามมาไหม
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม